17 มี.ค. 2021 เวลา 09:52 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ราคาหุ้นมหาชน OR วันนี้บวกแรง 3 บาท มูลค่าการซื้อขาย 10,614 ล้านบาท แม้ขึ้นเครื่องหมาย XD ประกาศจ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ราคาซื้อขายหุ้น OR วันนี้คึกคัก โดยราคาปรับขึ้นร้อนแรงทำราคาสูงสุดที่ 33 บาท จากเปิดตลาดที่ 30 บาท และราคาต่ำสุดที่ 29.75 บาท และล่าสุดราคาอยู่ที่ 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 10.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหุ้น OR สูงถึง 10,614 ล้านบาท ณ เวลา 16.02 น. ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของวัน แม้ว่าวันนี้หุ้น OR จะขึ้นเครื่องหมาย XD โดยปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น
1
ด้านบล.กสิกรไทยแนะนำ ถือ OR ราคาเป้าหมายสิ้นปี 64 ที่ 27.60 บาทจาก upside ที่จำกัด แต่ก็ยังชอบบริษัทฯ ในแง่ของทิศทางกำไรที่เป็นบวกในปี 64-65 โดยมองว่า OR เป็นบริษิทที่มีความเสี่ยงต่ำจากตลาดน้ำมันในประเทศที่มีผู้เล่นหลักครองตลาดส่วนใหญ่ อีกทั้งขยายในตลาด non-oil และต่างประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูง คาดกำไรปี 64-65 จะมี CAGR ที่ 28% จาก GPM ที่สูงยอดขายที่กลับสู่ระดับปกติและการเติบโตจากธุรกิจ non-oil คาดค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันในประเทศเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้มองว่าค่าการตลาดค้้าปลีกน้ำมันในประเทศจะทรงตัวในระดับราวๆ 1.7-2.0 บาท/ลิตร ด้วยแรงหนุน จากผู้เล่นหลักได้ครองตลาดส่วนใหญ่ ทำให้สามารถกำหนดราคาได้มากขึ้น และยังมีการแข่งขันที่ลดลงจากปริมาณการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ของกลุ่มโรงกลั่นในประเทศที่น้อยลงรวมถึง ความเสยี่งที่ลดลงของการที่รัฐบาลจะกลับมากำหนดเพดานราคาน้ำมัน ทังนี้ยอดขายของ บริ ษัทน้ำมันหลัก 7 ราย มีสัดส่วนเพิ่ม เป็น 97.0% ของยอดขายทั้งหมดในประเทศไทยและผู้เล่นหลักมีการปรับกลยุทธ์ไปเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น (non-oil) มากขึ้น
2
ขณะที่บริษัทมีความเสี่ยงต่ำบริหารภายใต้แบนด์ (DODO) โดยสัดส่วน 80% ของสถานีบริการน้ำมันทั้งหมดของบริษัท ฯ และสาขา Café Amazon ขณะที่ธุรกิจการตลาดพาณิชย์ของบริษัทฯ ก็มีลูกค่ามากกว่า 2,600 ราย ทำให้การดำเนินงานที่ผิดพลาดของผู้แทนจำหน่าย หรือกรณีสูญเสียลูกค้ารายใดรายหนี่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรและสถานะทางการเงินของ OR ในวงจำกัด โดยในด้านการจัดหาผลิตภัณฑ์ OR มีสัญญารับซื้อผลิตภัณฑ์ (offtake agreements) ระยะยาวกับโรงกลั่นและบริษัทน้ำมันในประเทศทั้งที่อยู่ในหรือนอกกลุ่ม PTT ซึ่ง สัญญา offtake เหล่านี้คดิเป็นสัดส่วนราวๆ 90% ของยอดซื้อรวมของบริษัทฯ
ทั้งนี้คาดว่าOR ในช่วงปี 64-65 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 28% เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันที่คงอยู่ในระดับสูง ยอดขายที่กลับสู่ระดับปกติและส่วนแบ่งจากธุรกิจ non-oil ที่สูงขึ้น เมื่ออิงจากแผนการขยายกิจการในปัจจุบัน ก็คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) โดยรวมของ OR จะเติบโตขึ้นจาก 6.8% ในปี 63 มาใกล้เคียง 7-8% ภายในปี 65 ส่วนยอดขายจะกลับระดับปกติจะช่วยกระตุ้นความประหยัดต่อขนาด (economies of scale) เพราะจะทำให้อัตราส่วนค่าใชจ้่ายการขายและบรหิาร (SG&A)ต่อยอดขายของบริษัทฯ ปรับดีขึ้นจาก 6%ในปี 63 เป็น 5.4% ในปี 65 ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้EBITDA จากธุรกิจน้ำมันที่มีอัตรากำไรต่ำกว่าจะลดลงจาก 71% เหลือ 68% ภายในปี 65
ขณะที่สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมกับ FCF จำนวนมาก คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อเงินทุน (net D/E ratio) ของ OR จะลดลงจาก 1.07 เท่าในปี 63 มาใกล้เคียงศูนย์หลังจากการเสนอขายหลักทรัพย์ให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) นี้ ขณะที่อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้(DSCR) จะเพิ่มขึ้นจาก 3.1 เท่าเป็น 3.3 เท่าภายในปี 65
4
ทั้งนี้ หมายความว่าบริษัทฯ มีความสามารถในการกู้ยืมอีกมากก่อนที่จะแตะระดับเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้(debt covenants) ที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อเงินทุน (netadjusted IBDE ratio) ไม่เกิน 2.5 เท่า และ DSCR ไม่ต่ำกว่า 1.2 เท่า เราคาดว่า OR จะมีกระแสเงินสดอิสระ (FCF) เกือบ 5 หมื่นล้านบาท ที่พร้อมสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆรวมถึงการควบรวมกิจการ (M&A) และ/หรือการจ่ายเงินปันผลในช่วงปี 64-65นอกเหนือจากแผนการลงทุนและหนี้สินที่ครบกำหนดชำระตามแผนการในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แนะนำ “ถือ” พร้อมกับราคาเป้าหมายสิ้นปี 64 ที่27.60 บาท ด้วยวิธีประเมิน 2 แบบ ได ้แก่ EV/EBITDA และ PBV สำหรับ upside จากการเขา้ซื้อหุ้นในร้านอาหารแบรนด์โอ้กะจู๋ โดยตั้งเป้าหมาย EV/EBITDA ที่ 10.4 เท่า (+1.0SD)สำหรับ 70% ของ EBITDA มาจากธุรกิจน้ำมันสืบเนื่องจากสภาพตลาดน้ำมันค้าปลีกในประเทศที่มีผู้เล่นหลักครองตลาด ขณะที่อิง EV/EBITDA 19.4 เท่าสำหรับอีก 30% ของEBITDA ที่มาจากธุรกิจ non-oil (+2.0SD) จากค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มพาณิชย์ในไทยที่เราวิเคราะห์อยู่ เนื่องจากธุรกิจ non-oil ของ OR นั้นมีศักยภาพการการเติบโตเหนือกว่าผู้เล่นอื่นในกลุ่ม
ด้าน บล.หยวนต้า ประเทศไทย แนะนำให้ Trading ให้ราคาที่เหมาะสมหุ้น OR ที่ 27.50 บาท แม้ราคาหุ้นจะ Fully Valued ในระยะสั้น แต่มองว่าในระยะยาวบริษัทมีUpside หากแบรนด์ต่างๆสามารถพัฒนาจาก Local Brand ให้กลายเป็น Reginal Brand ได้ ธุรกิจของ OR จะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจ Non-Oil เป็นหลัก
ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมี GPM ที่ดีขึ้นในระยะยาว และ OR มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการมาของ EV ในไทยแล้ว และมีโอกาสชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มด้วยSynergy ระหว่างธุรกิจปั๊มและธุรกิจNon-OilOR ถือเป็นหุ้นมหาชน ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่ที่ประกาศขายหุ้นIPO ในราคาหุ้นละ 18 บาท โดยมีนักลงทุนจองซื้อสูงถึง 530,000 รายการ ราคาหุ้น OR เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 36.50 บาท
2
โฆษณา