🔖การให้ทานที่มีคุณภาพ🔖
.
cr: https://www.mokkalana.com/3556/
ถ้าจะกล่าวถึงการทำบุญใส่บาตรทุกคนก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนะครับ การใส่บาตรเป็นการให้ทานอย่างหนึ่ง ซึ่งการให้ทานแก่สมณะผู้มีศีล นับว่ามีผลมาก มีอานิสงส์มาก
1
แต่การให้ทานของแต่ละคนนั้นก็จะมีจุดมุ่งหมายในการให้แตกต่างกันออกไป
พระพุทธเจ้าได้ตอบคำถามของพระสารีบุตรในเรื่องนี้ไว้เช่นกัน ซึ่งก็จะปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกตามที่ผมได้ระบุที่มาอ้างอิงไว้ด้านล่างแล้ว
1
ในขณะที่เพื่อนๆให้ทานนั้นเพื่อนๆคิดหวังสิ่งใดจากการให้ทานกันบ้างครับ
บางคนที่ผมเคยได้ยินได้ฟังมาเชื่อว่าถ้าใส่บาตรด้วยอาหารชนิดใดตายไปแล้วก็จะได้ไปกินอาหารชนิดนั้น
หรือถ้าเราทำบุญอุทิศให้แก่ใครคนที่เราอุทิศให้เขาก็จะได้กินอย่างที่เราเอาไปทำบุญ ดังนั้นหลายคนจึงมักเอาของที่คนตายชอบกินไปถวายพระ แทนที่จะดูว่าพระฉันอาหารชนิดนั้นได้หรือไม่
1
ส่วนบางคนก็ทำไปโดยไม่ได้หวังผลในทานแต่คิดแค่ว่าทำแล้วดีจึงทำ บางคนก็ทำตามประเพณีที่ทำสืบต่อกันมา บางคนทำตามพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ที่พาทำ เป็นต้น
1
ซึ่งจุดมุ่งหมายในการทำทานที่แตกต่างกันนี้ย่อมให้ผล และมีอานิสงส์ที่แตกต่างกันไปอย่างแน่นอน
งั้นเราลองไปดูว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ตรัสไว้อย่างไรบ้างในเรื่องการวางจิตเพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการให้ทานกันในพระสูตรนี้กันก่อนนะครับ
1
🌱 ทานสูตร 🌱
1
ลำดับนั้น ท่านพระสารีบุตรพร้อมด้วยอุบาสกชาวเมืองจัมปา เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานเช่นนั้นนั่นแลที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว 🔻มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก🔻 พึงมีหรือหนอแล
และทานเช่นนั้นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว 🔻มีผลมาก มีอานิสงส์มาก🔻พึงมีหรือพระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรสารีบุตร ทานเช่นนั้นนั่นแลที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว 🔻มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก🔻พึงมี และทานเช่นนั้นนั่นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว 🔻มีผลมาก มีอานิสงส์มาก🔻พึงมี ฯ
1
(พระสารีบุตร). ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องให้ทานเช่นนั้นแลที่บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้แล้ว 🔻มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก🔻 อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ทานเช่นนั้นนั่นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้แล้ว 🔻มีผลมาก มีอานิสงส์มาก🔻ฯ
1
(พระพุทธเจ้า). ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ยังมีความหวังให้ทาน มีจิตผูกพันในผลให้ทาน มุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานด้วยคิดว่า 🔖เราตายไปจักได้เสวยผลทานนี้ 🔖เขาให้ทานคือ ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและเครื่องอุปกรณ์ แก่สมณะหรือพราหมณ์ ดูกรสารีบุตร เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
1
บุคคลบางคนในโลกนี้ พึงให้ทานเห็นปานนี้หรือ
(พระสารีบุตร). อย่างนั้น พระเจ้าข้า
(พระพุทธเจ้า). ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลมีความหวังให้ทาน มีจิตผูกพันในผลให้ทานมุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานด้วยคิดว่า🔖ตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ 🔖เขาผู้นั้นให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศหมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังมีผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้
1
ดูกรสารีบุตร ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่มีหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน 🔖ไม่คิดว่าตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้🔖 แล้วให้ทาน แต่🔖ให้ทานด้วยคิดว่าให้ทานเป็นการดี🔖 เขาให้ทานคือ ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอมเครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและเครื่องอุปกรณ์แก่สมณะหรือพราหมณ์
1
ดูกรสารีบุตร เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุคคลบางคนในโลกนี้พึงให้ทานเห็นปานนี้หรือ ฯ
(พระสารีบุตร). อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
(พระพุทธเจ้า). ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน 🔖ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้🔖แต่ให้ทานด้วยคิดว่า 🔖ให้ทานเป็นการดี🔖 เขาผู้นั้นให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความ
เป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ
1
ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่าทานเป็นการดี แต่ให้ทาน
ด้วยคิดว่า 🔖บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี🔖 เขาให้ทาน
คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามา เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ
หมดความเป็นใหญ่แล้วยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ
1
ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยายเคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า 🔖เราหุงหากิน สมณะและพราหมณ์เหล่านี้ ไม่หุงหากิน เราหุงหากินได้จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้ไม่หุงหาไม่สมควร🔖 เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดุสิต
เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศหมดความเป็นใหญ่ แล้วยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ
ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่าเราหุงหากินได้ สมณะและพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร
1
แต่ให้ทานด้วยคิดว่า 🔖เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนฤาษีแต่ครั้งก่อนคือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี บูชามหายัญ🔖 ฉะนั้น เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ
1
เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ
1
ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี ฯลฯและภคุฤาษี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า🔖เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส🔖 เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ
3
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ
ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส 🔖แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต🔖 เขาให้ทาน คือ
ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอมเครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและเครื่องอุปกรณ์แก่สมณะหรือพราหมณ์
1
ดูกรสารีบุตร เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้พึงให้ทานเห็นปานนี้หรือ
(พระสารีบุตร). อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
(พระพุทธเจ้า). ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลผู้ไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า การให้ทานเป็นการดีไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยายเคยให้เคยทำมา เราไม่ควรทำให้เสียประเพณี ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ จะไม่ให้ทานแก่ผู้ที่หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี ผู้บูชามหายัญ ฉะนั้น และไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานนี้ จิตจะเลื่อมใส จะเกิดความปลื้มใจและโสมนัส 🔖แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต🔖 เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว 🔖เป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้🔖
1
ดูกรสารีบุตร นี้แลเหตุปัจจัย
เป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว 🔻มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก🔻และเป็น
เครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว 🔻มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ฯ🔻
1
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๓
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ข้อที่ ๕๐ หน้าที่ ๕๔ -๕๗
** ตรงที่ผมทำเครื่องหมาย 🔻🔻และ🔖🔖ไว้ให้นั้นคือส่วนที่สำคัญนะครับ ลองพิจารณาดู
สรุปได้ว่า 🔖การตั้งจิตในการให้ทาน เป็นเครื่องปรุงแต่งจิต🔖 เป็นการให้ทานที่🔻มีผลมาก มีอานิสงส์มาก🔻
ดังนั้นเพื่อนๆก็คงจะรู้แล้วนะครับว่า การให้ทานที่มีคุณภาพที่สุดคือการให้ทานเพื่อการสละออกซึ่งความยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์ เป็นการยกระดับจิตใจให้ปล่อยวางความโลภ ความอยากได้ ซึ่งก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า การให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิตนั่นเอง
1
ซึ่งจากการให้ทานที่กำหนดจุดมุ่งหมายแบบนี้ก็จะได้อานิสงส์มากถึงขั้นเป็นเทวดาชั้นพรหม เลยทีเดียว
แต่ถึงกระนั้น ผลจากการให้ทาน เมื่อสิ้นกรรมแล้วก็จะต้องตายแล้วกลับมาวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏอีกเหมือนเดิมถ้าตั้งจิตไว้ไม่ถูกที่แท้จริง เราก็ยังไม่พ้นไปจากทุกข์ได้จริงๆ
1
ดังนั้น แม้จะเป็นแค่การให้ทาน แต่ก็ยังสามารถทำให้เราพ้นทุกข์ได้จริงๆ โดยไม่ต้องกลับมาสู่โลกนี้อีกตามพระสูตรได้กล่าวไว้ เพียงแต่เราต้องกำหนดเป้าหมายในการทำทานไว้ให้ถูกต้อง
1
แต่ถึงแม้การให้ทานจะมีอานิสงส์มากแต่เราก็ไม่ควรหยุดไว้เพียงแค่การทำทานเท่านั้น การปฏิบัติในพระพุทธศาสนาขั้นต่อๆไปอย่าง ศีล และภาวนา เราควรต้องขวนขวายปฏิบัติกันต่อไปในหมู่พุทธบริษัททั้งหลายด้วยเช่นกันครับ
1
ํธรรมะสวัสดี
ขอขอบคุณภาพจาก
โฆษณา