Blockdit Logo (Mobile)
TechHero
•
22 ก.พ. 2021 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
WIFI Starlink จะทำบริษัทโทรคมนาคม เจ๊งทั้งโลกจริงหรือ ?
2
“อีลอน มัสก์” นักธุรกิจที่เพียงดีดนิ้ว ก็สามารถเปลี่ยนตลาดหุ้นได้ อย่างกับทานอสในภาพยนตร์ไซไฟชื่อดัง
1
ธุรกิจของเขาไล่เรียงตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า ระบบการเงิน ไปจนถึงนอกโลก ล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำเทรนด์อยู่เสมอ
ล่าสุด หลายคนคงจะพอได้ยินข่าวกันมาบ้างแล้วสำหรับเครือข่าย Wifi จากดาวเทียม Starlink ที่กำลังเปิดให้ลูกค้าจากทั่วโลกสั่งจอง
และด้วยความน่าสนใจของเทคโนโลยี ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องชำระแต่ละเดือน มีความน่าสนใจ จนกระทั่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า Wifi Starlink จะทำให้บริษัทโทรคมนาคมทั่วทั้งโลกเจ๊งไปเลยหรือเปล่า
บทความนี้จะพาไปหาคำตอบกัน..
แท้ที่จริงแล้วระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียม ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ หากแต่มันมีการให้บริการมามากกว่า 20 ปี โดยสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากวงโคจรค้างฟ้าจะถูกปล่อยลงมาโดยดาวเทียม
ข้อดีของสัญญาณอินเทอร์เน็ตประเภทนี้คือ ให้บริการได้ครอบคลุมกว่า ดาวเทียมไม่กี่ดวงก็สามารถให้บริการได้ทั้งประเทศ หรือทวีป
แต่ทว่ามันกลับมีช่องโหว่มากมาย เช่น ระยะทางจากพื้นโลกจนถึงวงโคจรนั้นห่างไกล ความหน่วงของสัญญาณจึงสูงมาก
2
ดังนั้น จุดอ่อนของมันจึงถือเป็นช่องโหว่ที่ใหญ่มากทีเดียว เมื่อเทียบกับอินเทอร์เน็ต 4G-5G หรือไฟเบอร์
แล้วอินเทอร์เน็ตจาก Starlink มีความพิเศษตรงไหน ?
Starlink จะถูกปล่อยไปยังวงโคจรโดยจะเป็น “ดาวเทียมวงโคจรต่ำ” ซึ่งอยู่ในระยะที่ต่ำกว่าดาวเทียมปกติถึง 60 เปอร์เซ็นต์
4
Starlink จึงสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความหน่วงหรือ Ping ของสัญญาณได้ จนเหลือเพียง 20-40 Ms เทียบเท่ากับอินเทอร์เน็ตบ้านที่คนไทยส่วนใหญ่ต่อสาย LAN หรือเร้าเตอร์ Wifi ใช้กัน
2
ความน่าสนใจอีกอย่าง ก็คือความเร็วที่สูงถึง 50-150 Mb/s
อย่างไรก็ดี ผลเสียของการที่ SpaceX เลือกใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ ทำให้ต้องปล่อย Starlink ขึ้นไปเป็นหมื่นๆ ดวง ถึงจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2015 SpaceX ปล่อย Starlink ไปแล้ว 400 ดวง จากเป้าที่ตั้งไว้ 42,000 ดวง
2
และอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้คนต่างตั้งคำถาม นั่นก็คือ “ค่าใช้จ่าย” ที่ลูกค้าต้องควักกระเป๋าให้ SpaceX
ล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้ SpaceX ได้ประกาศค่าใช้จ่ายรายเดือน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Wifi จาก Starlink คิดค่าบริการอยู่ที่เดือนละ 99 เหรียญ หรือราว 3,000 บาท (ถือว่าสูงกว่าอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ในบ้านเราอย่างมาก)
2
ทั้งนี้ ยังมีค่าอุปกรณ์เพิ่มเติมมาอีก 15,000 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง) โดย SpaceX ได้เปิดให้จองแรกเริ่มที่ 99 เหรียญ หลังจากที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะไปหักค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ทีหลัง
4
ปัจจุบันมีอเมริกันชน ลงทะเบียนใช้บริการกับ SpaceX แล้วมากกว่า 700,000 ราย ส่วนในเมืองไทย มีข่าวว่าน่าจะได้ใช้บริการกันในปี 2022 ซึ่งขั้นตอน ยังอยู่ในการพิจารณาขององค์การภาครัฐของไทย ที่รับผิดชอบให้การอนุญาตอยู่
อย่างไรก็ดี SpaceX ไม่ใช่เจ้าแรกของโลกที่คิดเปลี่ยนแปลงเทรนด์ของอินเทอร์เน็ตลักษณะนี้ เพราะหากย้อนกลับไปในปี 2011 Google เอง ก็เคยเปิดตัวโครงการ “Loon” เพื่อส่งบอลลูนขึ้นไป แล้วควบคุมให้อยู่ในบริเวณที่ขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น ในหุบเขา ทะเลทราย หรือในมหาสมุทร
2
ขณะที่ Facebook ก็เคยมีโครงการ “Aquila” ซึ่งเป็นการทดสอบให้โดรนร่อนอยู่ในท้องฟ้าเป็นเวลานาน เพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล
แต่ทว่าทั้งสองโครงการ กลับเงียบหายไปตามกาลเวลา
ทั้งนี้ เมกะโปรเจกต์รูปแบบนี้ จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่ง SpaceX ก็ลงทุนไปกับ Starlink กว่า 1 หมื่นล้านเหรียญ หรือราว 3 แสนล้านบาท
 
และทางเสี่ยอีลอน ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำเงินได้ถึงปีละ 3 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 9 แสนล้าน เกือบๆ แตะ 1 ล้านล้านบาท
5
แต่คำถามที่ยังค้างคาก็คือ เทคโนโลยีของ SpaceX ชิ้นนี้ จะเปลี่ยนเทรนด์โลก จนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องสั่นคลอนจริงหรือ
แน่นอนว่าอนาคตไม่มีใครสามารถให้คำตอบใดได้แน่ชัด เท่าที่รู้คือ SpaceX กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานอินเทอร์เน็ตของตนเอง แม้จะรับเงินสั่งจองมาแล้วก็ตาม
2
และปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากดาวเทียมวงโคจรต่ำ จะตอบโจทย์เรื่องสัญญาณได้ดีกว่าบรอดแบนด์ตามบ้านทั่วไปหรือเปล่า
ส่วนในเรื่องของราคา หากในเมืองไทยคิดค่าบริการถึง 3,000 บาทต่อเดือน แน่นอนว่าหลายคนก็อาจจะลังเลบ้าง
แถมจุดประสงค์ของมัสก์เอง ก็อ้างว่าพัฒนาโครงการมาเพื่อผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งประชากรโลกมีกว่า 7.6 พันล้านคน แต่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีเพียงแค่ 4.54 พันล้านคน
เหลือส่วนต่างและลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ให้ SpaceX กินอีกเยอะ แต่ถึงกระนั้น ค่าบริการรายเดือนก็ไม่ได้ตอบโจทย์ต่อผู้คนในบางพื้นที่สักเท่าไหร่นัก
1
และมันก็ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่า ต่อการแลก 3 ใบเทา เพื่อให้ได้อินเทอร์เน็ตขนาดความเร็วเท่าเดิมที่ใช้กันอยู่แล้ว
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Writer: DragonD
โฆษณา