2 มี.ค. 2021 เวลา 03:30 • การตลาด
Sookhor Cafe ร้านขนมปัง ที่ขายวันละ 42 ชิ้น แต่ทำรายได้กว่าแสนบาทต่อเดือน
การเปิดร้านขายเบเกอรีในยุคโควิด ก็คงจะดูไม่แปลกใหม่อะไรเท่าไหร่นัก
เพราะใครๆ ก็ต่างหันเข้าครัวแล้วผันตัวเป็นเชฟมือสมัครเล่นกันทั้งนั้น
แต่หากบอกว่าคนอบขนมปังคนนี้ ไม่มีทั้งความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำขนมมาก่อน หรือแม้แต่ Passion ในการทำอาหารด้วยซ้ำ
กลับสามารถเปลี่ยนคาเฟ่ที่มีรายได้บางวันไม่ถึง 500 บาท
สู่รายได้สูงสุดเกือบ 2 แสนบาทต่อเดือน
ซึ่งร้านที่เรากำลังพูดถึงอยู่ คือ Sookhor Cafe (สู่ขอ คาเฟ่) ร้านคาเฟ่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ของคุณปุณณะ ว่องวานิช หรือคุณโบ้ต ที่ได้ส่งเคสธุรกิจนี้เข้ามาทางเพจ
2
โดยเขาเพิ่งเริ่มเปิดขายขนมปังออนไลน์ไม่ถึง 1 ปี แต่ส่งสินค้าไปแล้วกว่า 50 จังหวัดทั่วไทย
เรื่องราวของร้าน Sookhor Cafe น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะแชร์ให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ก่อน ร้าน Sookhor Cafe เคยมีชื่อว่า “Snowbuff Coffee”
ถูกสร้างมาโดยคุณแม่ของคุณโบ้ต ตั้งอยู่ด้านหน้าจีรัง รีสอร์ท ซึ่งก็เป็นธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว
2
แต่รายได้กลับไม่สู้ดีนัก ยอดขายลดลงทุกปีจนสุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงในปี 2019
2
ซึ่งแต่เดิม ทางบ้านคุณโบ้ตทำธุรกิจรีสอร์ตเป็นหลัก และลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยว
2
ทำให้คุณพ่อของคุณโบ้ตอยากเปลี่ยนคาเฟ่ ให้เป็นร้านขายของฝากขนาดใหญ่ เพื่อดึงดูดลูกค้าต่างชาติแทน
1
แต่คุณโบ้ตกลับมองว่า ไอเดียนี้จะจับกลุ่มได้เพียงลูกค้านักท่องเที่ยว และในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
เขาจึงตัดสินใจปัดฝุ่นร้านคาเฟ่ และเปิดขึ้นใหม่อีกครั้งในชื่อ “Sookhor Cafe” ในช่วงปลายปี 2019 แต่ก็กลับมาเจอกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะตรงกับช่วงสถานการณ์โรคระบาดพอดี
2
ทำให้ในช่วง 3 เดือนแรกที่เปิดร้านแทบจะไม่มีรายได้เลย เพราะเขาทำขายเฉพาะหน้าร้านเท่านั้น
แต่นี่ก็เป็นจุดพลิกผัน ที่ทำให้คุณโบ้ตพา Sookhor Cafe เข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างรวดเร็ว
เพราะเขามองว่าการขายออนไลน์ “ไม่ต้องอาศัยฤดูท่องเที่ยว”
ไม่ต้องกังวลช่วง Low Season หรือรอคอยช่วง High Season
เพราะร้านออนไลน์สามารถหาลูกค้าได้ตลอดเวลา
1
โดยสินค้าที่เขาเน้นขายทางออนไลน์ก็คือ “ขนมปัง”
ซึ่งตั้งแต่เปลี่ยนช่องทางการขาย คุณโบ้ตก็เล่าว่ามียอดสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ
ที่น่าสนใจคือ คุณโบ้ตไม่ได้เรียนหรือชอบทำขนมมาก่อนเลย แต่อาศัย “การค้นคว้า”
โดยเริ่มต้นจากสูตรขนมปังดั้งเดิมของคุณแม่ ซึ่งก็ยังดูธรรมดาๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไร
จนกระทั่งเขาค้นคว้าสูตรขนมปัง จากห้อง “Baking” ในเว็บ Reddit
ซึ่งเป็นเว็บบอร์ด คล้ายๆ กับ Pantip ของบ้านเรา
3
นอกจากนั้นยังมีปรับเปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากประเทศฝรั่งเศส และนมที่ส่งตรงจากฟาร์ม
ที่สำคัญคือคุณโบ้ตยังเน้นความสดใหม่ และจำกัดจำนวนการขายไว้เพียง 42 ก้อน ต่อวันเท่านั้น
เพราะด้วยกำลังการผลิต และความสามารถในการควบคุมคุณภาพ
1
นอกจากเรื่องคุณภาพของสินค้าแล้ว “การสื่อสารกับลูกค้า” ผ่านช่องออนไลน์ ก็สำคัญไม่แพ้กัน
โดยคุณโบ้ตมักจะเล่าเรื่องราวของแบรนด์ และสูตรขนมปัง วิธีการทาน
หรือแม้กระทั่งคอนเทนต์ให้ความรู้ทั่วไปต่างๆ ผ่านเฟซบุ๊กของ Sookhor Cafe
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มมูลค่าให้กับขนมปังของเขา
และยังทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ จนกลายมาเป็นลูกประจำอีกด้วย
3
อีกจุดเด่นหนึ่งของร้าน Sookhor Cafe คือ “ไม่วิ่งไล่ตามกระแส”
1
เรื่องนี้สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวเชียงใหม่ในระยะหลังๆ ที่ผ่านมา
อาจจะเคยรู้สึกว่า คาเฟ่หลายๆ ร้าน มีหน้าตาคล้ายกันไปหมด
โดยจะเน้นที่การตกแต่งสวยๆ สำหรับถ่ายรูปเช็กอิน
แต่ร้าน Sookhor Cafe กลับยังคงรูปแบบร้านไว้ที่ความเรียบง่าย
และเน้นไปที่บรรยากาศร้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นขนมปังมากกว่า
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้ขนมปังของร้าน Sookhor Cafe ขายหมดแทบทุกวัน
ซึ่งถ้าลองคิดจากราคาเริ่มต้นที่ 95 บาท
แปลว่าต่อเดือน คุณโบ้ตก็ทำยอดขายไปได้ถึงกว่าแสนบาทเลยทีเดียว
(42 x 95 x 30) = 119,700 บาท
1
และนี่ก็คือเรื่องราวของการฟื้นคืนชีพร้านคาเฟ่ของคุณแม่ให้มีชีวิตอีกครั้ง
จากขนมปังเพียง 42 ก้อนต่อวัน..
Reference:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณปุณณะ ว่องวานิช หรือคุณโบ้ต เจ้าของร้าน Sookhor Cafe
โฆษณา