20 เม.ย. 2021 เวลา 11:26 • ปรัชญา
#การแข่งขันที่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชัยชนะ
คุณไม่สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของคุณได้หากปราศจากความกลัว และคุณจะไม่สามารถได้รับสิ่งที่คุณต้องการได้โดยไม่ผ่านการท้าทายตัวเอง อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
การแข่งที่เริ่มต้น
ณ วันที่อากาศสดใสทางตอนเหนือของประเทศ เนเธอร์แลนด์ คุณครูจากโรงเรียนประถม ได้นัดเด็ก นักเรียน 2 คนมาพบเขาที่บริเวณทางราดชันใกล้ ๆ ป่า
ซึ่งนักเรียนไปถึงที่นั้นตามเวลาที่กำหนดไว้ หลังจากล่าวทักทายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณครู ก็ได้แสดงแทร็กสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ให้ดู พร้อมทั้งกล่าวว่า “เอาล่ะ พวกเธอคงจะเห็นแทร็กที่อยู่ในมือครูแล้วสินะ พวกเธอต้องเริ่มต้นการแข่งขันจากจุดนี้
และต้องทำการเก็บแทร็กให้ครบ จนถึงเส้นชัย อ้อ...การเก็บแทร็กนี้มีผลต่อการทดสอบครั้งถัดไปที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วยนะ..เอาล่ะโชคดี แล้วเจอกันที่เส้นชัย”
(การทดสอบนี้จัดขึ้นเพื่อวัดความพร้อมในการเผชิญโลกภายนอกของเด็ก ซึ่งเด็กของคนในเรื่องนี้ต้องการทดสอบความพร้อมเอง คุณครูจึงจัดการแข่งขันนี้ขึ้นมา)
แล้วพบกัน
แม้จริงอยู่ ที่หลังจากนั้นทั้งสอง ก็เริ่มออกวิ่งตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็ได้เห็นลู่วิ่งที่เริ่มแยกออกจากกันเป็นสองทาง
นักเรียนคนแรกจึงตัดสินใจเลือกเดินตามเส้นทางที่ชัดเจน และดูผ่านไปได้ง่ายกว่า ในขณะที่นักเรียนคนที่สองตัดสินใจเลือกอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ถูกกั้นด้วยท่อนไม้ และสิ่งกีดขวางมากมาย
เมื่อเวลาผ่านไป นักเรียนคนแรก ก็มาถึงเส้นชัยก่อน ในตอนนั้นเขารู้สึกโล่งใจและภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ เพราะเขาไม่ได้พบเจออุปสรรคใดมากมายเลย
เส้นทางมันต่างกัน
ส่วนนักเรียนคนที่สองนั้น เขาใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าที่จะมาถึงเส้นชัยได้ เพราะเขาต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมาย กว่าที่จะผ่านมาถึงจุดสิ้นสุดนี้ได้ และแม้จะยากลำบาก แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขมากที่ผ่านการแข่งขันครั้งนี้ไปได้เช่นกัน
นักเรียนคนแรกที่ได้เห็นเพื่อนของตนกำลังหอบด้วยอาการเหนื่อยอ่อนอยู่นั้น เขาจึงรีบเดินเข้าไปหา พร้อมพูดกับเพื่อนเขาว่า “ฉันดีใจจริง ๆ ที่เลือกเส้นทางที่ง่ายกว่านาย เพราะหากฉันเลือกเส้นทางเดียวกันนั้น มันคงทำให้ฉันช้ากว่านี้อีกเป็นไหน ๆ ”
แม้จะพูดเสียงเบาจนแทบจะฟังไม่ชัดเจน แต่ครูก็พอจับใจความถึงสิ่งที่นักเรียนกำลังคุยกันได้
เข้าใจได้
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา คุณครูจึงได้ทำการนัดนักเรียนทั้งสองให้มาพบที่บริเวณใกล้หุบเหว เพื่อทำการทดสอบในขั้นตอนต่อไป
ซึ่งเมื่อทุกคนมาถึง คุณครูก็กล่าวว่า “ในครั้งนี้ทั้งสองคนต้องกระโดดข้ามหุบเหวนี้ไปให้ได้….”
แม้ความกว้างของหุบเหวนั้นจะเพียงแค่ ไม่กี่เมตร แต่นักเรียนคนแรกที่ได้เห็น เขาก็กลัวจนไม่กล้าที่จะกระโดดข้ามไป เขาตัวสั่นไปหมดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนถึงขนาดขอถอดตัวออกจากการแข่งขั้นในครั้งนี้
หลังจากนั้นครูก็มองไปที่นักเรียนคนที่สอง ซึ่งในตอนนี้สิ่งที่เขาได้เห็นอยู่ตรงหน้าก็เหมือนกับเส้นทางที่เขาต้องผ่านไปให้ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ความยากในระดับเดียวกัน
เขาจึงก้าวถอยหลังและวิ่งออกไปอย่างไม่ลังเล ตัวเขาพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างห้าวหาญ และก้าวไปยังอีกฝั่งได้อย่างสวยงาม
หลังจากทำแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณครู จึงเดินเข้าไปคุยกับนักเรียนทั้งสองคนว่า “การแข่งขันก่อนหน้านี้เป็นเหมือนการเตรียมความพร้อมของพวกเธอ เพราะแม้จริงอยู่ที่ จุดเริ่มต้นนั้นเริ่มด้วยจุดเดียวกัน แต่ปลายทางนั้นใครจะรู้ได้ว่า แต่ละคนผ่านสิ่งใดมาบ้าง หากเราผ่านแต่เรื่องง่าย ๆ มา
แน่นอนว่าเมื่อเจอเรื่องที่ยากขึ้นแล้ว ก็คงจะยากที่จะก้าวผ่านไปได้ง่าย ๆ ชีวิตที่พวกเธอที่จะเจอข้างนอกโรงเรียนนั้น ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เพราะยิ่งบทเรียนยากขึ้นเท่าไหร่ แล้วเธอผ่านมันไปได้นั้น พวกเธอก็จะยิ่งเก่งขึ้น และเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นจงจำใส่ใจไว้ให้ดี”
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “อุปสรรคล้วนเป็นยาขม ไม่มีใครอยากลิ้มลอง แต่ขึ้นชื่อว่ายาขม ส่วนใหญ่มักเป็นยาดีเสมอ ”
2
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา