3 เม.ย. 2021 เวลา 02:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมาเงินฝากของสถาบันการเงินที่ฝากไว้กับ Fed เพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านเหรียญ โดย 333,000 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนแตะระดับ 3.6 ล้่านล้านเหรียญ นี่คือสิ่งที่บันทึกเป็นหนี้สินของ Fed ซึ่งสถาบันการเงินจะได้อัตราดอกเบี้ย 0.1% จาก Fed
หนึ่งปีที่ผ่านมา หนี้รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านล้านเหรียญ มาที่ 27.9 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเป็นจะใช้เป็นเงินทุนสำหรับงบขาดดุลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ยังไม่ได้ใช้ทั้งหมด 4.4 ล้านล้านเหรียญ
เงินบางส่วนอยู่ในบัญชีเงินฝากของกระทรวงการคลังซึ่งฝากไว้กับ Fed สาขานิวยอร์ค ที่เรียกว่า “Treasury General Account” (TGA) ซึ่งก็เพิ่มขึ้นจาก 400,000 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2020 มาที่ 1.79 ล้านล้านเหรียญ
จากนี้ไปภาครัฐตัดสินใจลดขนาดลงมาให้เหลือ 500,000 ล้านเหรียญ ดังนั้นเงินจำนวน 1.1 ล้านล้านเหรียญ จะถูกใช้ออกมา ในอีกมุมหนึ่งก็จะช่วยให้รัฐบาลลดการออกพันธบัตรใหม่ และตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินจำนวนนี้ลดลงมา 266 ล้านเหรียญ
การตัดสินใจเช่นนี้สมเหตุสมผลเนื่องจากรัฐไม่ต้องการให้มีสภาพคล่องอยู่เฉยๆ แล้วก็ต้องออกพันธบัตรใหม่เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย
1
ผลก็คือหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่ลดลงอย่างชัดเจน แต่ก็คงเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว
โดยเงินที่ลดลงไปถูกนำไปจ่ายเช็คในมาตรการกระตุ้น ซึ่งถูกโอนไปยังธนาคารพาณิชย์ และธนาคารพาณิชย์ก็นำไปฝากไว้กับ Fed พูดง่ายๆ ก็คือยย้ายเงินที่ Fed รับฝากจากรัฐบาล ไปเป็นเงินที่ Fed รับฝากจากธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้การเพิ่มสภาพคล่องโดย Fed เริ่มสร้างผลกระทบทางอ้อมต่อตลาด Repo ทำให้ Repo rate ลดลงจนต่ำกว่า 0% สวนทางเมื่อปี 2019 ที่ Repo rate พุ่งสูงจน Fed ต้องเข้ามาเพิ่มสภาพคล่อง
การที่ Repo rate ลดลง มีบางแหล่งข่าวบอกว่าเกิดจากนักลงทุนต้องการพันธบัตรเพื่อนำไป short ในช่วงที่ bond yield ปรับตัวขึ้น
สิ่งที่ต้องติดตามกัน คือเมื่อไรเงินที่อยู่ในบัญชีของธนาคารพาณิชย์จะถูกเบิกออกมาใช้ ซึ่งติดตามได้จากลิ้งค์นี้ กดเลือก Selected Liabilities of the Federal Reserve
โฆษณา