คุณเชื่อในเรื่องเครื่องรางของขลังหรือเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางกันผี เครื่องรางป้องกันโชคร้าย
หรือกระทั่งเรียกเงินทอง
ความเป็นจริงคืออะไร เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอย่างไร
เดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟัง หลังนิทานจบนะ
คำเตือน เรื่องนี้มีความรั่ว และไดเรคเซลมากกว่าที่คิด โปรดทำใจก่อนที่จะอ่าน
หรือถ้าไม่อ่าน ก็ข้ามไปได้เลย
นิทานปรัมปราของชายตาบอด เรื่อง หินเรียกทรัพย์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ในสมัยที่ยังมีเรื่องราวของไสยเวทย์มนต์ดำ
แม่มด หมอผี ผู้วิเศษ คาถาอาคม เครื่องทรงเซ่นสังเวยบูชา
เครื่องรางของขลัง ของวิเศษที่มีกลาดเกลื่อนล่อกิเลสของผู้คน
ในบรรดาสิ่งเหล่านั้น ที่มีทั้งของจริงของปลอม
บางอย่างก็ก้าวข้ามผ่านกาลเวลามา
ผ่านการกวาดล้าง ผ่านการทำลาย
ผ่านการปลุกเสก ผ่านการส่งต่อ
ตกทอดมายาวนานรุ่นต่อรุ่น
ในโกดังเก็บของเก่าๆ ของคุณปู่ผู้มั่งคั่ง ข้างในนั้นยังมีสิ่งของพิเศษบางอย่าง
ที่รอเจ้านายใหม่ของมันอย่างเงียบๆ อย่างนิ่งสงบ
วันหนึ่งคุณปู่ได้รื้อของเก่าๆ ของตนเองมาจัดทำความสะอาดเตรียมต้อนรับตรุษจีน
แม้ปู่จะหน้าตาฝรั่งจ๋าก็ตาม
ปู่ได้ค้นข้าวค้นของจนพบมอด เอ้ย กล่องใบหนึ่ง
กล่องใบนี้อยู่มานานมาก ปู่ได้รับต่อมาจากปู่ ซึ่งได้มาจากปู่อีกที
เอาเป็นว่ามันนานมากก็แล้วกัน
ในนั้นมีหินอยู่ 3 ก้อน ซึ่งปู่ก็ลืมไปแล้วว่ามันคืออะไร
ปู่จึงเรียกหลานเพื่อมาส่งมอบต่อไป แม้จะจำไม่ได้ว่ามันเอาไว้ทำอะไรก็ตาม
"หิน 3 ก้อนนี่คืออะไรครับปู่"
"ปู่ก็จำไม่ได้แล้วล่ะ ปู่ได้รับมาจากปู่ ซึ่งก็ได้รับมาจากปู่อีกที
แต่เอาเป็นว่าต้องเป็นของดีสักอย่างล่ะ ไม่งั้นปู่ก็คงจะทิ้งมันไปนานละ"
หลานชายจึงรับเอาไว้ด้วยความงงๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี
เขาจึงเอามันไปตั้งไว้บนชั้นวางหนังสือ
หลานชายซึ่งอยู่ในวัยอยากได้นั่นอยากได้นี่ หรือพูดง่ายๆ ว่าฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ
ก็ใช้ชีวิตอย่างขยันต่อไป
ถ้าถามว่าทำไม แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่ใช้จ่ายมาก
แต่เขาก็เป็นคนที่หาเงินมาใช้เอง
หลังจากเขารับหินมาจากปู่ไม่นานนัก
"เธอไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้ว"
หลานชายถูกไล่ออกจากงานที่ทำอยู่
เขารู้สึกช็อกกับชีวิต เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้อดซื้อสินค้าลิมิเต็ต BNK48
เขาเดินห่อเหี่ยวคอตกกลับบ้าน ฝนก็ตกแบบถล่มทลายที่จังหวัดอื่น (จะบอกทำไม)
สรุปคือเดินเศร้าๆ เซ่อๆ กลับบ้านแล้วกระโดดคว่ำหน้าบนเตียงหวังจะให้ตัวเองสำลักขี้ฝุ่นตายให้เอน็จอนาถสมความหมดอาลัยตายอยาก
ใจหนึ่งก็นึกถึงก้อนหินโง่ๆ 3 ก้อนที่ไม่รู้มามันคืออะไร และใจหนึ่งก็คิดว่าปู่ให้มาเพื่อกำจัดขยะ
หลังจากนอนนิ่งๆ เอาน้ำตาลงหมอนจนพอใจ ก็คิดได้ว่า เศร้าซึมต่อไป ก็จะไม่ได้หมอนข้างรูปสาวมานอนกก
เขาจึงลุกขึ้นมา และหางานบนอินเตอร์เน็ต
และระหว่างที่เขาค้นอินเตอร์เน็ตอยู่นั้น เขาก็ได้พบว่า...
มือถือมีข้อความของเพื่อน ชวนไปทำงานพิเศษ ซึ่งดันเป็นเวลาเดียวกันกับงานเก่าที่ทำพอดี
เขาจึงวิดีโอคอลไปหาเพื่อน และพบว่า งานนี้ ได้เงินมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า
แน่นอนว่าเขายินดีเป็นอย่างมาก รีบเปิดกล่องหิน แล้วกินชาบู เอ้ย ทำท่าบูชา
ประมาณว่า โอ้ นี่มันของขวัญพระเจ้าที่ประทานมาให้
ในหัวจิตหัวใจก็มีภาพนางฟ้าในชุดไอดอลยื่นมือมาจับ
ถ้าได้ตังขนาดนี้ จะไปงานจับมือจนหนังมือพวกเธอติดกลับมือมาเลย (หลอนฟร่ะ)
ด้วยความดีใจ แล้วไม่รู้จะไปคุยกับใครดี จึงโทรไปบอกปู่
"ปู่!!!!!" ทันทีที่เจอหลานชายส่งเสียงดัง สมองเสื่อมๆ มึนๆ ของปู่ก็นึกขึ้นได้
"เฮ้ย นั่นมัน หินเรียกทรัพย์หรือเปล่า"
"อย่างงั้นเหรอปู่ มิน่า ผมถึงได้งานใหม่ เงินดีกว่าเดิมอีก"
ปู่ได้ยินก็คิดเสียดาย และรู้สึกไม่แปลกใจว่าช่วงนี้การเงินเริ่มฝืดๆ เหมือนข้อต่อเทียมที่น่าจะต้องไปเปลี่ยนแล้ว
แต่ศักศรีดิ์ความเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ และความเป็นผู้ชาย พูดจาคำไหนย่อมคำนั้น
"เออ ดีแล้วๆ หลานเก็บไว้และดูแลมันดีๆ ล่ะ ของพวกนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ นะ"
พอพูดจบ วางสาย กูก็คิดในใจว่า เออ คนเขียนนี่แหล่ะ ไม่ใช่ปู่
รู้สึกเรื่องมันจะยาวออกทะเลไปไกลละ จะมีใครอ่านจนจบไหม แต่ยังไงก็ต้องมีข้อคิดสอนใจ พ่วงขายของด้วยอ่ะนะ
ปู่รู้สึกเสียดายนิดๆ แต่ตอนนี้ ชีวิตเขาก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องใช้มากมาย แต่ก็หวังว่า หลานจะไม่หลงระเริงกับทรัพย์สมบัติมากจนเกินไป
แบบที่เคยเกิดขึ้นกับพี่ชายของปู่มาแล้ว
หลังจากที่มั่งมี เงินค่าจ้างมากกว่าเดิม 3 เท่า แถมซื้อล๊อตเตอรี่ก็ถูก หวยหุ้นก็ได้ บาคาร่าก็ชนะ ไฮโลก็โอ้โหกำไร
(ทำไมการพนันเยอะจังฟระ ความจริงเรื่องพวกนี้มันก็ใกล้กับตัวเราที่สุดอ่ะนะ)
ทำงานก็ได้ทิป ค่าแรงพิเศษก็มี ค่าควงกะก็มา โอลัลล้า ชีวิตช่างดูน่าอภิรมย์
ภาพผู้ชายใส่สูทหล่อๆ ใส่แว่นหยิบเงินมาโปรยไปในอากาศ
คือสภาพอารมณ์และจิตใจของหลานชายคนนี้
ชาวบ้านมายกย่องป้อยอหวังกินเศษตังที่สุรุ่ยสุร่ายนี้
หลังจากเลียแข้งเลียขา เลียรองเท้า แทบจะเลียก้น ประจบสอพลอจนเท้าหลานชายลอยไม่ติดพื้น
พวกผู้หวังดีก็รู้ว่า เพราะหินเรียกทรัพย์
วันหนึ่ง ในขณะที่ผู้หวังดีกับตัวเอง ได้เข้าไปเที่ยวในบ้านของหลานชายสายเปย์
กล่องใส่หิน ก็ได้หายออกไปจากบ้านของเขา
หลังจากเที่ยวเตร็ดเตร่อย่างมีความสุข มือไม่ล้างไม่หวั่นโควิดเพราะไปงานจับมือมา
เขาก็ต้องพบว่า หีนนนนนนหายไปแล้ววววว
พอไปถามก็มีแต่คนตอบไม่รู้ไม่ชี้
เขามั่นใจว่าต้องเป็นหนึ่งในผู้หวังดีแน่นอน แต่มีผู้หวังดีมากมายหลายคนเหลือเกินที่เข้ามาในบ้าน
จึงไม่รู้จะไปตามหาจากใคร
ภาพฝันอันสวยหรูสูญสลายราวเมฆหมอกที่หายไปในยามสาย
แม้ท้องฟ้าจะสดใสเจิดจ้า ในอนิจจา ในใจเขายามนี้ช่างหมองหม่นยิ่งนัก
เหมือนอาศัยอยู่บนหอคอยงาช้าง แล้วหอคอยเกิดถล่มลงมา
เขาทำงานไปด้วยใจหวาดหวั่น ว่าทรัพย์สมบัติที่ได้มามากมายจะหายไปอย่างรวดเร็วพอๆ กับตอนที่มันมา
เขาทำงาน หาเงิน ประหยัด
ทำงาน หาเงิน ประหยัด วนไปเช่นนี้อยู่ราวๆ สัปดาห์
ไม่มีแล้ว เงินถุงเงินถังมากมีราวร่วงหล่นลงมาจากฟ้า
แต่ชีวิตการงานเขาก็ไม่ได้ตกต่ำพังทลายแต่อย่างใด
เขาเริ่มปรับตัว อยู่กับชีวิตที่แสนเรียบง่าย
ไร้ความหรูหราฟู่ฟ่า ใช้เท่าที่จำเป็น
แล้วเขาก็พบว่า ชีวิตที่ไร้หินเรียกทรัพย์นั้น ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก
ถึงเขาจะไม่กล้าเล่าให้ปู่ฟังก็เถอะ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินข่าวของผู้หวังดีรายหนึ่ง ว่าจู่ๆ ก็กลายเป็นสายเปย์
หลานชายได้ฟังก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะไปชิงคืนแต่อย่างใด
เขาประมาทเอง จึงสูญเสียสิ่งสำคัญไป
คุณปู่เคยพูดไว้ ของที่จะเป็นของเรา ยังไงสุดท้ายมันก็จะเป็นของเรา
ของที่ไม่ใช่ ต่อให้พยายามให้ตายก็ไม่ใช่
หลังจากนั้นอีกไม่นาน เขาก็ได้ยินว่า ผู้หวังดีคนนั้นตกอับถังแตกชีวิตแหลกเหลว
และได้ข่าวชีวิตดี๊ดีของผู้หวังดีอีกคนแทน
.
.
.
สรุปนิทานเรื่องนี้สอนอะไรดี ผมจะมาสรุปๆ รวมๆ ไปกับเรื่องหินเหล่านี้เลยละกัน
ศาสตร์มากมายหลายอย่างของมนุษย์ ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นจากการสังเกต เก็บข้อมูล และสะสมความรู้ต่อๆ กันมา
ไม่ว่าจะพิธีกรรมเรื่องจิตวิญญาณต่างๆ ฮวงจุ้ย คาถา คำสาป
บางอย่างไม่สามารถพิสูจน์เป็นรูปธรรมได้ เป็นเพียงแค่ความรู้สึก
แต่หากมองในเชิงเรื่องที่จับต้องได้ ทุกสิ่งในโลกมีคลื่นและพลังงานอยู่
ทุกสิ่งในโลกเพราะกอบด้วยอะตอม ธาตุต่างๆ ที่เคลื่อนไหวและปลดปล่อยพลังงานตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นกระแส คลื่นแม่เหล็ก แรงดึงดูด
แน่นอนว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นเป็นปัจจัยที่มีผลทั้งต่อตัวเราและสภาพแวดล้อมด้วย
ไม่ว่าจะการใส่สีสันสดใสชีวิตร่าเริง อยู่ในบ้านหินอ่อนจะเย็น หยกช่วยเรื่องสุขภาพ
มังกรเสริมบารมีและพลังอำนาจ เป็นต้น
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญทั้งหมดทั้งมวลนี้คือตัวเรา
สมมุติว่า มีคนได้หินเรียกทรัพย์มา (พลังจะขึ้นกับขนาดและความบริสุทธิ์ของแต่ละอย่าง)
แต่เขานั่งกินนอนกิน วันๆ ไม่ทำอะไร เล่นแต่หวยและล๊อตเตอรี่
คุณคิดว่าชีวิตจะร่ำรวยขึ้นไหม โอกาสที่จะได้เงินกับเสียเงินมันต่างกันมาก
ต่อให้ของบางอย่างจะมีพลังก็จริง แต่ไม่มีช่องทางให้มัน มันจะเป็นไปได้ไหม
เหมือนคุณอยากได้น้ำเยอะๆ ฝนตกให้หนักมาก แต่ภาชนะที่ใช้มีเพียงแก้ว 1 ใบ
จะเก็บน้ำเยอะๆ ได้อย่างไรกัน
กลับกัน ถ้าเราเป็นคนตั้งใจขยันขันแข็ง ทำมาหากิน
มีงานนู้น มีช่องทางหาเงินตรงนี้ มันจะมีเงินทองไหลเข้ามาก็ไม่แปลก จริงไหม
กลับกัน หากวันหนึ่ง พวกของวิเศษเสื่อม หรือมีคนเอาไป
คนที่ไม่จัดการ ดูแลตัวเอง ก็จะยิ่งตกต่ำ และยากลำบาก
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพึ่งตนเองให้มาก จัดการดูแลสิ่งต่างๆ ให้ดี
ของเรียกทรัพย์ หินแร่ ไอ้ไข่ หรืออะไรก็ตาม ถ้ามีและใช้ได้จริงก็ดี
แต่ถ้าตัวเองไม่ดี ยังไงก็ไม่ไหวหรอก
ว่าแต่ สนใจเป็นแหวน กำไล หรือจะเอาเป็นก้อนไปเลยไหมล่ะ
Martin Zen
โกเมน ซิดทีน ไพไรท์
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
