8 มี.ค. 2021 เวลา 03:27 • สุขภาพ
ใส่หูฟัง ฟังเพลงดังๆ เสี่ยงหูพัง สมองก็พัง !!
เรื่องดีดี
ฟางเชื่อว่ามีหลายคนแน่นอน
ที่ชอบใส่หูฟังฟังเพลง แล้วเปิดดังๆ
ฟางเองแต่ก่อนก็ชอบเหมือนกัน
เพราะมันได้อรรถรสในการฟังมาก
เสียงดนตรี จังหวะมันส์ๆ ยิ่งดัง
ยิ่งได้ Feeling 😂😂
แต่ทีนี้ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการฟังเพลง
ดังๆ มันไม่ได้เป็นผลดีเลย เพราะ
อาจทำให้เราหูตึง หูหนวก และไม่ดี
ต่อแก้วหู
และเวลาเดินทางหรือออกกำลังกาย
หลายคนก็มักจะเลือกเสียบหูฟัง
เปิดฟังเพลงดังๆ ระหว่างนั่งรถ
หรืออกกำลังกายไปด้วย ยิ่งเป็นพื้นที่
สาธารณะ คนเยอะๆ หรือเสียงดัง
จอแจแล้ว เรายิ่งเร่งเสียงดังขึ้นไปอีก
เพื่อกลบเสียงเหล่านั้น
www.freepik.com
หลายคนอาจจะบอกว่า ทำแบบนี้
มานานละ ไม่เห็นเป็นไรเลย
วันนี้ฟางจะมาบอกว่า หากเราฟังเพลง
เสียงดังนานๆ บ่อยๆ มันส่งผลเสียต่อหู
และสมองของเราอย่างไร
1. หูวิ้ง
อาการของหูวิ้ง ไม่เหมือนหูตึงนะจ้ะ
เพราะว่าแทนที่เราจะไม่ได้ยินเสียง
แต่เราดันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
ในหูเราตลอดเวลา ซึ่งอาการหูวิ้งนี้
ไม่ได้แปลว่าจะได้ยินเสียงวิ้งๆเหมือน
จิ้งหรีดเท่านั้นนะคะ
เพราะนอกจากนี้ยังมีเสียงลม
ในหูตลอดเวลา เสียงตุบๆ เสียง
คลิ๊ก เสียงหึ่งๆ จนไปถึงได้ยินเสียง
เพลงที่เราคุ้นเคยวนอยู่ในหูซ้ำๆ
ตลอด
แค่คิดก็น่ารำคาญแล้วเนอะ 😅
จริงๆอาการหูวิ้งนี้มีทั้งรักษาได้
และรักษาไม่ได้ อีกทั้งไม่จำเป็น
ต้องเกิดจากการฟังเพลงเสียงดัง
เสมอไปด้วยนะคะ เพราะอาจเกิดจาก
โรคอื่นๆได้ด้วยเช่นกัน เช่น โรค
มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคไต
โรคความดันหรือโรคโลหิตจาง
ได้เช่นกันค่ะ
2. เวียนหัวตอนตื่นนอน
มีหลายคนที่เกิดอาการมึน งง
คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัวบ่อยๆ
ตอนตื่นนอนแบบไม่มีสาเหตุมาก่อน
ฟางอยากบอกว่า คุณลองคิดทบทวน
ตัวเองดูว่าคุณชอบฟังเพลงเสียงดัง
เป็นประจำหรือไม่ ?
เพราะว่าหากฟังเพลงเสียงดัง
มากๆเป็นประจำ อาจจะเข้าไป
กระทบกระเทือนพวกอวัยวะการ
ทรงตัวไม่อยู่ บ้านหมุน จนเกิด
อาการคลื่นไส้อาเจียนได้ นั่นเองค่ะ
3. หูตึง
อาการทุกอย่างที่ฟางกล่าวไป
ข้างต้นนั้น อาจเป็นผลซึ่งนำมา
ถึงอาการหูตึงได้ในท้ายที่สุด
เพราะในทุกๆ " คลื่นเสียง " มันมี
" ความดัน "
การที่เราปล่อยให้ความดันเข้ามา
ในรูหูของเรามากเกินกว่าปกตินั้น
มันจะเป็นการทำลายเซลล์ประสาทหู
และเซลล์ขนในหู ซึ่งจะส่งผลให้
อวัยวะที่รับสัญญาณในหํของคุณเสื่อม
ลงไปเรื่อยๆนั่นเอง จนคุณอาจจะ
สูญเสียการได้ยินไปเลย
แต่ถ้าในกรณีไม่หนักมาก
คุณแค่เพียงลองหยุดพักการ
ใช้หูฟังสักระยะหนึ่ง ปัญหาการ
ได้ยินก็จะกลับมาเป็นปกติค่ะ
4. ความจำเสื่อม
ทั้งคลื่นไส้ เวียนหัว หูหนวก
มันสามารถลุกลามไปจนถึง
ความจำเสื่อมเลยหรือนี่ !! 😲
ซึ่งทางการแพทย์เค้าได้บอก
ไว้ว่า หากเราใส่หูฟังและเร่งเสียง
ของหูฟังจนถึงสุดระดับของเสียง
มันจะส่งผลให้ประสาทการรับรู้ของ
เราเสียได้ภายในเวลา 30 นาที
อีกทั้งอาการหูตึงตอนอายุมากขึ้น
มันสามารถส่งผลถึงสมองได้เลยค่ะ
การที่ฟังเสียงดังมากๆ เกินความพอดี
บ่อยๆ จึงสามารถส่งผลให้เราเป็นโรค
อัลไซเมอร์ได้อีกด้วย เนื่องจากสมอง
ของเราทำงานหนักในการประมวลผล
เสียงรอบข้างมากกว่าคนทั่วๆไปนั่นเองค่ะ
แล้วเราจะทำอย่างไร เมื่อยังต้องใช้หูฟัง !!
www.freepik.com
ในความเป็นจริงแล้ว
หูของคนเรานั้นไม่ควร
ได้รับเสียงดังเกิน 110 เดซิเบล
แต่ว่าค่าเดซิเบลนี้ มันไม่ใช่ค่า
ที่พวกเราจะสามารถหาวัดกันได้
ง่ายๆและตลอดเวลา 😂
ต่อให้จะมีแอพพลิเคชั่นมา
ช่วยก็เถอะ และเราทุกคนก็
ไม่สามารถที่จะเลิกใช้หูฟังได้
ลองมาทำตามวิธีเหล่านี้ดูสิคะ
จะได้ไม่อันตรายหรือกระทบเทือน
ถึงหูและสมองของเราค่ะ
. . . .
🌷 ปรับระดับความดังไม่เกิน 60% ของเสียงสูงสุด
🌷 ไม่ควรจะฟังเพลงด้วยหูฟังนานเกินกว่า 2 ชม.
🌷 อย่าเสียบหูฟังไว้ตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะไม่ได้เปิดอะไรฟังก็ตาม เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อสุขภาพหู และการใส่หูฟังนานๆ อาจจะทำให้เราปวดกระบอกหูด้วยนะคะ
🌷 หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังแบบ In - Ear ร่วมกับคนอื่นนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงต่อผิวหนัง
🌷 หมั่นทำความสะอาดหูฟัง เปลี่ยนฟองน้ำหรือจุกยางหูฟังบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น และเชื้อแบคทีเรีย
อ้างอิง
โฆษณา