26 ก.พ. 2021 เวลา 00:07 • ความคิดเห็น
🍁โกณทัญญะ รู้แล้วหนอ 🍁
.
ขอบคุณภาพจากวัดไผ่โรงวัว
สืบเนื่องมาจากบทความกิจกรรม
ปริศนาธรรมจากประติมากรรม
.
. ประติมากรรม
~••~ ธรรมจักร กวางหมอบ ~••~
ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจ เข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นะครับ
ความหมายของประติมากรรมนั้น พี่ใจดีได้ให้ความหมายไว้ได้อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ทำให้เราได้ทราบความสำคัญของสัญลักษณ์ "ธรรมจักร กวางหมอบ" ที่มีต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดีทีเดียวครับ
.
cr: puttha.com
คุณผู้อ่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากลิงค์ที่แนบมาให้ด้านล่างนะครับ
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
ตรงกับ วันเพ็ญเดือนแปด
คือ
. 🍁วันอาสาฬหบูชา🍁
เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงพระปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์
อันได้แก่
พระโกณฑัญญะ
พระวัปปะ
พระภัททิยะ
พระมหานามะ และ
พระอัสสชิ
ด้วย พระธรรมเทศนา ที่มีชื่อว่า
.
~•°• ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร •°•~
.
ณ สถานที่อันเป็นเขตอภัยทาน ไม่มีการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ในบริเวณนี้ โดยเฉพาะเหล่ากวางที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก
สถานที่นี้เรียกว่า
~•°• ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน •°•~
.
ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจในพระธรรมอันเป็นหัวข้อธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงเป็นครั้งแรก และทำให้พระโกณฑัญญะ
มีดวงตาเห็นธรรม บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เป็นองค์แรกในบรรดาปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ องค์
จึงขอนำเสนอเนื้อความที่แปลบทสวด "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" เป็นภาษาที่เข้าใจได้ง่าย เอามาแบ่งปันให้ได้ศึกษาด้วยกันครับ แล้วเราจะได้น้อมนำเอาคำสอนนี้ไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อความเจริญในธรรมกันนะครับ
.
. ~•🍁•~
. แปลความบทสวด
~🍁ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร🍁~
ข้าพเจ้า(คือพระอานนท์) ได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ
เสด็จประทับอยู่ที่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี
ในเวลานั้น พระองค์ได้ตรัสเตือนพระภิกษุเบญจวัคคีย์ ว่า
ภิกษุทั้งหลาย ผู้ออกบวชแสวงหาความหลุดพ้น ไม่ควรปฏิบัติตน ๒ ประการคือ
(๑)การแสวงหาความสุขทางกามคุณแบบสุดโต่ง ซึ่งทำให้จิตใจต่ำทราม เป็นเรื่องของชาวบ้าน ที่มีความใคร่
เป็นเรื่องของคนมีกิเลสหนา ไม่ใช่เป็นสิ่งประเสริฐ คือมีแต่ก่อให้เกิดข้าศึก คือกิเลส ไม่มีสาระประโยชน์อันใด
(๒)การปฏิบัติตนแบบก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน เป็นสภาวะที่ทนได้ยาก ไม่ใช่สิ่งประเสริฐ คือมีแต่จะก่อให้เกิดข้าศึก คือกิเลส ไม่มีสาระประโยชน์อันใด
..🍁..
🍁ภิกษุทั้งหลาย หลักปฏิบัติอันใดเป็นทางสายกลาง หลีกเลี่ยงการปฏิบัติแบบสุดโต่ง🍁
..🍁..
ซึ่งเราตถาคตได้ตรัสรู้แล้ว ด้วยปัญญาอันยวดยิ่ง เห็นได้ด้วยตาใน รู้ด้วยญาณภายใน เป็นไปเพื่อความสงบกิเลส เพื่อความรู้ยิ่งเพื่อความรู้อย่างทั่วถึง เพื่อความดับกิเลส และกองทุกข์
ได้แก่ 🍁อริยมรรคมีองค์ ๘🍁 คือ..
๑)ความเห็นชอบ
๒)ความดำริชอบ
๓)วาจาชอบ
๔)การงานชอบ
๕)เลี้ยงชีวิตชอบ
๖)ความเพียรชอบ
๗)ความระลึกชอบ
๘)ความตั้งจิตชอบ
ภิกษุทั้งหลาย 🍁ทุกขอริยสัจ🍁 คือ ความจริงที่ช่วยมนุษย์ให้เป็นผู้ประเสริฐเกี่ยวกับการพิจารณาเห็นทุกข์
เป็นอย่างนี้ คือการเข้าใจว่า "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" ล้วนแต่เป็นทุกข์ แม้แต่ความโศกเศร้า เสียใจ ร่ำไร รำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ทั้งความคับแค้นใจก็เป็นทุกข์ พัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์
ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ ว่าโดยย่อ การยึดมั่นแบบฝังใจว่า 🍁เบญจขันธ์🍁คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น 🔺อัตตา🔺 เป็นตัวเรา เป็นทุกข์ ทำให้เกิดความทุกข์แท้จริง
ภิกษุทั้งหลาย เหตุทำให้เกิดความทุกข์🍁(สมุหทัย)🍁มีอย่างนี้คือ
ความอยากเกินควร ที่เรียกว่า ทะยานอยาก ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิด เป็นไปด้วยความกำหนัด ด้วยอำนาจความเพลิดเพลิน มัวเพลิดเพลินอย่างหลงระเริง ในสิ่งที่ก่อให้เกิดความกำหนัด รักใคร่นั้นๆ ได้แก่
..🍁..
๑)ความทะยานอยากในสิ่งที่ก่อให้เกิดความใคร่
๒)ความทะยานอยากในความอยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่
๓)ความทะยานอยากในความที่จะพ้นจากภาวะที่ไม่อยากเป็น เช่นไม่อยากจะเป็นคนไร้เกียรติ ไร้ยศ เป็นต้น
อยากจะดับสูญไปเลย ถ้าไม่ได้อย่างนั้น อย่างนี้
..🍁..
ภิกษุทั้งหลาย 🍁นิโรธ🍁 คือความดับทุกข์อย่างแท้จริง คือ ดับความกำหนัดอย่างสิ้นเชิง มิให้ตัณหาเหลืออยู่ สละตัณหา ปล่อยวางตัณหา ข้ามพ้นจากตัณหา ไม่มีเยื่อใยในตัณหา
ภิกษุทั้งหลาย
🍁ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ🍁 คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์อย่างแท้จริงคือ
🍁อริยมรรคมีองค์ ๘ ได้แก่🍁
๑)ความเห็นชอบ
๒)ความดำริชอบ
๓)วาจาชอบ
๔)การงานชอบ
๕)เลี้ยงชีวิตชอบ
๖)ความเพียรชอบ
๗)ความระลึกชอบ
๘)ความตั้งจิตชอบ
..🍁..
ภิกษุทั้งหลาย ดวงตาเห็นธรรม ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง อย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่ได้เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่านี้เป็น 🍁ทุกขอริยสัจ🍁 เป็นสิ่งที่ควรกำหนดรู้
ภิกษุทั้งหลาย (บัดนี้) เราได้ดวงตาเห็นธรรม เกิดญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างอย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลาย ที่เรายังไม่ได้เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่า นี้เป็น 🍁ทุกขอริยสัจ🍁 เราได้กำหนดรู้แล้ว
ภิกษุทั้งหลาย ดวงตาเห็นธรรม ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง อย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่เคยได้รับฟังมาในกาลก่อนว่านี้เป็น 🍁ทุกขสมุทัยอริยสัจ🍁 เป็นสิ่งที่ควรละ
ภิกษุทั้งหลาย (บัดนี้)เราได้ดวงตาเห็นธรรม เกิดญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง อย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่านี้เป็น🍁ทุกขสมุทัยอริยสัจ🍁 เราละได้แล้ว
ภิกษุทั้งหลาย ดวงตาเห็นธรรม ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างอย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่ได้เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่านี้เป็น🍁ทุกขนิโรธอริยสัจ🍁 เป็นสิ่งที่ควรทำให้แจ้ง
ภิกษุทั้งหลาย (บัดนี้)เราได้ดวงตาเห็นธรรม เกิดญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างอย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่ได้เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่าเป็น🍁ทุกขนิโรธอริยสัจ🍁เราได้ทำให้แจ้งแล้ว
ภิกษุทั้งหลาย ดวงตาเห็นธรรม ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างอย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่ได้เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่านี้เป็น🍁ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ🍁 เป็นสิ่งที่ควรทำให้แจ้ง
ภิกษุทั้งหลาย (บัดนี้)เราได้ดวงตาเห็นธรรมเกิดญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างอย่างแจ่มแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เรายังไม่ได้เคยรับฟังมาในกาลก่อนว่าเป็น🍁ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ🍁 เราได้ทำให้แจ้งแล้ว
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดการหยั่งรู้ การเห็นความเป็นจริงว่าอริยสัจสี่มี ๓ รอบ มีอาการ ๑๒ ได้แก่
..🍁..
๑)หยั่งรู้อริยสัจแต่ละอย่างตามความเป็นจริง
๒)หยั่งรู้กิจของอริยสัจ
๓)หยั่งรู้กิจอันได้ทำแล้วในอริยสัจยังไม่หมดจดเพียงใด
..🍁..
ภิกษุทั้งหลาย เราไม่ยืนยันตนว่าเป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเอง ไม่มีใครจะเทียบได้ ไม่ว่าจะเป็นเทวดา มาร พรหม แม้มวลมนุษย์ ทั้งที่เป็นสมณะ เป็นพราหมณ์ ก็เทียบเท่ามิได้เพียงนั้น
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดการหยั่งรู้ การเห็นตามความเป็นจริง ดังกล่าวมาหมดจดดีแล้ว เมื่อนั้นเราได้ยืนยันตน เป็นผู้ตรัสรู้ชอบดังกล่าวแล้ว เช่นนั้นการหยั่งรู้ การเห็นความเป็นจริงได้เกิดขึ้นแก่เราแล้วว่า ความหลุดพ้นของเรา ไม่มีการกลับกำเริบอีกแล้ว
🍁ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว ไม่ต้องมีการเวียนว่ายตายเกิดอีก
ครั้นพระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณได้แสดงธรรมโดยปริยายดังกล่าวมา
เหล่าภิกษุเบญจวัคคีย์ก็ได้มีใจยินดี เพลินในการแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า ก็แลเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสแสดงธรรมอย่างแจ่มแจ้ง อย่างมีหลัก
💛ท่านโกณฑัญญะผู้ทรงไว้ซึ่งอาวุโสได้เกิดธรรมจักษุ 💛คือ ได้รู้แจ้งจริงซึ่งพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
💛กำจัดธุลี กำจัดมลทินเสียได้ มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า สิ่งใดเกิดขึ้นเพราะเหตุ ปัจจัย สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา เพราะสิ้นเหตุ ปัจจัย💛
🍁ครั้นพระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ได้แสดงธรรมจักร คือหมุนวงล้อแห่งธรรม🍁 ที่ประกอบด้วย ๘ ซี่คือ อริยมรรคมีองค์๘
เหล่าภุมเทวดาก็เปล่งเสียงสาธุการ บันลือลั่นว่า 🍁วงล้อแห่งธรรมไม่มีวงล้ออื่นใดจะหมุนสู้ได้🍁
💛ได้รับการหมุนไปโดยพระพุทธเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณแล้ว
💛ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ใกล้เมืองพาราณสี ซึ่งไม่มีใครทำได้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม
เหล่าเทพเจ้าชั้นจาตุมหาราชิกา ครั้นได้ยินเสียงเหล่าเทพภุมเทวดาต่างก็ส่งเสียงสาธุการบันลือลั่นสืบต่อไป จนถึงเทพชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี ชั้นปรนิมมิตตวสวัตตี
จนกระทั่งถึงชั้นพรหม ตั้งแต่พรหมปาริสัชชา
พรหมปโรหิตา
มหาพรหม
ปริตตาภาพรหม
อัปมาณาภาพรหม
อาภัสสราพรหม
ปริตตสุภาพรหม
อัปมาณสุภาพรหม
สุภกิณหะกาพรหม
เวหัปผลาพรหม
อวิหาพรหม
อตัปปาพรหม
สุทัสสาพรหม
สุทัสสีพรหม กระทั่งถึง
อกนิฎฐกาพรหม เป็นที่สุด
ก็ส่งเสียงสาธุการบันลือลั่นเพียงครู่เดียว เสียงได้บันลือไปทั่วพรหมโลก ทั้งหมื่นโลกธาตุได้หวั่นไหว สะเทือน สะท้าน เสียงดังสนั่น ลั่นไป
ทั้งแสงสว่างอันหาประมาณมิได้ ปรากฏขึ้นในโลก เหนือกว่าอานุภาพของเหล่าพรหม
ต่อจากนั้น พระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ได้ทรงเปล่งอุทานออกมาว่า
~•°•~ 🍁โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ ผู้เจริญทั้งหลาย
~•°•~ 🍁โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ ผู้เจริญทั้งหลาย
🍁เพราะเหตุนี้ท่านโกณฑัญญะจึงได้นามว่า..
. ~•🍁•~
~•🍁อัญญาโกณฑัญญะ🍁•~
ธรรมะสวัสดี
โฆษณา