3 มี.ค. 2021 เวลา 05:00 • ท่องเที่ยว
Review : SERENATA Hotels the Series
EP.1 Legendha จะพาเราย้อนยุค
SERENATA Hotels and Resort เป็นชื่อที่เราบังเอิญได้ไปเห็นผ่านสื่อโซเชียล เป็นชื่อที่ไม่คุ้นตา แต่น่าสนใจดี ก็เลยลองศึกษาดูแล้วพบว่า SERENATA เขาเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีรีสอร์ทสไตล์บูติกโฮเทลในเครือมากกว่า 18 แห่ง ในหลายๆ จังหวัด ทั้ง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง สุโขทัย กาญจนบุรี หัวหิน เกาะยาว(พังงา) และสมุย ซึ่งเราว่าแต่ละแห่งก็น่าสนใจมาก เลยมีความคิดที่ว่า จะ! ต้อง! ไป! ให้! ครบ! แล้วก็จะนำมาเขียนรีวิวไว้ให้อ่านกัน
Ep.1 เลือกไปที่ Legendha Sukhothai resort บอกเลยว่าเที่ยวสุโขทัยรอบหน้า ไม่ต้องนั่งไถหาที่พักทำเลเหมาะๆ บรรยากาศดีๆ ให้เหนื่อยอีกต่อไป ที่นี่เขาคัดสิ่งดีๆ มาให้หมดแล้ว ทั้งบรรยากาศความเป็นไทยเสมือนได้ย้อนยุค การบริการที่ดี อาหารที่รสเลิศ กิจกรรมไทยๆ มุมถ่ายรูปเยอะแยะไปหมด หรือแม้กระทั่งทำเลก็ยังดีงาม เพราะตั้งอยู่ใกล้แหล่งประวัติศาสตร์ สามารถเดินทางได้ง่ายและสะดวกมาก บอกเลยว่าครบจริง
พอเข้ามาในบริเวณโรงแรม ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายความเป็นไทยแล้ว ทั้งการออกแบบ ตกแต่ง เราจะมองเห็นอาคารหลังคาทรงไทยอยู่เรียงราย ป้ายบอกทางทำจากไม้ สะพานไม้ข้ามคลอง เป็นอะไรที่ไทยเดิมมากๆ ส่วน reception ก็ตกแต่งสวยงาม มีวัดไข้ ป้ายเตือนให้สวมหน้ากาก และเจลล้างมือ บริการอย่างครบถ้วน มีสัญลักษณ์ SHA บอกถึงมาตรฐานการคัดกรอง และรักษาสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยจาก Covid-19 ได้อย่างดี
ห้องพักของเลเจนด้า มีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะมาเดี่ยว หรือมาคู่ อยากได้ห้องมีวิวที่มองเห็นสระน้ำ หรือจะวิวที่มองเห็นอุทยานประวัติศาสตร์ เขาก็มีให้เลือก
แต่ทริปนี้เราเลือกเป็น Two Bedroom Villa เป็นเหมือนบ้านทรงไทย เห็นวิวลำคลอง ภายในห้องก็มีการแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนคือ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนั่งเล่น ไปกับเพื่อนๆ 4 คน จะนั่ง จะนอน เดินไปไหนมาไหน ก็สะดวกสะบายเลยทีเดียว
หลังจากเช็คอินน์เสร็จแล้วก็เดินดูรอบๆ รีสอร์ท กินลม ชมวิว ดูนก ชมไม้ ไปเรื่อยๆ รีสอร์ทเขาออกแบบ เป็นเหมือนหมู่บ้านไทยในยุคสมัยสุโขทัย ที่มีการแบ่งสันปันส่วนของลักษณะห้องออกเป็นโซนๆ ได้อย่างลงตัว มีการตกแต่งประดับประดา มุมต่างๆ ของรีสอร์ท ด้วยข้าวของเครื่องใช้ของไทย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ โอ่งดินเผาที่นำมาทำเป็นถังขยะ ตั่งพร้อมหมอนสามเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ได้นั่งเล่น พูดคุย พักผ่อนใต้ร่มไม้ ซึ่งทางรีสอร์ทเขาปลูกไว้เยอะ ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ จึงร่มรื่น และสดใส เป็นอย่างมาก เป็นการพักผ่อนที่ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้องเท่านั้น
เดินเล่นไปจนถึงบริเวณด้านหลังของรีสอร์ท ก็จะเจอกับทางออกด้านหลัง ซึ่งอยู่ติดกับวัดช้างล้อม ส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาตร์ ถึงตอนนี้ก็เย็นเต็มที่แล้ว พระอาทิตย์อยู่ใกล้กับขอบฟ้าขึ้นทุกที แสงสีทองที่ส่องผ่านกับโบราณสถานมา ช่วยทำให้ที่แห่งนี้สวยงามอย่างที่สุด เป็นจุดนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่หาแบบนี้ได้ยากมาก
ช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดิน ในรีสอร์ทก็ประดับด้วยแสงไฟสีส้ม เสมือนเป็นแสงเทียน ทำให้ได้บรรยากาศความเป็นไทยในช่วงค่ำคืนขึ้นไปอีก จะเดินเล่นถ่ายรูป ก็เป็นอะไรที่สวยงามไปอีกแบบ ที่ต่างจากตอนฟ้าสว่าง
ถึงเวลาอาหารเย็น อาหารที่สั่งวันนี้มี น้ำพริกลงเรือ ผัดยอดมะพร้าวน้ำมันหอย ผัดเผ็ดไก่ ผัดกะเพรา และผัดไทยสุโขทัย ทุกเมนู รสชาติคือไทยแท้มาก ที่อร่อยเด็ดที่สุดต้องยกให้ น้ำพริกลงเรือ คือปาดกินเรียบไม่เหลือซักนิดเลย อิ่มแล้วก็เดินเล่นชมบรรยากาศรีสอร์ทตอนกลางคืน ทั้งสวย ทั้งเงียบสงบ คืนนี้จึงก็เป็นอีกคืนที่นอนหลับสนิทจริงๆ
06.00 น. วันนี้ตื่นเช้ากว่าทุกครั้ง เพราะอากาศตอนเช้าที่นี่ดีมากจริงๆ และที่นี่มีพระสงฆ์มาบิณฑบาตรด้วย เราจึงถือโอกาสนี้ตักบาตรตอนเช้าเลย เซตเมนูอาหารเช้าวันนี้เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้เขาจึงจัดเสริฟเป็นชุดๆ ไม่มีไลน์บุฟเฟ่ แต่ก็สามารถเติมได้จนอิ่ม ทีเด็ดของที่นี่คือ ขนมครกสูตรโบราณ หอม มัน อร่อย ดีมาก
นอกจากนี้ที่รีสอร์ทเขายังมีบริการนวดไทย นวดน้ำมัน บริการเช่าจักรยานปั่นไปเที่ยว และมีสระว่ายน้ำอีกด้วย ใครที่มีเวลาว่าง ก็เลือกกิจกรรมต่างๆทำได้เลย
ไม่ทันไรก็ต้องเช็คเอาท์แล้ว เรียกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากๆ ก็ถึงเวลาบอกวันหยุด กับรีสอร์ทไทยๆ อย่าง
Legendha Sukhothai Resort หากมีโอกาสจะกลับมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ขอวางแพลน สำหรับทริปต่อไปก่อน ว่าจะไปรีสอร์ทในเครือ Serenata ที่ไหนดี
つづく
สำหรับท่านไหนที่สนใจจองห้องพัก หรือสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อกับทางรีสอร์ทได้โดยตรงเลยนะ
เว็บไซต์: www.legendhasukhothai.com
เบอร์ติดต่อ: 055 697 249
GPS: 17.018451, 99.719722
Direct Booking: https://bit.ly/2Mgbphb
โฆษณา