18 มี.ค. 2021 เวลา 02:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
'เล่นหุ้นมือใหม่' เริ่มไงดี? ปี 2563 มีผู้เปิดบัญชีเล่นหุ้นหน้าใหม่เกิดขึ้นหลายแสนราย
"เล่นหุ้นมือใหม่" เริ่มไงดี? จากที่ปี 2563 มีผู้เปิดบัญชีเล่นหุ้นหน้าใหม่เกิดขึ้นหลายแสนราย ชวนทำความเข้าใจ 3 ขั้นตอนสั้นๆ กระชับที่จะทำให้นักลงทุนมือใหม่ได้เริ่มลงสนามแบบง่ายๆ
บทความโดย สมบัติ นราวุฒิชัย | คอลัมน์ มุมวิเคราะห์การลงทุน
'เล่นหุ้นมือใหม่' เริ่มไงดี? ปี 2563 มีผู้เปิดบัญชีเล่นหุ้นหน้าใหม่เกิดขึ้นหลายแสนราย
ผมคิดว่าผู้ลงทุนใหม่จำนวนมาก ต้องการคำชี้แนะให้เริ่มเข้าสนามลงทุนแบบกระชับที่สุด ซึ่งปกติแล้วองค์กรในตลาดหุ้นมีการจัดทำคำชี้แนะแบบยาว ขั้นตอนครบถ้วน ทั้งหลักการ เนื้อหา มีหลักสูตร หรือวิดีโอ ให้เข้าไปอ่าน หรือชมได้จากเว็บไซต์ หรือ FB ซึ่งคงต้องใช้เวลา พอสมควร กระบวนการจึงดูยากและนาน ทำให้หลายคนยังไม่มีเวลาพอ เลยหันไปสนใจเรื่องอื่นแทนก็มี
1
วันนี้ผมขอเว้นสิ่งที่ยาวๆ ขอเขียนให้ผู้ที่อยากได้ขั้นตอนที่กระชับ ได้เริ่มลงสนามแบบง่ายๆ ขอแนะนำดังนี้ครับ
1. รับรู้พฤติกรรมของราคาหุ้นก่อน จะได้รู้แรงกระเด้งกระดอนรู้โอกาสกำไรขาดทุน
หุ้นจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับว่า มีคนอยากเข้ามาซื้อ หรือขาย อย่างไหนมากกว่ากัน ถ้าซื้อมากกว่าราคาก็ขึ้นไปหาสมดุล ถ้าแรงขายมากกว่าราคาก็จะลง
1
บางครั้ง ราคาหุ้นสามารถขึ้นยาวมาก บางทีก็ลงลึกมาก จนแทบไม่น่าเชื่อ ให้ลองไปดูตัวอย่างราคาหุ้นเข้า google ก็ได้ครับค้นชื่อหุ้นกับคำว่า Chart หรือ กราฟ
ปัจจัยที่ทำให้คนอยากซื้อ หรือขาย มีมากมาย เช่น ข่าวเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย การเมือง นโยบายของรัฐบาล หลักคิดที่ง่ายสุดคือ ถ้าปัจจัยนั้นทำให้คิดว่าธุรกิจของใครจะดีขึ้น หุ้นบริษัทนั้นก็จะขึ้น ถ้าข่าวไหนกระทบทางลบกับใคร หุ้นนั้นก็จะลงมากน้อยตามขนาดผลกระทบ
2. กันเงินที่จะเล่นหุ้น เป็นเงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ถ้าเสียไปสักครึ่งก็ทนได้
2
3.ใช้สูตรลัดคัดหุ้นเด็ด จากงานวิเคราะห์ของบล. เพราะสำนักที่มีแบรนด์แบบนี้ เขาจะมีระบบทำงานที่มีคุณภาพ การคัดเลือกคนทำ และมีฝ่ายกำกับดูแล ผมแนะนำให้ดู
บทวิเคราะห์ธุรกิจ ที่มีการประเมินยอดขาย กำไรในปีอนาคตของบริษัทต่างๆ จัดทำโดยนักวิเคราะห์ที่มีใบอนุญาต เป็นคนที่มีความรู้และมีประสบการณ์ จะทุ่มเวลาศึกษาติดตามสัมภาษณ์ และค้นคว้าเพิ่มอีกเยอะ ทั้งนี้ควรอ่านฉบับที่ออกใหม่ไม่นาน
บทวิเคราะห์แบบกลยุทธ์ของบล. ที่จะบอกทิศทางลงทุน เช่น อาจแนะว่า เมื่อมีวัคซีนแล้ว ต้องซื้อหุ้นธุรกิจดั้งเดิมที่ฟื้นตามเศรษฐกิจ เป็นต้น
ดู IAA Consensus แหล่งรวมบทวิเคราะห์ โดยสมาคมนักวิเคราะห์ฯ ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ใส่ไว้ใน https://iaathai.org/หรือhttps://www.settrade.com/AnalystConsensus/Highlight.jsp?selectPage=10 มีให้อ่านเกือบ 300 หุ้น จาก 25 บล. และทำสรุปค่าเฉลี่ยให้ด้วย
เลือกหุ้นที่มีนักวิเคราะห์หลายสำนักแนะนำซื้อเอกฉันท์ แสดงถึงประเด็นบวกที่มากกว่าลบ หรือราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม
จริงอยู่ ที่คำแนะนำนักวิเคราะห์อาจมีถูก และผิด เพราะการคาดการณ์ทางธุรกิจและหุ้น เป็นสิ่งที่ยาก แต่เท่าที่เห็นมา ก็มีผลสำเร็จน่าพอใจ เหนือกว่าการปล่อยให้นักลงทุนไปวัดดวงเลือกโดยไม่มีข้อมูลที่ดี
กระจายเงินลงทุนไปหลายแบบ เช่น ลงหุ้นไทย กองหุ้นต่างประเทศ กองอสังหาฯและ REIT พันธบัตรหุ้นกู้ชั้นดีทองคำเพื่อกันโชคร้ายจากการลงแบบเดียว
1
ในส่วนของหุ้น แนะให้เลือกจาก Link ข้างต้น แบ่งไปประมาณ 5 ธุรกิจที่ต่างกัน เช่น ธนาคาร ค้าปลีก พลังงาน สื่อสาร วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ช่วยลดโอกาสโชคร้าย แต่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยซึ่งก็ดีพอ
3
ทยอยแบ่งซื้อเป็น 2 หรือ 3 ครั้ง เพื่อไม่ให้โชคร้ายได้ราคาเดียวแล้วมีข่าวร้ายกะทันหัน เหมือนตอนเจอโควิดถ้าเรามีหลายก๊อก ก็มีเงินเหลือซื้อตอนถูกมาเฉลี่ยได้
1
หุ้นไหนที่ถือแล้วราคาตก ให้อ่านบทวิเคราะห์ฉบับใหม่ ว่ามีมุมมองทางธุรกิจอะไรที่แย่ลงอย่างรุนแรงไหม ถ้าไม่ใช่ก็ยังรอวงจรหุ้นขึ้นได้ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง เซียนหุ้นมักจะทำ Stop Loss คือ กลั้นใจขายขาดทุนไปก่อน เซียนหลายคนบอกว่าเป็นสูตรเด็ด ที่ทำให้ไม่เคยโดนหนักๆ แล้วเราไปเอาคืนในจังหวะหน้า หรือหุ้นอื่นๆ ระดับ Stop Loss บางคนก็ตั้งไว้ 5% หรืออื่นๆ ตามที่คิดค้นกันเอง
เมื่อเริ่มลงทุนได้แล้ว อย่าลืมศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมไปตลอดเวลา ขอให้โชคดีครับ
โฆษณา