4 มี.ค. 2021 เวลา 16:27 • นิยาย เรื่องสั้น
The Adventures of จ.Jump ตอน ลิฟต์ที่ไม่ยอมปิด
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านในต้นเดือนมีนาคมกับกระผมนายจั๊มพ์ครับ หลังเฉลิมฉลองให้กับผู้ติดตามที่หายไปพันคนกับช่วงก่อนหน้ามาคราวนี้ก็ขอย้อนระบายความลี้ลับในช่วงที่ได้ทำงานกันบ้าง ซึ่งใครจะคิดละว่าลิฟต์ที่พนักงานใช้อยู่ประจำจะมีเรื่องสยองขวัญเกิดขึ้นเกินกว่าคำกล่าวอ้างและข่าวลือ ซึ่งจะเป็นยังไงต่อนั้นต้องติดตามอ่านกันได้กับตอน ลิฟต์ที่ไม่ยอมปิด
ย้อนกลับไปตอนช่วงที่ผมยังทำงานประจำอยู่ ณ สถานที่ดึงดูดพลังงานชีวิตไป 6 วันและหยุดไม่ตรงวันนักขัตฤกษ์
ผมเคยได้ยินพนักงานหลายคนกล่าวถึงเรื่องลี้ลับที่ไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้นับสิบ ๆ เรื่อง และหนึ่งในเรื่องที่น่ากลัวที่สุดก็คือเรื่อง “ลิฟต์ที่ไม่ยอมปิด”
1
จากปากคำที่ได้ยินทั้งแบบตั้งใจและแอบฟังผมรู้มาว่าลิฟต์ตัวนั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและผ่านการใช้งานมามากกว่าช่วงชีวิตคนหนึ่งจะมีได้
แต่ถึงอย่างงั้นมันก็หาได้ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เฉกเช่นลิฟต์ตัวอื่นที่ได้รับการบูรณะปรับแต่งโฉมให้สวยหรูตามยุคสมัย
ด้วยความสงสัยผนวกกับนิสัยอยากรู้อยากเห็นท้าทายอำนาจศาสตร์ที่ไม่เข้าใจ ผมเลยลองสืบค้นย้อนรอยอดีตกลับไปในช่วงที่ลิฟต์ถูกติดตั้งและสถานที่ทำงานพึ่งถูกสร้างขึ้น
หลังใช้เวลาค้นหาสอดรู้สอดเห็นไม่ทำงานทำการผมพบว่ามีหลักฐานอยู่น้อยมากที่จะระบุเกี่ยวกับเรื่องลิฟต์ที่ไม่ยอมปิด เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลที่หาเจอล้วนมีแต่เรื่องอัตชีวประวัติของเจ้าของรายแรกเสียมากกว่า
เมื่ออดีตไม่สามารถไปต่อได้ผมเลยเปลี่ยนมาลองถามคนเป็นดูบ้างเพื่อจะมีใครรู้หรือทราบความเป็นมากับเรื่องราวที่ไม่มีคำอธิบาย
แต่เมื่อยิ่งถามคนอยู่มานานมากเท่าไหร่ผมก็สังเกตเห็นว่าท่าทีของแต่ละคนนั้นเลือกจะบ่ายเบี่ยงตอบไม่ตรงคำถามซักราย
สุดท้ายจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากผมจะใช้ตัวเองเป็นบทพิสูจน์กับความลึกลับที่ทุกคนต่างเจอ
ครั้นตัดสินใจได้ผมพยายามปลีกตัวระหว่างตอนทำงานแอบหลบไปใช้ข้ออ้างอย่างการเข้าห้องน้ำ แน่นอนว่าตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังมากเท่าไหร่ แต่พอสบช่องลองเท่านั้นแหละเป็นต้องใจหายใจคว่ำ
เพราะตอนที่ผมก้าวเข้าไปในลิฟต์ขณะที่มีคนอื่นอยู่อีกประมาณ 10 คน เจ้าประตูลิฟต์ที่ควรจะปิดกลับเปิดค้างราวกับมีมือที่มองไม่เห็นยื่นมาขวางกั้นไว้
แม้จะมีคนกดปุ่มปิดรัวเป็นเจ้าเข้ามันก็หาได้ทำตามคำสั่งแต่ประการใด ได้แต่ปล่อยให้คนที่อยู่ข้างในมองตาปริบ ๆ ด้วยความเสียวสันหลัง
จนผ่านไปซักระยะทุกคนก็เลือกจะเดินออกไปแล้วพอคนสุดท้ายจากมาเจ้าประตูลิฟต์ก็ปิดตัวลงแล้วเผ่นขึ้นไปยังชั้นบนโดยปล่อยให้พวกผมยืนอารมณ์ค้างแบบไม่มีคำพูดจะเอ่ย
พอเจอกับตัวเห็นกับตาก็ยังยากจะปักใจเชื่อกับประสบการณ์ที่ได้เจอ เหตุนั้นผมจึงยังไม่เข็ดขอลองท้าอีกซักครั้งกับตำนานในที่ทำงาน
ครั้งต่อไปผมได้กลับมาเผชิญอีกทีในช่วงเวรของรอบดึก หลังจากสะสางงานทุกอย่างครบจบเรียบร้อยจนไม่มีอะไรจะทำต่อนอกจากรอฟ้าสดใส
ผมก็รีบพุ่งตรงไปยังลิฟต์เดิมพันความกล้าทั้งหมดที่มีเสี่ยงให้รู้แล้วรู้รอดกับสาเหตุที่ยังไม่มีใครแก้ได้
เสียดายที่พอเดินเข้าไปหวังจะทดสอบเพียงลำพังก็มีพนักงานอีกคนเรียกทักช่วยเปิดประตูลิฟต์กดรอไว้ก่อน
ถึงใจจะอยากแกล้งไม่ได้ยินกดปิดลิฟต์ไปทดสอบที่ชั้นอื่น แต่พอเห็นใช้รถเข็นแบกสัมภาระมาเยอะผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องรอให้เขาไปด้วย
โดยจังหวะที่ทั้งสัมภาระและคนเข็นเข้ามาหมดก็เหมือนได้หวนกลับไปยังตอนแรกที่ผมเจอกับลิฟต์ที่ไม่ยอมปิด ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรทำไมประตูที่ดูเหมือนจะทำงานตามปกติถึงเลือกเปิดกว้างอย่างไม่มีเหตุผล
ผมพยายามสังเกตคว้าหาความเป็นไปได้ที่อาจเกิดจากการทำงานผิดพลาดของระบบไฟฟ้า แต่พอมองรอบ ๆ ก็ไม่เห็นจุดไหนจะผิดปกติ เพราะไฟที่ติดอยู่ตรงเพดานและด้านข้างก็ไม่ได้ดับลงอย่างใด
ทว่าพอลองออกไปข้างนอกหวังจะเห็นความแตกต่างเพียงเท่านั้นแหละ ประตูลิฟต์ที่เปิดอ้าก็พลันปิดไล่หลังส่งพนักงานและข้าวของขึ้นไปยังชั้นที่กำหนดเฉย
เกิดอะไรขึ้นกัน !? ทำไมอยู่ ๆ ประตูลิฟต์ถึงปิดได้
ผมไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลยว่าเงื่อนไขที่ทำให้ลิฟต์เปิดปิดคืออะไร ในเมื่อหนแรกทุกคนเดินออกมาหมดแล้วทำไมคราวนี้มันถึงเลื่อนขึ้นไปขณะมีคนอื่นอยู่ด้วย
หรือว่าลิฟต์ที่ไม่ยอมปิดมันมีชีวิตจิตใจที่สามารถเลือกได้ว่าอยากให้ใครใช้งาน
***เฉลยปม***
ภายหลังเจ้าลิฟต์เลื่อนลงมาที่ชั้นหนึ่งอีกรอบผมก็ได้ฤกษ์ทดสอบสำรวจทุกซอกมุม แต่แล้วระหว่างที่หมกมุ่นจนลืมมองรอบข้างก็มีใครบ้างคนปรากฏตัวขึ้นพร้อมสะกิดหลังให้รู้สึกตัว
เมื่อหันกลับไปมองผมก็รู้ทันทีคนผู้นั้นทำงานอะไร ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากช่างที่เห็นซ่อมของอยู่ประจำ
และจากสายตาที่ส่องมาอย่างเคลือบแคลงผมเลยต้องใช้บทสนทนาเล่าถึงวีรกรรมกับข้อสันนิษฐานที่ฝังอยู่ในหัว
พอฟังจบช่างก็ได้แต่อ้ำอึ้งแล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะสารภาพความจริงให้ผมฟัง
ซึ่งทุกเรื่องราวล้วนอธิบายได้คำเดียวว่าเกิดจากเสียงเตือนบรรทุน้ำหนักเกินมันเสีย
เพราะแบบนั้นตอนที่ผมเข้าไปในลิฟต์ครั้งแรกที่มีคนอยู่กันเยอะประตูมันถึงไม่ยอมปิดไปไหน พอหนที่สองที่เจอซักครู่ก็คงจะคล้าย ๆ กันอย่างไม่ต้องสงสัย
และตอนที่ถามพวกพนักงานเก่า ๆ ถึงสาเหตุที่ลิฟต์ไม่ยอมปิดแล้วเจอบ่ายเบี่ยงคำตอบก็คงด้วยเหตุอย่างว่า
สรุปทุกครั้งที่ทุกคนเจอกับลิฟต์ที่ไม่ยอมปิดหาได้เกิดจากความลี้ลับหรือปริศนาวิญญาณตามหลอกหลอน หากแต่มาจากที่ใครบางคนน้ำหนักเกินกว่าลิฟต์จะแบกขึ้นไปไหวซินะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา