11 ม.ค. 2021 เวลา 04:05 • ความคิดเห็น
ผลแห่ง..โลก(โรค)ไร้พรมแดน..กำลังเกิด
เมื่อประมาณช่วงปี 2535..ช่วงกำเนิดยุค โลกาภิวัฒน์..โลกไร้พรมแดน เริ่มบูมขึ้นในยุคอินเตอร์เนตการสื่อสาร ผ่านดาวเทียม ทีวีเริ่มหันหาจานรับดาวเทียม โทรศัพท์สายเริ่มถูกเมิน มาสู่มือถือ การสื่อสารใช้ดาวเทียมเริ่มมากขึ้น สู่การเดินทางระหว่างประเทศระหว่างทวีปที่แสนง่ายดายด้วยเงินไม่เท่าไหร่ เพราะเริ่มมีสายการบินโลว์ครอสเริ่มขึ้น จวบจรฝนปัจจุบันจากโทรมือถือ แพ็คลิ้งติดตามตัว มาสู่สมาร์ทโฟน การคุยกันประชุมกันด้วยมือถือผ่านแอพพลิเคชั่นยอดฮิต สิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดคือการก้าวสู่ยุค..โลกไร้พรมแดน..แต่ถ้าว่า..วันนี้โลกไร้พรมแดนกำลังเป็นเรื่องที่ก่อเกิดปัญหาที่อย่ามองข้าม..เลย..การนำพาให้เกิดเชื้อโรค อย่าง virus covid-19. ซึ่งก่อนหน้านี้อาจมีโรคซาร์ส ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ แต่การระบาดยังไม่เทียบเท่ากับ covid-19 นี้..เมื่อการระบาดเกิดขึ้นช่วงปลายปี 2019 นั้นหลายคนอาจนั่งถกเถียงกันเรื่องสาเหตุที่เกิดขึ้น จนปัจจุบันการเถียงเรื่องนี้เงียบไปแล้วเพราะเจอตอ..ที่ว่าใครสร้างไวรัสตัวนี้ขึ้น อะไรไม่สำคัญว่าทำไมไวรัสตัวนี้กลายพันมากจัง กว่า 6สายพันธ์..อย่าได้ให้กล่าวเพราะข้อมูลที่แม้จะสมบูรณ์แต่คงไม่มีใครรับว่ามันมาอย่างไรทำไมจึงกลายพันธ์...แต่ที่แน่ๆ..ถ้ามนุษย์โลกเดินทางกันน้อยมากอย่างเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว..ไวรัสนี้คงยากที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลกเช่นนี้
สังเกตุไหมว่าข้อมูลที่จริงบางส่วนออกมาว่าเชื้ออยู่ในอากาศได้จริงแต่ไม่นานเกิน9 นาที..เชื้อที่กระจายในอากาศต้องจับติดวัตถุอาจอยู่ได้นานจาก 9 นาที เป็น 9 วัน แต่ถ้าเช้ากระจายและจับสู่สิ่งมีชีวิต(คนเป็นหลัก)เชื้อจะแพร่ขยายพันธ์ได้ทันที ในความเชื่อของแอดมินเชื้อพวกนี้ถูกตัดแต่งพันธุกรรม..เพื่อ..ลดทอนกำลังของคน ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม เมื่อเชื้อแพร่กระจายกลายเป็นโรคระบาด..มันดึงสภาวะทุกอย่างของสังคม ทั้งสุขภาพที่มนุษย์ยุคนี้กลัวตาย..(ทั้งที่ต้องตายกันทุกคน)และก่อเกิดทั้งปัญหาสภาวะสังคม เศรษฐกิจที่น่าจะเหมือนสงครามโลกครั้งที่3 แทนที่คนจะตายด้วยอาวุธสงครามกับเจ็บป่วยและตายด้วย เชื้อโรค ที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าและเราก็ป้องกันตัวไม่ได้ 100%
จึงมองในมุมหนึ่งว่าเชื้อโรคนี้มาเพื่อ..สกัดกันหรือทำลายมนุษย์โดยตรง มิใช่อาวุธสงครามอย่างนิวเคลียร์ที่นอกจากจะทำลายชีวิตและวัตถุ สิ่งก่อสร้างพินาศในเวลาไม่ถึง3 นาทียังทิ้งมลพิษที่ตกค้างไว้กับสิ่งมีชีวิตในรัศมี 50 ก.ม นั้นอีกยาวนาน..การปล่อยเชื้อนี้ก็ไม่ยาก..จากคนเดินทางที่มีเชื้อสู่คนอื่นๆในรัศมา1 เมตร ย่อมกระจายได้มาก และยิ่งมีการพัฒนาเชื้อ..ยิ่งแพร่ระบาดรวดเร็ว มากขึ้นถึงแม้ผลพวงการระบาดที่ผู้ปล่อยก็ต้องรับด้วย เขาก็ตั้งรับกันอย่างดี..ประชาชนพลเมืองคือผู้รับไปเต็มไป คนที่รับเชื้อแล้วไม่เจ็บป่วยมีเพราะมีสุขภาพและภูมิคุ้มกันที่ดี แต่ก็รับผลกระทบจากการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจที่กำลังพังพินาศ
ผลพวงแห่งเชื้อโรคร้ายนี้..คือ..การระบาดไปทั่วโลกแบบ..โรคไร้พรมแดนจริงๆ..
ในความเห็นของแอดมิน..การรอดพ้นจากโรค(โลก)ไร้พรมแดนนี้มีไหม..มีอยู่..และการอยู่รอดหรือการต่อสู้กับระบบเศรษฐกิจที่กำลังพังทะลายมีไหม..ตอบเลยว่า..มี..
ไว้คราวหน้าจะคุยถึงเรื่องการรอด..อีกครั้งอยากเห็นความคิดของคุณๆท่านๆในเรื่องโลก(โรค)ไร้พรมแดนนี่บ้าง
โฆษณา