2 เม.ย. 2021 เวลา 15:12 • ปรัชญา
Compassion Week#13 Month for Family.(Episode 1/2)
Countdown Family's Day.
ผู้หญิง ผู้ชาย เรารู้จัก แต่ความรู้สึกไม่เหมือนคนที่เป็นลูกสาว ลูกชายเรา
2
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ชวนคิดเรื่องความรู้สึกต่อผู้หญิง ผู้ชาย ที่เรารู้จัก แต่ความรู้สึกไม่เหมือนคนที่เป็นลูกสาว ลูกชายเรา
วันที่ 30 มีนาคม ที่ยูดีดีนิวส์ แยกแคราย จังหวัดนนทบุรี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังพ้นโทษจากเรือนจำ และถอดกำไล EM เป็นที่เรียบร้อย โดยระบุว่าเป็นการแถลงข่าวการคืนสู่อิสรภาพ ‘มั่นคงในหลักการ ซื่อตรงต่อประชาชน’
1
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พูดส่งท้ายการแถลงโดยชวนคิดเรื่องความรู้สึกต่อผู้หญิง ผู้ชาย เรารู้จัก แต่ความรู้สึกไม่เหมือนคนที่เป็นลูกสาว ลูกชายเรา
...เพนกวินตอบคำถามเขาว่าตอนอายุ 11 รู้จักณัฐวุฒิ ใสยเกื้อผู้นำประท้วงผ่านเหตุการณ์ประท้วงของคนเสื้อแดงที่ถูกปราบในปี 2553 เวลาผ่านไป 10 ปีตอนนี้เพนกวินเป็นผู้นำประท้วงจนติดคุกแม่ต้องวิ่งขึ้นศาลขอประกันตัว แต่ไม่ได้ประกัน
1
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บอกว่าสิ่งที่ต้องคิดคือ ถ้าปัญหายังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปอีก 10 ปี ลูกชายเขาจะอายุเท่าเพนกวินตอนนี้ ลูกชายเขาอาจเป็นผู้นำประท้วงและติดคุกโดยคนที่คอยวิ่งเต้นขอประกันตัวจะเปลี่ยนจากแม่เพนกวิน แม่อานนท์ ...มาเป็นตัวเขาและคนอื่นๆที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
1
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อบอกว่า ถามหัวใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนว่า
เราจะเข้าคิวรอรับชะตากรรมแบบนั้น หรือเราควรช่วยกันรับผิดชอบในฐานะผู้ใหญ่ที่สร้างปัญหาต่างๆให้เด็ก เราควรเอาเด็กๆออกมาจากคุกแล้วเราที่เป็นผู้ใหญ่มาร่วมกันหาทางออกจากปัญหากันแบบผู้ใหญ่โดยไม่ต้องส่งต่อปัญหาให้ลูกชาย ลูกสาวของเรา
นับถอยหลังใกล้จะถึง วันที่ 4 เมษายน วันอีสเตอร์ วันฟื้นคืนชีพ
วันที่ 30 มีนาคม 2564 UN มีมติส่งทหาร UN เข้าช่วยประชาชนพม่า แต่จีน และรัสเซีย ใช้สิทธิ วีโต้
จีนปิดพรมแดนที่ติดพม่าอ้างสถานการณ์ Covid-19
ที่จีนเมืองอู่ฮั่น ทีมองค์การอนามัยโลก WHO ตรวจหาสาเหตุ Covid-19 พบว่าโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดคือเชื้อมาจากค้างคาวที่ตลาด ไม่พบข้อมูลว่าหลุดจากห้องปฏิบัติการ
อเมริกาสั่งคนอเมริกันที่ไม่มีเหตุจำเป็นต้องอยู่ ให้อพยพออกจากพม่า คาดว่าอาจจะมีมาตรการแรงขึ้นอีก
ล่าสุดเยอรมันก็ขอให้คนเยอรมันอพยพคนออกจากพม่า
และไทยสั่งเตรียมเครื่องบิน C130 ให้พร้อมรับคำสั่งอพยพคนไทยออกจากพม่า
อาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข ให้สัมภาษณ์มติชนทีวี ว่า ทางออกปัญหาพม่าคือ มีทหารปฏิรูปแตกทัพออกมาก่อนที่กองทัพจะทำผิดมากจนกองทัพพัง โดยจุดวิกฤตคือทหารต้องเลือกเทผู้นำเพื่อรักษากองทัพให้คงอยู่ ซึ่งบทเรียนจากประวัติศาสตร์เหตุการณ์ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้
1
แต่มีสิ่งใหม่ที่ในอดีตไม่เคยเกิดคือ
มีกลุ่มผู้นำทหารสูงสุด 12 ประเทศประขาธิปไตย ร่วมกันต้านเผด็จการทหารพม่า มีประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เยอรมันนี กรีซ อิตาลี เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นำโดยผู้นำทหารสหรัฐอเมริการ่วมกันแถลงเรียกร้องให้ทหารพม่ากลับมาเป็นทหารอาชีพและยุติการใช้ความรุนแรง ยุติการปราบปรามประชาชน
เหตุการณ์ผู้นำกองทัพพม่าถลำลึก ไปเรื่อย จนถึงตอนนี้คงเริ่มรู้แล้วว่านรกมีจริง
หลวงพ่อชา สอนว่าความอยากเป็นบารมีของคน แต่ไม่ใช่ทุกคน เป็นบารมีเฉพาะคนที่อยากด้วยปัญญา เท่านั้น เพราะคนที่อยากด้วยตัณหาเป็นความรู้สึกอยากได้ อ้าปากอยู่เสมอ ไม่หุบ ไม่มีคำว่าพอ เช่น
เหตุเพราะมัวแต่ไปมองข้างนอก ตกแต่ง แก้ไขของข้างนอก ใจไม่เคยแต่ง พระพุทธเจ้าสอนเรื่อง โอปะนะยิโก ให้น้อมเข้ามาให้เห็นจิตของเจ้าของ แล้วแต่งจิตเจ้าของ รู้จักให้อาหารใจคือศีลสมาธิปัญญา ทำให้จิตสะอาดด้วยศีล มีสติสุจริตเป็นสมาธิจิตสงบเกิดปัญญา
หลวงพ่อชา สอนว่าความอยากเป็นบารมีของคน แต่ไม่ใช่ทุกคน เป็นบารมีเฉพาะคนที่อยากด้วยปัญญา เท่านั้น
ความอยาก Passion มี 2 แบบ
1. Passion ความอยากแบบตัณหา
ปากท้องยังรู้จักอิ่ม รู้จักพอ แต่ตัณหาเป็นความรู้สึกอยากได้ อ้าปากอยู่เสมอ ไม่หุบ ไม่มีคำว่าพอเป็นสติทุจริต ไม่รู้จักประมาณตน
1
2. Passion ความอยากแบบปัญญา เป็นสติสุจริต รู้จักประมาณตน รู้จักพอ ยอมรับธรรมอย่างที่เป็น
หลวงพ่อชา สอนว่าฟังธรรมเพื่ออะไร?
สมาทานศีลแต่ไม่มีใครจะสนใจว่าศีลนี้มันคืออะไร ไอ้ความเดือดร้อนทุกวันนี้เป็นเพราะอะไร
เป็นเพราะความเห็นมันผิด พูดมันก็ผิด คิดมันก็ผิด ทำมันก็ผิด เมื่อความผิดมันเกิดในกลุ่มใด กลุ่มนั้นก็เสียหายถูกต้อง จะฟังธรรมกันสักเท่าไร บุญมันก็ไม่เกิด ตั้งหน้าทำบุญกัน แต่มีความเดือดร้อน เพราะทำไม่ถูกความดีความงามตามที่พระพุทธเจ้าบอกว่าทำดีได้ดี แต่เราคิดไม่ถึง
เพราะความดีมันจะเกิดขึ้นได้ มันจะต้องพร้อมทั้งกาล ทั้งเวลา ทั้งบุคคล ทั้งกลุ่มชนทั้งหลายด้วยคือต้องถึงพร้อม เหตุ ปัจจัย เงื่อนไข เวลาที่เปิดรับ
หลวงพ่อชา สอนเรื่องสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ
ธรรมะเป็นของยาก ลำบาก แต่แก้ไขได้ และสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ ไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์ตน เพื่อเกิดประโยชน์คนอื่นด้วย เป็นของที่มนุษย์ทำได้ ที่ทำไม่ได้ ไม่มี
พุทธศาสนา สอนให้ปล่อยวาง จึงฝืนความเป็นปุถุชนที่คิดแต่อยากมีอยากเป็น
แท้จริง ปล่อยวาง คือ ให้ทำเหตุให้ถึงพร้อม แต่อย่าข้ามไปทำหน้าที่เรื่องของผล ต้องปล่อยวางเรื่องของผล เพราะเป็นหน้าที่ของธรรมชาติที่จะสร้างผลด้วยกระบวนการอันละเอียดลึกซึ้งหลายมิติอันเป็นพลวัตกัน เกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้หมด
การจะคาดการณ์เหตุการณ์ในพม่า ว่าจะจบลงอย่างไรนั้น ต้องอาศัยมองผ่านธรรมชาติของเหตุการณ์รูปแบบเดียวกันว่า ผลที่เคยเกิดในประวัติศาสตร์เป็นอย่างไร เพราะประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเดิม
แต่คนไม่เข้าใจว่ามนุษย์มีความรู้เพียงน้อยมิติเมื่อเทียบกับความรู้หลายมิติของธรรมชาติ
คนจึงหลงไปเล็งที่ผล เพราะคิดเอาเองว่าทำครบมิติที่รู้แล้วควรได้ผล เช่น เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนั้น
ความดีมันจะเกิดขึ้นได้ มันจะต้องพร้อมทั้งกาล ทั้งเวลา ทั้งบุคคล ทั้งกลุ่มชนทั้งหลายด้วยคือต้องถึงพร้อม เหตุ ปัจจัย เงื่อนไข เวลาที่เปิดรับ
ดังนั้น เราต้องปล่อยวางเรื่องผล เพราะเป็นหน้าที่ของธรรมชาติ เราอย่าข้ามไปทะลึ่งทำหน้าที่ของธรรมชาติ ต้องปล่อยวาง ต้องยอมรับ ให้สิ่งต่างไปเป็นไปตาม ธรรมชาติของมัน
2
ต้องมีปัญญารู้เท่าตามธรรมชาติ เช่น ปัญญารู้เท่าตามสังขาร เห็นสังขารว่ามันเป็นของมันอย่างนั้น ก็ยอมรับให้มันเป็นของมันอย่างนั้นตามเรื่องของมัน ความสงบก็จะเกิดขึ้นในใจเราเพราะเราไม่สงสัย
เหมือนการเห็นลิงที่ไม่อยู่นิ่ง ให้มันดิ้นอยู่แต่ลิงนะ ทีนี้เราเห็นลิง เราไม่สงสัยแล้ว เห็นตัวนี้ก็เหมือนตัวที่เราเคยเห็นนั้นแหละ
โลกก็เหมือนกัน โลกวิทู ..พระพุทธเจ้ารู้แจ้งโลก เหมือนเรารู้แจ้งลิงนะแหละ โลกมันก็ต้องเป็นอย่างนี้ แต่คนเป็นทุกข์เพราะคิดไม่ถูก ไม่รู้เท่าตามความเป็นจริง ไม่เห็นที่ที่มันจะปล่อยวาง ก็ไม่เห็นความสงบ เพราะอยากให้มันเป็นอย่างความคิดความอยากของเรา
“…ศีล 5 ประการนี้นะ ไม่ต้องมาก ไม่ต้องมายอะไร
ถ้าใคร รักษาศีล 5 ในใจเราอย่างแจ่มใส
คนนั้นจะสบาย ไม่มีใครรู้จัก ก็สบาย ใจสว่างไสว
นึกไปข้างหลังที่เป็นอดีต ก็สบายใจ
เพราะเราไม่ได้ทำอะไรที่ยุ่งด้วยการกระทำบาปทั้งหลาย
จะยืนอยู่ นึกขึ้นมาได้...ก็สบาย
จะนอนอยู่ นึกขึ้นมาได้ก็สบาย
ไปที่ไหน ก็สบาย
จะเดินอยู่นึกขึ้นมาได้ ก็สบาย
ก่อนจะตายนึกขึ้นมาได้ก็สบาย”
คนที่ทำผิดศีล ย่อมไม่สบาย เพราะไม่มีศีลคุ้มครอง
1 เมษายน 2564 กลุ่ม CRPH สมัชชา สส.พม่า ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และเตรียมรวบรวมชนกลุ่มน้อยจัดตั้งเป็นกองทัพสหพันธรัฐสู้กับทัพของมินอ่องลาย และมีการร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐพม่าฉบับใหม่
หรือว่าจะเกิดสงครามตัวแทน
กงล้อประวัติศาสตร์เหตุการณ์ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ คือซ้ำรอยเดิม
เพราะสรรพสิ่งล้วนมีสิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามอยู่ในตัว เมื่อถึงจุดวิกฤตด้านบนสุดก็จะเทไปด้านล่าง และเมื่อถึงด้านล่างสุดก็จะเทกลับย้อนขึ้นมาด้านบน
ยกเว้นกรณีที่เกินกว่าวิกฤต เป็น One Way Ticket แบบฝรั่งเศส คือคนภายในแก้ไม่ไหว เหมือนไหมที่พันกันยุ่งเกิน แก้ไม่ได้ต้องเผาทิ้ง
หลังวันที่จักรวาลส่งสัญญาณ 29 มีนาคม 2564 วันที่ดาวคุณธรรมจะเริ่มเปลี่ยนจุดยืนออกห่างจากดาวบาปเคราะห์
การใช้ชีวิตต้องขับเคลื่อนด้วยพลังใจและชีวิตต้องประกอบด้วยความอยาก
1
ถ้าไม่อยากก็ไม่มีข้อปฏิบัติคือไม่รู้ว่าจะปฏิบัติไปทำไม
คนจะพูดหรือทำอะไรได้ ต้องมีใจถึงก่อน ใจมีพลังและปัญญาด้วยเรารู้จักให้อาหารใจ Heart Food
อาหารใจคือศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน เหมือนมะม่วงผลเล็กๆ ต่อมาเป็นผลใหญ่ แล้วเป็นมะม่วงสุกก็ผลเดิมเพียงมันเปลี่ยนลักษณะมาเรื่อยๆ
ถ้าอดีตปฏิบัติ“ศีล”ล้างใจ
โดยปฏิบัติ“ศีล”เอาสิ่งผิดบาปออกจากใจสกปรก เหมือนมือเลอะสิ่งสกปรกเราไปล้างมือเอาความสกปรกออก ความสะอาดก็เกิดขึ้นมาใจเราก็เหมือนกันเอาความผิดศีลออกให้หมดความถูกต้องก็เกิดขึ้นมาทำให้ใจสะอาดไม่เกิดภาวะแย้งในใจ
ต่อมาจึงมี“สมาธิ”สงบใสไร้กังวล
ด้วยไม่เกิดภาวะแย้งในใจต้องคิดกังวลให้ใจขุ่นมัว ใจสะอาดจึงสงบ เพราะไม่กวนน้ำให้ขุ่นปล่อยให้น้ำนิ่งสงบเป็นน้ำใสทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำ ใจสะอาดสงบเหมือนน้ำใสจึงรับรู้ได้ชัดเจนไม่บิดเบือน
ทำให้เกิดแสงสว่างแห่ง“ปัญญา”
ด้วยใจที่ใสสะอาดทำให้แสงแห่งปัญญาที่ใจ Being Mind เราสาดส่องไปได้เต็มที่เหมือนเราถ่ายภาพกลางแดดจะได้ภาพที่ชัดเจน แสงสว่างแห่ง“ปัญญา”ก็ทำให้เรารับรู้ได้ชัดเจนตามความเป็นจริงไม่บิดเบือน
แท้จริงจิตเดิม Sanity นั้นสงบ สะอาด สว่าง เมื่อเราปฏิบัติศีลให้บริบูรณ์ สมาธิ และปัญญา ก็ตามมา
สรุปว่าอาหารใจคือศีล สมาธิ ปัญญา
You are what you eat.อาหารใจคือศีล สมาธิ ปัญญา
ในภาวะวิกฤต Covid-19 คนต้องหา
ทางรอดส่วนบุคคล Escape Ways
เพราะคนคือคอมพิวเตอร์มีชีวิตที่มีเจ้าของเลี้ยงจึงโตมามีลักษณะตามบริบทที่แวดล้อมเมื่อรู้ความเข้าสู่สังคมต้องหาทางรอด Escape Ways และที่ยืนในสังคมของคนแบบต่างๆ
1. คนแบบหุ่นยนต์มุ่งเอาตัวกายรอด
เพราะสภาพที่ลำบาก ต้องเอาชีวิตรอดก่อน ด้วยถูกกดให้เป็นทาสทางเศรษฐกิจจนลืมความเป็นมนุษย์ เพราะไม่รู้ว่าโลกนี้ไม่ใช่ที่ของความเจ็บปวดทรมาน และคนเป็นมนุษย์สังคมสามารถสร้างสังคมที่ดีเพื่อตัวเองและลูกหลานได้
2. คนตื่นรู้จักสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีกว่า
ชนะใจตัวเองรู้จักให้อาหารใจคือศีล สมาธิ ปัญญา สามารถสร้างสังคมที่ดีเพื่อตัวเองและลูกหลานมีคุณภาพชีวิตที่ดีสมฐานะความเป็นมนุษย์ผู้มีความรู้สึกตามธรรมชาติของคนทั่วไป คนที่กลัวตายจะไม่ฆ่าใคร คนที่ไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบ จะไม่เอาเปรียบใคร คนมีปัญญาจึงรู้จักทำธุรกิจชีวิตและสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า รวมถึงต่อยอดไปได้เรื่อยๆ
3. คนฉลาดจะไม่ฝืนธรรมชาติ Faith in Nature
รู้จักใช้ความไม่อยากมาแก้ปัญหาความอยาก
ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่ เช่น โลกอยู่ในองค์ประกอบที่ถูกส่วน จึงเกิดมีมนุษย์ขึ้นมา โดยองค์ประกอบนั้นรวมทุกสิ่งซึ่งสัมพันธ์กันหมดด้วย Ether และโลกหมุนวนรอบตัวเองและดวงอาทิตย์
ชีวิตคนจึงวนเวียนสัมพันธ์อยู่กับกรรมที่ตัวเองทำ เหมือนคว้างบูมมะแรงออกไป แล้วมันจะหมุนวนกลับมาเสมอ
หลวงพ่อชา สอนให้ฝึกสอนใจตัวเองโดยภาวนาว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ให้ใจรู้ปฏิบัติความดี ละเว้นการทำชั่ว คนโง่ไม่ขโมยหรือเอาของคนอื่นเพราะกลัวถูกจับได้
คนฉลาดฝึกใจให้เป็นธรรม ไม่เอา ของใครคือของคนอื่นเอามาทำไม? ไม่ใช่กลัวกฎหมายแต่ไม่อยากให้คนอื่นทำกับตัวเองแบบนั้น คือฉลาดใช้ความไม่อยากมาแก้ปัญหาความอยากโดยแก้ไขที่ใจตัวเอง และเรียนรู้จากธรรมชาติ เพราะสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรม เมื่อลูกศิษย์พร้อม อาจารย์ก็ปรากฏตัว
ธรรมชาติไม่แบ่งแยกผู้คน คนฉลาดจะไม่ฝืนธรรมชาติ เพราะสิ่งที่ผิดธรรมชาตินั้นมีความกดดันที่ต้องฝืนซึ่งทำให้ใจกังวลและส่งสัญญาณให้ทุกเซลล์ในร่างกายเปลี่ยนสู่สภาวะป้องกันตัว
คนฉลาดที่สุดศึกษาความจริงปฏิบัติจิตเพื่อหลุดพ้นไม่ต้องกลับมาถูกบังคับให้เล่นเกมชีวิตอีก
Always remember for peace life
The secret of happiness is freedom.
The best happiness is peaceful life.
ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติลึกลับ มีสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็นซึ่งล้วนกำลังเปลี่ยนแปลงจนยากที่จะเข้าใจถูกต้องในครั้งแรก
แต่เมื่อเข้าใจแล้วต้องรีบตื่น โดยทิ้ง EGO ที่รู้ผิดเพื่อปฏิวัติความรู้สู่ความรู้ใหม่ คนฉลาดรู้ว่าต้องพึ่งตัวเองเพราะมีเพียงตัวเองเท่านั้นที่ยังอยู่ให้พึ่งพิงในเวลาวิกฤตและการพึ่งตัวเองนั้นแท้จริงเป็นศิลปะชั้นสูงที่ใช้บูรณาการความรู้เกิดปัญญาได้
คนฉลาดจึงรู้จักให้ของขวัญที่มีค่าที่สุดแก่ตัวเอง 3 สิ่งคือ
1. ให้ความเป็นตัวเอง ไม่เป็นคนอนาถาที่คอยดูว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร โดยทำใจสงบยอมรับรู้และรับผลดีชั่วด้วยตัดสินตัวเองโดยเป็นพยานได้ในตัวเอง จิตไม่ส่งออกนอก
2. ให้อาหารใจตัวเอง ด้วยการมีศีลละบาปทำให้ใจมีอิสรภาพจากการทำบาป
3. ให้โอกาสตัวเองใช้เวลาพัฒนาสู่ชีวิตที่ดีกว่าด้วย opportunity for improvement : Keep cut paste
Keep มุ่งมั่นใจสงบในการสร้างชีวิตที่มีคุณค่าด้วยมือตัวเอง
Cut สร้างความว่างโดยเลิกทำสิ่งที่ไม่ใช่เป้าหมายในใจและส่งต่อส่วนเกินจำเป็นต่อเป้าหมายในใจให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์เพื่อใช้พลังความว่างดึงดูดโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเอง
Paste ตอบสนองโอกาสใหม่ๆเฉพาะเพื่อสร้างสิ่งที่เป็นเป้าหมายในใจ
Compassion Week#13 Month for Family.(Episode 2/2)
Countdown Family's Day.
ผู้หญิง ผู้ชาย เรารู้จัก แต่ความรู้สึกไม่เหมือนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่เรา
Compassion Week#14 Month for Family.(Episode 1/2)
Family Reunion 14 เมษายน "วันครอบครัว"
Compassion Week#14 Month for Family.(Episode 2/2)
Family Bye Bye. 14 เมษายน "วันครอบครัว"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา