14 ก.พ. 2021 เวลา 12:35 • ธุรกิจ
Mark Zuckerberg จะให้พนักงานใช้ VR (Virtual Reality) ในการทำงานแทนการเข้าออฟฟิศ
1
การ Work from home อาจจะเป็นการใช้ชีวิตปกติในรูปแบบใหม่สำหรับใครหลายๆคนไปแล้วในปีนี้ แต่หลายๆคนก็ยังคิดถึงบรรยากาศในการทำงานที่ออฟฟิศ เช่น การคุยกับเพื่อนร่วมงานที่โต๊ะทำงาน การเดินไปซื้อกาแฟ หรือเรียกว่าบรรยากาศการทำงานในออฟฟิศนั่นเอง บางคนก็ชอบ WFH แต่บางคน WFH แล้วปรากฎว่าเครียดกว่าเดิม เพราะอยู่แต่ที่บ้านหรือสภาพแวดล้อมเดิมตลอด ทำงานอยู่ที่บ้าน เลิกงานก็อยู่ที่บ้าน
แต่สุดท้ายรูปแบบการทำงานก็ได้เปลี่ยนไปแล้วแม้สถานการณ์การระบาดจะดีขึ้น แต่หลายบริษัท แม้บริษัทใหญ่ในไทยก็เริ่มเห็นว่าก็เป็นรูปแบบการทำงานที่เหมาะกับงานบางอย่าง และช่วยลดต้นทุนได้ด้วย แต่คำถามคือถ้าเราอยากได้บรรยากาศการทำงานแบบเดิมๆละจะทำอย่างไร?
วิธีการนี้เสนอโดย Facebook
ซึ่ง Mark Zuckerberg กล่าวว่าเราสามารถพบกับบรรยากาศเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้านเพื่อเข้าออฟฟิศผ่าน VR โดย Mark เปรียบเปรยว่ามันคือการ Teleport ไปในที่ๆเราอยากไปโดยใช้เทคโนโลยี
โดยเขาได้กล่าวผ่านแอพพลิเคชั่น Clubhouse ซึ่งเป็นรายการ audio talk show ว่า “สิ่งหนึ่งที่ VR จะปลดล็อกก็คือความสามารถในการใช้ชีวิตในทุกที่ที่คุณต้องการโดยรู้สึกเหมือนอยู่ที่นั่นจริงๆและนอกจากนั้นมันจะปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจมากมายเพราะผู้คนจะสามารถใช้ชีวิตหรือทำงานในที่ที่ต้องการจะไป”
การ Teleport หรือใช้ VR ไปในที่ต่างๆไม่ใช่ให้ลดเวลาในการเดินทาง แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสภาพอากาศจากการใช้รถยนต์อย่างมาก และรวมถึงจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆอีกด้วย เพราะเราไม่จำเป็นต้องไปที่เดิมทุกครั้งก็ได้
ต้องบอกว่าเป็นการมองการณ์ไกล(แต่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด)ของ Facebook
เพราะปัจจุบัน Facebook เป็นเจ้าของเทคโนโลยี VR อยู่แล้วนั่นคือ Oculus VR โดยในปี 2014 Facebook ได้ซื้อกิจการ Oculus VR ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังชุดหูฟัง Rift ซึ่งใช้สำหรับการเล่นเกม VR ที่มีสเปกสูง และปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำไปใช้ในงานที่จำเป็นมากขึ้น เช่น การฝึกอบรมหรือนำไปใช้ในออฟฟิศ
เทคโนโลยี VR ที่รุกเข้าสู่อุตสาหกรรมวงการบันเทิง
เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Royal Shakespeare ได้ประกาศว่าจะผลิตรายการ VR โดย Art Director ได้บอกกับ BBC News ว่า "ผู้ชมที่นั่งอยู่ที่บ้านจะมีอิทธิพลต่อการแสดงสดไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น มันไม่ใช่สิ่งทดแทนการนั่งในห้องส่งร่วมกับนักแสดงแต่มันเป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ”
1
ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ก็กำลังมองหาการปรับปรุงประสบการณ์ VR ให้เหนือการใช้แค่ตาและหูด้วยถุงมือ Nova ของ SenseGlove ที่ให้การตอบสนองแบบสัมผัส และการสั่นสะเทือน
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้ก็ยังมีมูลค่าที่สูง VR ที่ดีก็ยังมีราคาแพง ตัวอย่างเช่นถุงมือ Nova คู่หนึ่งราคา 3,700 ปอนด์
คอนเซปของโลกที่ 2 หรือโลกของ VR มีมานานแล้ว และปัจจุบัน VR กำลังถูกพัฒนาให้เราได้ความรู้สึกของทั้ง 5 สัมผัสหรือใกล้เคียงกับโลกจริงมากที่สุด ถ้าใครเคยดูหนังอย่าง Ready Player One ดูอนิเมะอย่าง Sword art online ดูซีรีย์เกาหลีอย่าง อาลัมบรา มายาพิศวง ในอนาคตของเราการใช้ VR คงไม่ต่างจากแบบนั้นเลยแค่จะถูกนำมาใช้มากน้อยแค่ไหน
โฆษณา