10 มี.ค. 2021 เวลา 04:34 • ประวัติศาสตร์
เกร็ดประวัติศาสตร์โลก
ตอน : 5 เรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 (WWII)
1. อเมริกาเป็นสุดยอดวีรบุรุษใน WWII
สิ่งที่หลายคนคิด :
หลังจากอเมริกาเข้ามาร่วมใน WWII แนวโน้มของฝ่ายที่จะได้รับชัยก็เปลี่ยนไป จากที่ฝ่ายอักษะกำลังจะได้ครองยุโรปก็กลายเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรที่ได้รับชัยชนะ โดยอเมริกามีบทบาทอย่างมากในภาคพื้นยุโรป ทั้งเรื่องยึดเครื่อง Enigma จากเรืออูของเยอรมัน ทั้งบทบาทของนายพลกระดูกเหล็ก Patton ในการนำทัพตะลวงฟันแบบรั้งไม่อยู่ไปจนถึงเบอร์ลิน วีรกรรมของกองร้อยอีซี่และพลร่ม 101 ฯลฯ กล่าวคือถ้าไม่มีอเมริกา สงครามในภาคพื้นยุโรปไม่มีทางจบง่าย ๆ
1
ความเป็นจริง :
หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ผู้คนรับรู้นั้นมาจากสื่อและภาพยนตร์จาก Hollywood ซึ่งแน่นอน อเมริกาย่อมต้องทำให้ตัวเองดูดีอยู่แล้ว ในความเป็นจริงสมรภูมิสำคัญหลาย ๆ ครั้งอเมริกาก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น Battle of Westerplatte, Battle of Stalingrad, Battle of Kursk, Battle of El Alamein (อันที่น่าจะนับเครดิตว่าเป็นของอเมริกาได้จริง ๆ น่าจะมีแค่ Battle of the Bulge) หรือเรื่องที่อเมริกาเป็นผู้ชิงเครื่อง Enigma แล้วทำให้มีผลต่อชัยชนะในบั้นปลาย จริง ๆ แล้วทหารโปแลนด์แย่งชิงเครื่องนี้มาได้ตั้งแต่ปี 1928 แล้ว (แต่เพิ่งเอามาให้อังกฤษตอนที่ถูกนาซีบุกเมื่อปี 1939) และคนที่คิดค้นระบบถอดรหัส Enigma ได้ก็คือ Alan Turing นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ส่วนคนที่เข้ามาหยุด WWII ที่แท้จริงนักประวัติศาสตร์ยกให้เป็นโซเวียต แต่จนทุกวันนี้อเมริกันหลาย ๆ คนก็ยังไม่ยอมรับเพราะมันทำให้เขารู้สึกเสียเกียรติ ส่วนเรื่องโซเวียตเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในข้อถัดไป
2
2. Winston Churchill เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ดี และมีคนรักทั่วโลก
สิ่งที่หลายคนคิด :
Churchill ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศแทน Chamberlain ที่หมดความชอบธรรมไปแล้ว (คือก่อนหน้านี้เขาเคยเจรจากับนาซีแล้วออกมาให้คำมั่นว่า จะไม่เกิดสงครามในยุโรปแน่นอน ไม่กี่วันต่อมานาซีก็บุกโปแลนด์) และ Churchill ก็เป็นผู้นำของประเทศในยามคับขันได้อย่างดีเยี่ยม มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มีสุนทรพจน์ที่กินใจ เป็นศูนย์รวมของคนทั้งชาติและคนในเครือจักรภพได้อย่างดีเยี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งวีรบุรุษใน WWII
1
ความเป็นจริง :
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Churchill นั้นเป็นจิตวิทยาที่เกิดขึ้นในยามคับขันที่ผู้คนต้องการที่พึ่งทางใจ ทำให้ความรู้สึกในแง่ลบที่มีต่อบุคคลที่ขึ้นมาเป็นผู้นำลดลงในช่วงขณะหนึ่ง ในความเป็นจริงแล้วความนิยมในตัว Churchill ไม่เคยดีเลยนับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง เห็นได้จากการเลือกตั้งหลังสงครามโลก พรรคอนุรักษ์นิยมของเขาแพ้ให้กับคู่แข่ง (พรรคแรงงาน) อย่างไม่เป็นท่า นอกจากนี้เขายังเป็นคนหัวรั้นและอีโก้สูง เขาดึงดันที่จะทำสงครามต่อแม้จะทำให้มีทหารอังกฤษบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มอีกมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นคนต้นคิด Operation Unthinkable เพื่อเริ่มสงครามกับโซเวียตต่อเลย (แต่นายทหารส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ยกเว้น Patton) แถมตอนที่มหาตมะคานธีอดอาหารประท้วงเพื่อขออิสรภาพจากอังกฤษ เขายังแสดงท่าทีต่อเหตุการณ์นี้ประมาณว่า "ก็ปล่อยให้ท่านอดตายไปก็แล้วกัน"
1
3. นาซีอาจเป็นฝ่ายชนะในสงครามได้ถ้าไม่ตัดสินใจพลาดในบางเรื่อง
สิ่งที่หลายคนคิด :
นาซีมีเรื่องที่ตัดสินพลาดใน WWII อยู่หลายเรื่อง เช่นการปล่อยให้ทหารอังกฤษหลักแสนข้ามกลับไปยังอังกฤษที่ Dunkirk, การไม่ยอมทำลายระบบเรดาห์ของอังกฤษแต่มุ่งทำลายอาคารบ้านเรือนแทน, การเลือกเปิดศึกสองด้านกับโซเวียตทั้งที่ยังไม่จบการรบกับอังกฤษ หากนาซีไม่ตัดสินใจพลาดในเรื่องดังกล่าว ฝ่ายอักษะอาจเป็นฝ่ายชนะในบั้นปลายได้
ความเป็นจริง :
นาซีไม่มีทางชนะโซเวียตได้อยู่แล้ว เนื่องจากศักยภาพของระบบอุตสาหกรรมโซเวียตทัดเทียมกับนาซีมาตั้งแต่ช่วงยุค 1930 แล้ว และเป็นรองแค่อเมริกาเท่านั้น (แต่คนส่วนใหญ่มักมองว่าโซเวียตล้าหลัง ซึ่งค่านิยมนี้ในยุโรปเป็นมานานแล้วว่ารัสเซียเป็นประเทศบ้านนอก) แถม Stalin ผู้นำของโซเวียตในขณะนั้นยังมุ่งเน้นผลิตผลทางการทหารเป็นหลัก และยิ่งโซเวียตไม่ต้องรับศึกสองหน้าเหมือนกับนาซี เนื่องจากญี่ปุ่นเข็ดหลาบจาก Battle of Khalkhin Gol ก่อนหน้า WWII เริ่มไปแล้ว (และทำให้ญี่ปุ่นไม่กล้าทำสงครามกับโซเวียตอีกเลย ขนาดว่ายอมเลี่ยงไปรบกับอเมริกาแทนเพราะมองว่าโอกาสชนะสูงกว่า) ดังนั้นเมื่อสงครามเกิดขึ้น ไม่มีทางที่นาซีจะเป็นฝ่ายชนะ
4. Hitler เป็นคนอัจฉริยะ ถึงแม้จะเลวก็เถอะ
สิ่งที่หลายคนคิด :
Hitler สามารถทำให้ประเทศที่เป็นผู้แพ้สงครามจาก WWI และโดนสนธิสัญญา Versailles บีบให้ประเทศต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามให้ประเทศผู้ชนะในระดับที่ว่าประเทศเกือบจะล่มจมอยู่แล้ว ให้กลับมายืนหยัด เข้มแข็ง และกลับมาเป็นประเทศแนวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการทหารได้ในเวลาอันรวดเร็ว ประกอบกับมีวาทศิลป์ในการพูดจูงใจคนอย่างดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งบ่งบอกอัจฉริยภาพในตัว Hitler ได้เป็นอย่างดี จนทำให้คนบางส่วน (รวมถึงบางส่วนในบ้านเรา) มองว่า Hitler มีบางส่วนที่น่ายกย่อง
ความเป็นจริง :
Hitler มีความสามารถในการพูดชั้นยอดก็จริง แต่ถ้ามองคุณสมบัติด้านอื่นของเขา เขาไม่มีเรื่องอื่นที่เด่นเลย การที่เยอรมันลุกกลับขึ้นมาเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหลังจากแพ้ใน WWI ได้นั้นเป็นเพราะเยอรมันเป็นประเทศที่มีพร้อมทั้งทรัพยากรธรรมชาติ (แต่ขาดน้ำมัน) และทรัพยากรบุคคลอยู่แล้ว แถมตอนที่แพ้ WWI คนส่วนใหญ่มองว่า "ประเทศเขาไม่สมควรเป็นผู้แพ้" จึงได้แต่เก็บความคับแค้นใจไว้ Hitler เป็นเหมือนเชื้อประทุที่เข้ามาจุดไฟที่เกือบจะมอดให้กลับมาลุกโชนอีกครั้งในใจของคนเยอรมัน (โดยเลือกให้ยิวเป็นผู้รับเคราะห์) ส่วนตัวของ Hitler เอง จะเห็นได้ว่าเมื่อเขาเข้ามามีเอี่ยวในการวางแผนการรบ ผลการรบนั้นมักจะพังไม่เป็นท่าเสมอ นอกจากนี้ ในช่วงบั้นปลายของสงคราม เขายังไม่ยอมเจรจาสงบศึกกับทางอเมริกา แต่ยืนยันจะให้ชาวเยอรมันทุกคนสู้จนตัวตาย สู้จนบ้านเมืองกลายเป็นผุยผง ... อัจฉริยะไหมลองพิจารณากันดู
5. อเมริการู้อยู่ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีการโจมตีที่ Pearl Harbor
สิ่งที่หลายคนคิด :
อเมริกาวางตัวเป็นกลางใน WWII มาตลอด ทั้งที่มีบางส่วน (รวมถึงประธานาธิบดี Roosevelt ด้วย) อยากเข้าร่วม WWII ใจจะขาด จนกระทั่งหน่วยข่าวกรองถอดสัญญาณได้ว่าจะมีการโจมตีที่ Pearl Harbor ล่วงหน้าวันที่จะโจมตีจริงเกือบสองอาทิตย์ แต่ Roosevelt ตัดสินใจปล่อยให้มันเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ใช้เป็นข้ออ้างต่อสภาคองเกรสในการนำอเมริกาเข้าสู่ WWII
2
ความเป็นจริง :
ทั้งหมดเป็นทฤษฎีสมคบคิดของพรรคการเมืองคู่แข่งของ Roosevelt เพื่อใช้ในการโจมตีการทำงานของรัฐบาล จริง ๆ การถอดรหัสของญี่ปุ่น อเมริกาและอังกฤษสามารถถอดได้ตั้งแต่ปี 1938 แล้ว แต่การส่งสารที่ทางอเมริกาตรวจจับได้ขณะนั้นไม่สามารถบ่งบอกได้แน่นอนว่า ญี่ปุ่นจะประกาศสงครามไหม (คือจากรหัสที่ถอดได้ก่อนการโจมตีจะเริ่ม ถอดได้ว่าให้เปลี่ยนท่าทีทางการฑูต ซึ่งก็ไม่สามารถแปลความว่าให้ก่อสงครามได้) แถมญี่ปุ่นเพิ่งเซนต์สนธิสัญญาสันติภาพ (ปลอม) กับอเมริกาไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนการโจมตีจะเริ่มอีกต่างหาก ดังนั้น การตัดสินใจของเสนาธิการในช่วงนั้น รวมถึงตัว Roosevelt เอง จึงค่อนข้างลำบากมาก
1
บทความนี้แปลมานะครับ จาก http://www.warhistoryonline.com/featured/5-untrue-factswwii.html/2 ใส่สิ่งที่ตัวเองรู้เพิ่มนิดหน่อย
ถ้าใครเป็นคอประวัติศาสตร์หรือแฟนพันธุ์แท้ WWII สามารถมาร่วมกับอภิปรายได้ครับ
เครดิตรูปประกอบ http://2.bp.blogspot.com/-eybhC-CEq8o/VQAuB7O3VAI/AAAAAAAAIJA/Z6WbG-Xzt_U/s1600/TheWorldWar_2.jpg สารคดีชุดนี้ดีมากครับเป็นของ History Channel ใครสนใจประวัติศาสตร์ WWII ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
โฆษณา