8 มี.ค. 2021 เวลา 01:00 • ไลฟ์สไตล์
รู้หรือไม่ค่างวดรถที่เราผ่อนอยู่
สามารถขอโปะเพื่อลดดอกเบี้ยได้ ?
5
ต้องบอกว่าบทความนี้เขียนจากประสบการณ์ของผมเอง
ที่เกิดจากความไม่รู้มาก่อน ดังนั้นหากใครรู้อยู่แล้วต้องขออภัยด้วยนะครับ 😊
3
หลายปีก่อนตอนนั้นผมได้ทำการผ่อนค่างวดรถยนต์ โดยเหลืออยู่ประมาณ 5-6 เดือนแต่เนื่องจากผมต้องการเคลียร์ค่าใช้จ่าย เลยได้ทำการติดต่อไปยังไฟแนนซ์และสอบถามเรื่องการจะขอเคลียร์หนี้ และ ทำเรื่องโอนเล่ม ซึ่งทางไฟแนนซ์ก็ได้ชี้แจงรายละเอียดมาพร้อมสรุปยอดหนี้ทั้งหมด
ประเด็นคือหลังจากที่ผมได้ฟังตัวเลขและลองบวกลบมาก่อนหน้าแล้วปรากฏว่ายอดไม่ตรงกันจึงได้สอบถามและได้รับคำชี้แจงกลับมาในส่วนของดอกเบี้ยที่ลดลงไปครับ
2
มาว่ากันต่อในส่วนของสาเหตุที่ว่าทำไมพอผมไปทำเรื่องโปะปิดยอดหนี้แล้วดอกเบี้ยลดลงกันครับ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า การคิดดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์เป็นแบบ
Flat Rate หรือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ หมายความว่าเขาจะคิดดอกเบี้ยจาก “ยอดเงินกู้ทั้งหมด”ในครั้งแรก แล้วหารเฉลี่ยเข้าไปในหนี้ที่เราต้องผ่อนชำระต่อเดือนแบบเท่า ๆ กัน
2
ดังนั้น ไม่ว่าเราจะผ่อนหนี้ไปแล้วกี่งวดก็ตาม
เรายังต้องผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ยเท่า ๆ กันทุกเดือน
1
เช่นในกรณีตัวอย่าง เรามีหนี้รถยนต์จำนวน 700,000 บาท
เมื่อคิดดอกเบี้ย 3% ต่อปีเข้าไปแล้ว
แสดงว่าเราจะต้องเสียดอกเบี้ย 700,000 x 3% = 21000 บาทต่อปี
ถ้าผ่อน 5 ปี ก็เอาดอกเบี้ย 21,000 บาทต่อปี ไปคูณ 5 จะเท่ากับ 105,000 บาท
2
แสดงว่าเราจะต้องผ่อนต่อเดือนเป็นเงิน
(700,000+105,000)/60 = 13,416.67 โดยประมาณ
โดยเป็นเงินต้น 11,666.67 บาท
1
และดอกเบี้ย 1750 บาท ต่อเดือน
ดังนั้น ยกตัวอย่างวันที่ผมเหลือค่างวดรถ 6 งวดและตัดสินใจที่จะทำการปิดหนี้ก้อนนี้ทั้งหมด โดยที่กฎหมายการเช่าซื้อรถยนต์ยังบอกอีกว่า ไฟแนนซ์ต้องลดดอกเบี้ยที่เหลืออยู่ 50% ให้กับผู้กู้ที่โปะปิดหนี้(หมายความว่าปิดหนี้ทีเดียวนะครับไม่สามารถโปะรายเดือนได้)
6
นั่นหมายความว่าตอนนั้นผม
เหลือยอดหนี้ทั้งหมด 80,500 บาท
แบ่งเป็นเงินต้น 70,000 บาท
และดอกเบี้ย 10,500 บาท
“จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยจำนวน 5,250 บาท
เหลือแค่ 5,250 บาท”
3
ทำให้หากทำการปิดหนี้รถจะต้องจ่ายเงิน 75,250 บาท
แล้วจะเคลียร์หนี้ก้อนนี้หมดไป
ซึ่งตอนนั้นที่ผมได้ทำการเคลียร์ยอดหนี้
ก็ได้รับส่วนลดตามที่ได้กล่าวไป (ตัวเลขสมมุติ)
โดย สำหรับใครที่มีหนี้ในลักษณะนี้
และเห็นว่าสามารถที่จะเคลียร์หนี้ได้
ในส่วนนี้ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักตัดสินใจความคุ้มค่า
เพิ่มเติมด้วยนะครับ
เพราะแม้เราจะได้เงินส่วนลดคืนมา
แต่ก็ต้องแลกด้วยเงินก้อนที่จ่ายออกไปนั่นหมายถึง
“การเสียโอกาสหากเงินส่วนนั้น
สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าเงินที่ได้คืนมาครับ”
2
แต่หากใครคิดว่าต้องการจัดการหนี้ให้เรียบร้อยเพื่อเพิมสภาพคล่องของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
ส่วนนี้ความเห็นส่วนตัวผมก็มองว่าสามารถทำได้ครับ
ต้องลองตัดสินใจเลือกเอาที่เหมาะสม
กับจังหวะชีวิตของเราดูนะครับ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบนะครับ 🙏❤️
ปั้นเงินออม
7 มีนาคม 2564
โฆษณา