18 ม.ค. 2021 เวลา 13:17 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“อู่ฮั่นเกต”
วันนี้ Taiwan News รายงานข่าวคลิปวิดีโอที่ Peter Daszak ผู้อำนวยการ EcoHealth หน่วยงานของ WHO ให้สัมภาษณ์เมื่อตอนต้นเดือนธันวาคม 2019 (สามสัปดาห์ก่อนที่จีนจะประกาศไวรัสระบาด) โม้ว่าห้องแล็บอู่ฮั่นซึ่งได้รับเงินสนับสนุนผ่านทางโครงการ PREDICT ของ WHO ทำการทดลองโคโรน่าไวรัสที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมให้สามารถติดเซลล์มนุษย์และหนูทดลองที่ดัดแปลงให้มีเซลล์คล้ายมนุษย์ได้ นำทีมโดย Shi Zhengli
ทั้งๆที่ Peter Daszak เคยบอกหลังการระบาดว่าห้องแล็บอู่ฮั่นไม่เคยทำการทดลองอะไรที่อันตรายแบบนั้น และ Peter Daszak คนนี้คือคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการปกป้องห้องแล็บ รวมทั้งมีการแทรกแซงการเขียนเปเปอร์ในช่วงแรกๆที่ตีพิมพ์ใน Lancet เพื่อสนับสนุนทฤษฎีไวรัสมาจากธรรมชาติ (ไม่ได้หลุดจากห้องแล็บ) ทั้งๆที่หลักฐานแทบทุกชิ้นพุ่งไปยังทฤษฎีไวรัสมาจากห้องแล็บทั้งนั้น
คลิปวิดีโอ youtube นาทีที่ 28:10 จากต้นเดือนธันวา 2019 ที่ Peter Daszak ให้สัมภาษณ์โม้เรื่องงานวิจัยที่ห้องแล็บอู่ฮั่นทำการทดลองโคโรน่าไวรัสที่ไม่มีอยู่จริงในธรรมชาติและยังไม่มีวัคซีน ให้สามารถเจาะเข้าเซลล์มนุษย์ในหนูทดลองได้
ในเปเปอร์ของ Shi Zhengli ข้างล่างนี้จะเห็นได้ว่ามีการทดลองกับไวรัสดัดแปลงพันธุกรรมที่อันตรายซึ่งไม่มีอยู่ในธรรมชาติและไม่มีวัคซีนป้องกันในห้องแล็บระดับ 2 เท่านั้น ไม่ได้ใช้ห้องแล็บระดับ P4 ที่มีความปลอดภัยสูงสุดด้วยซ้ำ
แต่เปเปอร์ที่เขียนออกมาสนับสนุนทฤษฎีไวรัสจากธรรมชาติอ้างว่าเป็นไปไม่ได้ที่ Shi Zhengli จะทำไวรัสหลุดออกมา เพราะงานของ Shi ทำในห้องแล็บระดับ 4
หลักฐานแวดล้อมทุกอย่างชี้ไปว่า SARS Cov2 หลุดออกมาจากห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่น และจนถึงวันนี้ ยังไม่มีหลักฐานสักชิ้นเดียวที่ชี้ว่าไวรัสมาจากธรรมชาติ มีแต่นักวิทยาศาสตร์หลักๆไม่กี่คนที่ยืนกระต่ายขาเดียวว่ามันมาจากธรรมชาติ โดยตั้งทฤษฎีลอยๆว่ามันกระโดดจากค้างคาวมาสู่สัตว์อะไรสักอย่างก่อนที่จะกลายพันธ์จนสามารถติดเซลล์มนุษย์ได้
ทำไมนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้จึงยืนกระต่ายขาเดียวว่าโควิดมาจากธรรมชาติทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียว?
ข้างบนนี้เป็นอีเมล์ที่ Peter Daszak ส่งถึงนักวิทยาศาสตร์ 27 คนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ให้ช่วยกันเขียนเปเปอร์โดยเลือกใช้คำที่สนับสนุนทฤษฎีไวรัสมาจากธรรมชาติเพื่อร่วมปกปิดโครงการทดลองกับไวรัสดัดแปลงพันธุกรรมของ Shi Zhengli ให้หลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย โดยกล่าวหาว่าทฤษฎีไวรัสหลุดจากห้องแล็บเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิด ทั้งๆที่หลักฐานแวดล้อมและความเป็นไปได้ในเชิงสถิติทุกอย่างพุ่งไปที่ไวรัสหลุดจากแล็บ และไม่มีหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียวที่ชี้ไปว่าไวรัสตัวนี้สามารถเกิดขึ้นเองได้ในธรรมชาติ มีแต่เพียงข้อสมมุติฐานที่เลื่อนลอยว่ามีสัตว์อะไรสักอย่างเป็นตัวกลางระหว่างค้างคาวกับคน
หากความจริงเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่ วงการวิทยาศาสตร์จะสะเทือนอย่างหนักกับความฉ้อฉลของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้
เรียกว่าเอาไปสร้างเป็นหนัง “อู่ฮั่นเกต” ได้เลย
โฆษณา