15 ก.พ. 2021 เวลา 10:30 • ไอที & แก็ดเจ็ต
ชื่อของแอปพลิเคชัน 'Clubhouse' กำลังถูกพูดถึงในฐานะโซเชียลมีเดียมาแรงที่ใช้เสียงในการสื่อสาร โดยผู้ที่จะเข้าไปใช้งานได้ต้องได้รับการเชิญเท่านั้น
9
เสน่ห์ของแอปฯ นี้ ทำให้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี 'Clubhouse' กลายเป็นแอปฯ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด มีคนดังเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และทำให้มูลค่าธุรกิจพู่งสูงถึง 10 เท่าตัวภายในไม่ถึง 1 ปี วันนี้ workpointTODAY จะสรุปให้อ่านกันว่า 'Clubhouse' เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วปัจจุบันมาแรงขนาดไหนในโลกออนไลน์
1
1.) 'Clubhouse' เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่ใช้เสียงในการสื่อสาร โดยภายในแอปฯ จะมีห้องต่างๆ ให้ผู้ใช้เข้าไปฟังและสามารถแสดงความคิดเห็นได้
2
หลายคนบอกว่า 'Clubhouse' มีลักษณะคล้ายแอปฯ ประชุมออนไลน์อย่าง 'Zoom' ที่ผู้ใช้ปิดกล้อง ได้ยินแต่เสียง และแต่ละห้องใน 'Clubhouse' จะเปิดกว้างเป็นสาธารณะ
1
แต่ทุกคนก็ไม่สามารถเข้าถึง 'Clubhouse' ได้ทันที เพราะผู้ที่จะเข้าไปใช้ได้ต้องได้รับการเชิญจากผู้ใช้คนอื่นที่ได้เข้าไปก่อนแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ในปัจจุบัน 'Clubhouse' ยังเป็นแอปฯ ที่อยู่ในระบบปฏิบัติการ iOS ยังไม่รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ทำให้ผู้ใช้ต้องมีอุปกรณ์ของแอปเปิลเท่านั้นถึงจะเข้าถึงได้
19
2.) แอปฯ 'Clubhouse' ถูกสร้างขึ้นโดยโรฮาน เซธ (Rohan Seth) และพอล เดวิสัน (Paul Davison) เริ่มเปิดทดลองให้ใช้ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และเริ่มได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้น เมื่อมีคนดังจากหลากหลายวงการเล่นแอปฯ นี้ เช่นอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และผู้บริหารรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา (Tesla) ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าพ่อโซเชียลมีเดียอย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็เคยร่วมเล่นในแอปฯ 'Clubhouse' ด้วย
3
'Clubhouse' กลายเป็นโซเชียลมีเดียน้องใหม่มาแรงมากขึ้นไปอีก เมื่อมีคนดังในแวดวงบันเทิงเข้าไปเล่น ทั้งโอปราห์ วินฟรีห์ และลินซีย์ โลฮาน แถมยังเป็นพื้นที่ถกเถียงทางการเมืองของขั้วการเมืองทั้งสองฝ่ายในอเมริกา โดยบุคคลการเมืองอีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมวงอภิปรายใน 'Clubhouse' คือโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นเอง
2
3.) 'Clubhouse' ยังเกิดขึ้นถูกจังหวะ เพราะเริ่มปล่อยให้ทดลองเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มรุนแรง หลายประเทศเริ่มร้องขอให้ประชาชนอยู่ในบ้าน รักษาระยะห่าง การถกเถียงประเด็นต่างๆ ผ่าน 'Clubhouse' จึงเป็นทางเลือกที่ดี
5
4.) จนกระทั่งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เองที่ 'Clubhouse' เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากสถิติของ Sensor Tower พบว่า เฉพาะสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้ดาวน์โหลดแอปฯ 'Clubhouse' มากถึง 2 ล้านครั้งทีเดียว
1
โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกดาวน์โหลดแอปฯ 'Clubhouse' ไปแล้วกว่า 5.5 ล้านครั้ง ซึ่งหากเจาะลงไปยังกลุ่มผู้ใช้จะพบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ราว 42% อยู่ในสหรัฐฯ ตามมาด้วยญี่ปุ่น 16% และเยอรมนี 19% นอกนั้นเป็นผู้ใช้ในประเทศอื่นๆ
5.) ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มูลค่าของแอปฯ 'Clubhouse' เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยในช่วงหลายเดือนก่อนที่ 'Clubhouse' เพิ่งเริ่มเปิดใช้งาน และมีผู้ทดลองใช้ประมาณ 5,000 คน เคยมีการประเมินว่า แอปฯ นี้อาจมีมูลค่าอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,000 ล้านบาท
1
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายฝ่ายคาดว่ามูลค่าของ 'Clubhouse' อาจพุ่งไปถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 30,000 ล้านบาท ถือว่าเพิ่มสูงขึ้น 10 เท่าตัวภายในช่วงเวลาแค่ 8 เดือน
2
6.) ด้วยความที่ 'Clubhouse' เป็นโซเชียลมีเดียผ่านเสียง มีจุดเด่นคือการที่ผู้ใช้ทุกคนสามารถแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ ได้อย่างอิสระและทันที ทำให้มีหลายประเด็นถูกนำไปพูดใน 'Clubhouse' โดยเฉพาะประเด็นทางการเมือง
2
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ 'Clubhouse' ถูกรัฐบาลจีนสั่งแบน เพราะผู้ใช้จำนวนหนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงและไต้หวัน ใช้แอปฯ 'Clubhouse' ในการอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลจีน เช่นประเด็นที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ รวมถึงประเด็นเอกราชของไต้หวัน
7
แต่ในอีกด้าน ความอิสระในการแสดงความคิดเห็นก็ทำให้ 'Clubhouse' ถูกวิจารณ์ในสังคมอเมริกันว่า ผู้พัฒนาไม่ยอมลงทุนเพื่อจัดการกับปัญหาที่มีผู้ใช้บางส่วนเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเกลียดชัง รวมถึงการจัดการกับผู้ใช้ที่ใช้ 'Clubhouse' เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข่าวปลอมต่างๆ เกี่ยวกับโรคโควิด-19
3
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
โฆษณา