12 ก.พ. 2021 เวลา 10:00 • ธุรกิจ
ลาออกจากงานมาเปิดร้านอาหารดีมั้ย ?
1
ลาออกจากงานมาเปิดร้านอาหารดีมั้ย ?
คงเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้
เพราะหลายคนอาจเริ่มเบื่อกับการเป็นพนักงานประจำ
เบื่อกับการต้องทำตามคนอื่นตลอดเวลา
เห็นเพื่อนหลายคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว ก็มีรายได้มากมาย
มีเวลาไปไหนมาไหน
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ผมอยากให้คุณลองถามตัวเอง 4 ข้อนี้ดู
หากคุณสามารถตอบตัวเองได้ทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว
นั่นหมายถึงคุณน่าจะพร้อมที่จะเป็นเจ้าของร้านอาหารแล้วจริงๆ
1. ดูประสบการณ์ความรู้เรื่องธุรกิจและเรื่องอาหาร
การเป็นพนักงานที่ดีไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีได้
เวลาคุณเป็นพนักงาน คุณได้รับมอบหมายให้คุณแค่แผนกเดียว
ดูเพียงเรื่องเดียว การรู้ลึกเรื่องนั้นๆจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
แต่สำหรับการเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วรู้ลึกอย่างเดียวไม่พอ
คุณจะต้องรู้กว้างในทุกๆเรื่องด้วย ทั้งเรื่อง บัญชี การจัดการ
การบริการ งานบุคคล รวมไปถึงเรื่องการตลาดที่จำเป็นอย่างมากในยุคนี้
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องตัวอาหารเองที่จะแค่ทานเป็นไม่ได้
แต่คุณต้องรู้ถึงขนาดที่ว่าร้านอาหารประเภทนั้นมีร้านอะไรบ้าง
รสชาติแต่ละที่ต่างกันยังไง กลุ่มลูกค้าเป็นใคร
และจะทำยังไงให้รสชาติของคุณมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับร้านอื่นๆ
ไม่เช่นนั้นแล้วคุณก็ไม่ต่างจากร้านที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป
เพียงแค่ต่างกันในเรื่องของโลโก้และชื่อเท่านั้น
2. ดูศักยภาพการรับความเสี่ยง
ทำไมเราต้องสนใจเรื่องนี้?
เพราะแต่ละคนมีภาระไม่เท่ากัน
มีศักยภาพในการแบกรับความเสี่ยงไม่เท่ากัน
ซึ่งธุรกิจร้านอาหารถือเป็นธุรกิจที่เสี่ยงสูง
โอกาสในการประสบความสำเร็จอาจมีแค่ 10-20% เท่านั้น
แล้วหากมันเกิดขายไม่ดี คุณมีเงินทุนสำรอง
เพื่อเติมเข้าไปในธุรกิจมากแค่ไหน
คุณมีภาระในครอบครัวที่ต้องดูแลมากแค่ไหน
หากทุกวันนี้คุณต้องดูแลค่าใช้จ่ายที่บ้านทั้งหมด
ลูกก็ต้องส่งเรียน พ่อแม่ก็ต้องดูแล
การออกจากงานประจำมาทำธุรกิจร้านอาหารเต็มตัว
หรือหากคุณต้องทุ่มเงินที่มีทั้งหมดในการเริ่มร้านอาหารเลย
ก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีมากนัก
อย่างน้อยคุณควรจะกันเงินส่วนนึงเก็บไว้หากวันนึงร้านที่ทำอยู่ไม่เวิร์ค
คุณก็ยังพอมีเงินในการดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆได้ในระยะเวลานึง
3. ดูรายได้ที่คาดหวังกับเงินเดือนที่ได้ในปัจจุบัน
คุณอย่าลืมว่าต่อให้ร้านคุณคาดว่าจะได้กำไรเดือนละ 50,000 บาท
ในขณะที่ปัจจุบันคุณได้เงินเดือนอยู่ที่ 40,000 บาท
ซึ่งมากกว่าอยู่ถึงเดือนละ 10,000 บาท
แต่ความเสี่ยงก็มากกว่าด้วยเช่นกัน
คุณเป็นพนักงานประจำคุณมีวันลาหยุด คุณมีสวัสดิการ
ประกันสังคม สิ้นปีคุณยังมีโบนัส ได้ขึ้นเงินเดือน
แต่การทำร้านอาหารในช่วงแรกเมื่อไหร่ที่คุณหยุดเงิน
คุณก็จะหายไปด้วยเช่นกัน เจ็บป่วยคุณก็ต้อง
ออกค่ารักษาพยาบาลเอง เพียงแต่หากร้านคุณขายดี
ก็มีโอกาสจะได้กำไรมากกว่าที่คุณตั้งไว้ด้วยเช่นกัน
อีกประเด็นนึงก็คือบางครั้งกำไรที่คุณได้จริงอาจไม่เท่ากับที่คุณไว้
ก็เป็นได้ต่อให้จะขายได้ตามที่คิด เพราะส่วนใหญ่
คนที่เพิ่งเริ่มทำร้านอาหารมักจะลืมคิดค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆเข้าไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ ค่าประกันภัย
ค่าทำการตลาด ค่าจ้างพนักงานพาร์ตไทม์ และค่าVAT ต่อเดือนเป็นต้น
ถ้าให้ผมแนะนำ คุณอาจจะเริ่มด้วยการขายอาหารดิลิเวอรี่ช่วงวันหยุด
ควบคู่กับการทำงานประจำไปก่อน จนวันนึงเมื่อกำไรในธุรกิจ
เริ่มใกล้เคียงกับเงินเดือนที่คุณได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแล้ว
วันนั้นหากจะออกมาเต็มตัวก็อาจจะคุ้มเสี่ยงมากกว่านี้
4. หากร้านไปไม่รอดสามารถกลับไปทำงานประจำได้มั้ย
ฟังแล้วอาจดูหดหู่ แต่ชีวิตจริงอะไรก็เกิดขึ้นได้
ถ้าวันนึงร้านที่คุณทำเกิดไปไม่รอดจริงๆ การมี Exit Plan ล่วงหน้าไว้
อย่างน้อยก็อาจช่วยให้คุณตัดสินใจในช่วงนั้นได้ดีขึ้น
ฉะนั้นการรักษาความสัมพันธ์กับนายจ้างหรือบริษัทเดิมไว้
เป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่คุณลาออกกะทันหัน
หรือทิ้งภาระงานออกไปดื้อๆ และไม่มีการสอนงานคนใหม่
ที่จะมาดูแลแทนคุณไว้เลย ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงไม่มีใคร
อยากรับคุณกลับเข้ามาทำงานอีกแน่นอน
หรือระหว่างที่ทำร้านอาหาร คุณอาจต้องคอยอัพเดทข่าวสาร
ความรู้ของงานประจำที่คุณเคยทำไว้บ้าง
เผื่อวันนึงที่คุณกลับไปสมัครงานบริษัทเหล่านี้
คุณก็ยังพอพูดคุยกับเค้ารู้เรื่อง
เหล่านี้อาจฟังดูเหมือนว่าทำไมโลกมันดูโหดร้ายขนาดนี้
แต่เชื่อผมเถอะวางแผนไว้ก่อนแล้วมันไม่เกิดขึ้น
ดีกว่าไม่เคยวางแผนอะไรเลย แล้วมันเกิดขึ้นแน่นอน
ติดตาม Torpenguin - ผู้ชายขายบริการในช่องทางอื่นๆได้ที่
ติดต่องาน E-mail : torpenguin.channel@gmail.com
โฆษณา