2 เม.ย. 2021 เวลา 13:01 • กีฬา
"ยังอยู่" : ฮานนิค คัมบ้า กับการ "ตายทิพย์" ที่อาจมีเบื้องหลังจากภรรยาสุดแสบ | MAIN STAND
ฮานนิค คัมบ้า เสียชีวิตแล้ว ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ
4 ปีต่อมา ... "ยังอยู่"
นี่คือมุกโบ๊ะบ๊ะที่เป็นไวรัลของโลกฟุตบอลเมื่อ 3 ปีก่อน เรื่องราวการตายและเสียน้ำตาของครอบครัวนักฟุตบอลครอบครัวหนึ่ง ... ที่หัวหน้าครอบครัวต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพียงแต่ว่ามันกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ ที่ต้องสาวไส้คนทำผิดจนถึงทุกวันนี้
เรื่องดังกล่าวเป็นเช่นไร ? ติดตามได้ที่นี่
ใครคือ ฮานนิค คัมบ้า ?
หากคุณลองพิมพ์ชื่อ ฮานนิค คัมบ้า (Hiannick Kamba) เพื่อหาข้อมูลในวิกิพีเดียหรือ Google คุณจะพบว่าข้อมูลสมัยเป็นนักเตะของเขาแทบไม่ปรากฏเลย ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาไม่ใช่นักเตะที่เก่งหรือโด่งดังอะไรมากมาย และไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพเลยแม้แต่นัดเดียว เรื่องราวการสืบสาวเกี่ยวกับตัวเขาจึงไม่ได้ทำกันง่าย ๆ
แม้ไม่ประสบความสำเร็จตอนโตบนเส้นทางลูกหนัง แต่ ฮานนิค คัมบ้า ก็เคยมีดีเหมือนกันในวัยเด็ก สมัยวัยรุ่น ดาวเตะเชื้อสาย คองโก เคยเป็นนักเตะเยาวชนของทีม ชาลเก้ 04 ในยุคเดียวกับ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารอันดับ 1 ของโลก ณ ปัจจุบัน โดย ค้มบ้า ลงเล่นในเกมระดับอายุไม่เกิน 19 ปี ในช่วงปี 2003 ถึง 2005 จากนั้นก็ไม่ปรากฏเรื่องราวของเขาอีกเลย
Photo : Insider
จากสถานการณ์ดังกล่าว พอจะคาดเดาได้ว่าเขาเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ถูกคัดทิ้ง เนื่องจากไม่ได้ตามสเป็คสำหรับทีมลีกสูงสุดอย่างที่ชาลเก้ต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางหลังจากนั้น เขาก็ต้องเดินหน้าหิ้วสตั๊ดคัดตัวกับทีมอื่น ๆ ที่ให้โอกาสนักเตะอย่างเขา ทว่าน่าเสียดายที่ข้อมูลระดับอาชีพของ คัมบ้า ไม่ปรากฎอีกเลย เพราะชื่อของเขาโผล่ไปอยู่ทีมในระดับนอกลีก โดยมีสโมสรที่ยืนยันถึงตัวตนของเขาได้ คือทีมที่ชื่อว่า เฟาเอฟเบ ฮัลส์ (VFB Huls) ซึ่งเป็นทีมระดับดิวิชั่น 8 ของประเทศเยอรมัน และเล่นในลีกท้องถิ่นของเมือง เกลเซ่นเคียร์เช่น ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของสโมสร ชาลเก้ ที่เขาเคยผ่านประสบการณ์มาก่อนนั่นเอง
มีการเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของเขาที่ต้องระหกระเหินเดินทางไปเรื่อยว่า เกิดจากการที่ครอบครัวของเขาอพยพจาก สาธารณรัฐคองโก เข้ามายัง เยอรมัน ในปี 1986 ซึ่งถูกตรวจสอบพบว่าเป็นการเข้ามาอย่างผิดกฎหมายในภายหลัง รัฐบาลเยอรมันจึงส่งตัวครอบครัวของเขาทั้งหมดกลับคองโก ไปในปี 2005 ยกเว้นเเต่ คัมบ้า คนเดียวเท่านั้นที่ได้อยู่ในเยอรมันต่อ เพราะเขาเป็นนักเตะในสังกัด ชาลเก้ 04 ซึ่งตราบใดที่เขายังเป็นสมาชิกของทีมอยู่ เขาจะสามารถอาศัยอยู่ในประเทศนี้ได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องหาสโมสรฟุตบอลเล่นเพื่อต่ออายุการอยู่ในประเทศนี้ และไม่ต้องกลับไปลำบากที่คองโกอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้เรื่องเริ่มเข้มข้นในบทบาทของคนสู้ชีวิตขึ้น
Photo : Sport Bild
แน่นอนว่าการเป็นนักเตะสมัครเล่นนั้นต้องทำควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการทำอาชีพหลัก เพราะคงไม่มีใครอยู่ได้จากเงินค่าจ้างที่จ่ายแบบแมตช์ต่อแมตช์แน่ โดยอาชีพของ คัมบ้า ที่เริ่มทำไปพร้อม ๆ กับการเล่นฟุตบอลลีกสมัครเล่น คือการเป็นพนักงานของบริษัทพลังงานแห่งหนึ่ง และสิ่งที่ปรากฏหลังจากนั้นเท่าที่มีข้อมูลออกมาคือ เขาเดินทางกลับประเทศคองโกในอีกหลายปีต่อมา โดยไม่มีการยืนยันว่า การกลับประเทศคองโกครั้งนี้ เกิดจากเหตุผลด้านเอกสาร หรือการตัดสินใจจากเจ้าตัวเอง
แต่ที่แน่ ๆ การกลับบ้านครั้งนั้นของเขา นำมาซึ่งเรื่องราวที่หักเหลี่ยมใช้ได้เลยทีเดียว ...
อยู่ดี ๆ ก็ไปคองโก
สาธารณรัฐคองโก นั้นถือเป็นประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว ในปี 2020 ที่ผ่านมามีการยืนยันว่า ประชากรชาวคองโกมีรายได้เฉลี่ยเพียงเดือนละ 2,025 บาทเท่านั้นเอง
เนื่องจากอาชีพที่มีให้เลือกไม่มากมายนัก 42.5% ของประชากรในประเทศ เป็นเกษตรกร อีก 13.1% เป็นคนงานทำแร่เหมือง ที่ขุดทุกแร่ที่ขวางหน้าทั้ง โคบอลท์ ทองแดง ปิโตรเลียม เพชร พลอย ทอง เงิน แมงกานีส ดีบุก ยูเรเนียม ถ่านหิน ซึ่งแรงงานเหล่านี้ไม่มีอายุขั้นต่ำ เพราะมีการใช้แรงงานเด็กอย่างโจ๋งครึ่ม
Photo : Fortune
เว็บไซต์อย่าง BBC บอกว่ามีเด็กในคองโกว่า 40,000 คน ที่ไม่มีโอกาสไปโรงเรียน และต้องมาขายแรงงานในเหมืองแทน โดยอายุต่ำสุดที่ทำเหมืองคือ 4 ขวบเท่านั้น ... เห็นได้ชัดว่าการที่ คัมบ้า กลับมายัง คองโก นั้นย่อมสร้างความสับสนพอสมควร เพราะเขาจะมาทำอะไรในประเทศที่คนในอยากออกขนาดนี้ ?
แหล่งข่าวเท่าที่หาได้ในโลกอินเตอร์เน็ต ณ ปัจจุบันไม่ได้ระบุไว้เลยว่า คัมบ้า มาที่นี่เพื่ออะไร จะไปทำงาน ก็ไม่น่าใช่ ? จะไปเพื่อหาครอบครัว ? ข้อนี้อาจจะพอเป็นไปได้บ้าง แต่ก็แปลกที่เขาไม่ได้พาภรรยาของเขามาเยี่ยมบ้านเกิดของตัวเองด้วย หนำซ้ำยังไม่มีการรายงานว่า พ่อและแม่ของเขาที่พรากกันมาตั้งแต่ปี 2005 ทำอะไรอยู่ที่ไหน ณ เวลานั้น
จะมาทำอะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะหลังจากที่ คัมบ้า มาถึง คองโก ได้ไม่ถึง 1 ปี ข่าวคราวของเขาก็เงียบหายไปอย่างน่าสงสัย และอีกไม่นานนักก็มีเอกสารการยืนยันว่า คัมบ้า เสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุรถชน ...
1
นี่น่าจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุด เพราะสำหรับปี 2016 เรื่องการติดต่อหาคน ทำได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ทำไมไม่มีใครติดต่อเขาได้เลย และที่น่าสนใจคือการยืนยันการเสียชีวิตของเขามีเพียงเอกสารเท่านั้น ไม่มีผลการชันสูตรพลิกศพ ไม่มีพิธีทางศาสนาจัดขึ้นสำหรับการตายของเขา
Photo : PurePeople
อย่างไรก็ตาม แค่เอกสารยืนยันการเสียชีวิตก็มากพอแล้วสำหรับทางกฎหมาย ดังนั้นชื่อของ คัมบ้า จึงถูกขึ้นทะเบียนมรณะ และได้รับการยอมรับว่า "เขาจากโลกนี้ไปแล้วจริง"
อ้าววววว ...
เอกสารยืนยันการเสียชีวิตของ คัมบ้า ถูกส่งตรงมาเยอรมัน และมันมากพอที่จะทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาจากไปแล้วจริง ๆ สโมสร ชาลเก้ 04 ได้ส่งข้อความเพื่อแสดงความเสียใจไปให้กับภรรยาของเขาสำหรับเหตุการณ์นี้
หนักที่สุดคือสโมสร เฟาเอฟเบ ฮัลส์ ที่ถือว่าสนิทสนมกันดีกับ ค้มบ้า นั้น ไม่ได้แค่ส่งจดหมายอย่างเดียว แต่พวกเขาโชว์สปิริตพร้อมจะจ่ายเงินในส่วนที่ คัมบ้า ได้ในแต่ละเดือน ๆ ให้กับครอบครัว เพื่อเป็นค่าดูแลในยามที่ไม่มีหัวหน้าครอบครัวแทน
"คัมบ้า เป็นตัวแทนของความคิดและคุณค่าของสโมสรของเราเหมือนกับคนอื่น ๆ การตายของเขาจะทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ภายในครอบครัวของเขา การจากไปของ ฮานนิค สร้างความขมขื่นให้กับทุกฝ่าย และถือว่าเป็นการสูญเสียของวงการกีฬาด้วย สำหรับเราเขาไม่ใช่แค่นักฟุตบอล แต่เขาคือเพื่อนคนหนึ่ง" แถลงการณ์จาก ฮัลส์ ว่าเช่นนั้น
Photo : Sport Bild
วันเวลาผ่านไปนานพอที่จะทำให้ทุกคนลืมความเศร้าหมองครั้งนั้น แต่แล้วสื่อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมันอย่าง Bild ก็ได้เจอกับใครบางคนเข้า ... แหล่งข่าวของพวกเขายืนยันว่าพบคน ๆ นึงที่คับคล้ายคับคลากับ ฮานนิค คัมบ้า ซึ่งสถานที่ที่พบเจอก็ไม่ใช่ที่ไหน เพราะมันคือบริษัทเดิมที่เขาทำงานนั่นเอง ... เขากลับมาทำงานเดิม เดินลอยหน้าลอยตาอย่างสบายใจ โดยไม่คิดว่าจะมีใครมาพบเขาเข้าในวันหนึ่ง
ชัดเลย ... Bild ลงข่าวหน้าหนึ่งทันทีในปี 2020 ที่ผ่านมาว่า "อดีตนักเตะชาลเก้ที่ตายไปแล้ว ... ยังมีชีวิตอยู่"
Bild อาจจะคิดว่านี่คือการค้นพบคน ๆ หนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนดีใจหากรู้ว่าเขายังไม่ตาย ... แต่เปล่าเลย การเจอตัวคัมบ้า คือจุดเริ่มต้นของการไขรหัสทั้งหมดของเรื่องที่ไร้ที่มาที่ไปเรื่องนี้
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นในปี 2016 เมื่อในระหว่างที่เขาเดินทางเข้าประเทศคองโก ซึ่งเป็นช่วงเวลากลางคืน เขากลับโดนเพื่อนของเขาทิ้งไว้กลางทาง โดยพวกเขาได้เอาทั้งเงิน โทรศัพท์ และเอกสารยืนยันตัวของเขาไปหมด
เขาพยายามแจ้งสถานทูตทันทีในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากเขาไม่มีเอกสารยืนยันตัว จึงทำให้ไม่มีใครเชื่อ ก่อนที่เขาจะตกเป็นข่าวจากรายงานของสื่อชื่อดังของเยอรมันในปี 2020
"ผมขับรถไปที่คองโกกับเพื่อนของผม จากนั้นพวกเขาก็ทิ้งผมกลางทาง เอาเงินและเอกสารทั้งหมดที่ผมมีไป" คัมบ้าว่าเช่นนั้น
Photo : BBC
"ผมพยายามจะกลับมายืนยันตัวเองกับสถานทูตเยอรมันในประเทศคองโกแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อผมเลยเพราะผมไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนที่ทำหายไป"
การปรากฏตัวอีกครั้งคัมบ้า ทำให้ตำรวจเข้ามาสืบสวนเรื่องไม่ชอบมาพากลนี้ และผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกก็คือภรรยาของเขาเอง เมื่อมีรายงานว่าเธอได้รับเงินประกันชีวิตเป็นจำนวน "หลายแสน" ยูโร หลังนำเอกสารยืนยันการเสียชีวิตของ คัมบ้า ที่ส่งมาจากสถานทูตคองโก ไปยื่นกับบริษัทประกัน
อย่างไรก็ดี เธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง เธอบอกว่า "ฉันไม่ได้ฉ้อโกง"
"ฉันตกใจตอนรู้ข่าวว่าเขาตายพอ ๆ กับพวกคุณนั่นแหละ ส่วนเรื่องประกันชีวิตฉันก็เพิ่งมารู้หลังเขาตาย ไม่ได้มีการวางแผนอะไรอย่างแน่นอน" เธอว่าเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเอกสารยืนยันการเสียชีวิตของ คัมบ้า ซึ่งว่ากันว่า "เป็นของแท้จากคองโก" ที่เกิดจากการติดสินบนและทุจริตในงานเอกสารที่ทำกันได้ง่ายในประเทศแถบแอฟริกา
ที่สุดแล้วความมันยังไม่จบแค่นั้น เมื่อ คัมบ้า ที่โดนกันตัวไว้เป็นพยาน ยิ่งโดนสอบปากคำก็ยิ่งพบกับช่องโหว่จากการให้การของเขาเต็มไปหมด
อย่างแรกคือเขาไม่สามารถยืนยันวันที่ในการเดินทางได้ อย่างที่สองคือเขาไม่สามารถระบุชื่อและยืนยันตัวตนของ "เพื่อนร่วมทาง" คนที่เขากล่าวอ้างว่าทิ้งเขากลางทางและเอาเอกสารเขาไปได้เลย ... ซึ่งทำให้คดีนี้มีกลิ่นความผิดปกติอย่างต่อเนื่อง
Photo : PurePeople
และความไม่ชัดเจนถึงพยานและหลักฐานในการกล่าวอ้างของเขา ทำให้ คัมบ้า ตกกระไดพลอยโจน ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคนที่รวมหัว "แกล้งตายเอาเงินประกัน" กับภรรยาของเขาแล้ว แต่ในการไต่สวนเบื้องต้นเขาบอกว่า "ผมไม่รู้เรื่อง"
ซึ่งเมื่อไม่มีใครยอมรับเลยสักคน ทำให้คดีดังกล่าวยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า เมียแสบ หรือ ร่วมมือกันแสบ ฉ้อโกงแกล้งตายเอาเงินประกันชีวิตกันแน่
ที่สุดแล้วการไต่สวนคดีดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา เป็นแค่เพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ขณะที่สำนักงานอัยการของ เกลเซ่นเคียร์เช่น ก็ต้องปวดหัวแบบสุด ๆ เพราะเอกสารที่ส่งมานั้นชัดเจนตรงกับเอกสารการทูตของคองโกทุกอย่าง ดังนั้นพวกเขาเชื่อว่ามันอาจจะเกิดจากการปลอมแปลงระดับเทพที่เนียนเกินคาด หรือไม่ก็เกิดจากการทุจริตในงานด้านเอกสารที่ถือว่าทำได้ง่ายในประเทศแถบแอฟริกา
เรื่องราวการ คงอยู่ หายไป เสียชีวิต และ พบว่ายังมีชีวิตอยู่ของ คัมบ้า เต็มไปด้วยเรื่องน่าสงสัยมากมาย แทบไม่มีอะไรชัดเจนเลยสักอย่าง ดังนั้นการไล่จับโจรที่แท้จริงจะต้องใช้การพิสูจน์หลักฐานและสอบสวนกันอีกยาว เพื่อพิสูจน์ว่าสุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา ...
จากตาย เป็นฟื้นคืนชีพแบบงง ๆ ... แล้วคุณล่ะคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากฝีมือของใครกันแน่ ?
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา