7 มี.ค. 2021 เวลา 03:19 • ไลฟ์สไตล์
หนี้ หนี้ หนี้
หนี้มันทำให้ผมสมองตัน ยิ่งมีหนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออกขึ้นเรื่อยๆ
สมัยนี้มันเป็นยุคคนมีหนี้
มีหนี้แปลว่ามีเครดิต คนไม่มีหนี้แปลว่าไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่มีใครให้ยืมเงิน อาจเข้าข่ายพวกคนจนได้
รอบตัวผมมีแต่คนเป็นหนี้ หมู่บ้านที่ผมอยู่มีแต่คนเป็นหนี้แบงค์ แม้จะซื้ออยู่มาแล้วยี่สิบปี
ผมถึงบอกว่า คนเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก คนไร้หนี้ต่างหากที่เป็นคนแปลก
แต่ตอนนี้ผมอยากเป็นคนไร้หนี้ ผมรู้สึกว่า ราคาทีผมต้องจ่ายจากการเป็นหนี้มันสูงเกินไปเสียแล้ว
ผมไม่ได้พูดถึงดอกเบี้ย ผมกำลังพูดถึงความเครียด ความเครียดจากการเป็นหนี้
มันมีงานวิจัยที่ชี้ว่า คนเป็นหนี้มักจะกังวลใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมองมันว้าวุ่นคิดอะไรไม่ออก คนเป็นหนี้จึงมักแก้ปัญหาการมีหนี้ไม่ค่อยได้ แทนที่จะลดหนี้ลง กลับสร้างหนี้ใหม่ตลอดเวลา บางคนตายแล้วยังทิ้งหนี้ให้ลูกหลานต่อ
อย่างเพื่อนผม เขาบอกผมว่า เขาซื้อบ้านหลังนี้ห้าล้านบาท กะจะผ่อนให้เหลือหนี้สักสองล้านบาท ส่งต่อการผ่อนให้ลูกต่อ เรียกว่าเป็นหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน
ใช่ว่าจะห้ามคนเป็นหนี้ บางครั้งการเป็นหนี้ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ถ้าจะเป็นหนี้ ก็ขอให้เป็นลูกหนี้แบบมีอนาคต ไม่ใช่เป็นลูกหนี้ดักดานตลอดไป
ก่อนเป็นหนี้ ให้ถามตัวเองในอนาคตว่า เสียใจที่ก่อหนี้วันนี้หรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ ก็แสดงว่าหนี้นี้เป็นหนี้มีคุณภาพ หมายถึงเราจำเป็นต้องมีหนี้ในวันนี้ เพื่อตัวเราเองในอนาคตเช่น การซื้อบ้านวันนี้ ด้วยราคานี้ คุ้มที่จะลงทุนให้กับชีวิต เพราะราคาวันนี้บวกดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ก็หาซื้อไม่ได้ในอีกสิบปีข้างหน้า
ถ้าคุณมีหนี้วันนี้ คุณจงรู้อย่างหนึ่งว่า จงรับผิดชอบต่อตนเองและคนที่เกี่ยวข้อง หาหนทางในการปลดหนี้ให้เร็วที่สุด และไม่สร้างหนี้ใหม่ที่เกิดจากความต้องการมากกว่าความจำเป็น
ขอให้มีความสุขกับการลดหนี้ และไม่เพิ่มหนี้ใหม่ครับ
โฆษณา