2 เม.ย. 2021 เวลา 23:18
การประชุมสองสภา ปิดฉากลงอย่างสวยหรู (จบ)
การประชุมสองสภา ปิดฉากลงอย่างสวยหรู (จบ) : คอลัมน์ มังกรกระพือปีก โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ ที่อยู่ในกระแสของจีน มาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน
จีนจะเดินหน้าการพัฒนาด้านเกษตรกรรมและพื้นที่ในชนบท และการสร้างความมีชีวิตชีวาที่ก้าวหน้าอย่างเต็มที่ในพื้นที่ชนบท ซึ่งรวมถึงการปฏิรูประบบการถือครองสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
นอกจากนี้ จีนยังจะยกระดับการพัฒนาระหว่างชุมชนเมืองกับชนบท และแต่ละภูมิภาคให้สมดุลกันมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาชุมชนเมืองประเภทใหม่
จีนจะเปิดกว้างในการเข้าถึงบริการสาธารณะพื้นฐาน โดยจะร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกเพื่อติดตามค้นหาแหล่งกำเนิดของโควิด-19 อยู่ต่อไป
การศึกษาภาคประชาชนจะได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายสถาบันการศึกษาระดับปริญญาที่มีคุณภาพเข้าสู่พื้นที่ตอนกลางและซีกตะวันตก ควบคู่ไปกับการปรับปรุงระบบประกันสุขภาพและระบบสุขภาพที่เหมาะสมกับภาคประชาชนในวงกว้างยิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่มจำนวนแพทย์ชนบท และเงินอุดหนุนต่อหัวด้านสุขอนามัยในพื้นที่ชนบท
ในตอนท้ายของการรายงาน หลี่ เค่อเฉียง กล่าวไว้ว่า “บ้านเรือนเอาไว้พำนักอาศัย ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไร” ดังนั้น เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่ผู้ด้อยโอกาส รัฐบาลจีนก็สร้างที่อยู่อาศัยพร้อมสัญญาเช่าระยะยาวแก่ผู้คนในชนบท พูดจบท่อนนี้ก็ตามด้วยเสียงปรบมืออันดังตามมา
ในด้านการทหารและความมั่นคง รัฐบาลจัดสรรงบกลาโหมเพิ่มขึ้นเป็น 1.35 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.8% ของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 6.6% ซึ่งเท่ากับว่า งบการทหารของจีนจะเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำกว่า 7% เป็นปีที่สองติดต่อกัน แต่ก็ขยายตัวกว่า 1 เท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน จีนจะยังคงยึดหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” โดยรักษาการเติบโตและความมั่นคงของฮ่องกงและมาเก๊าเพื่อเสถียรภาพในระยะยาว โดยในวันสุดท้ายของการประชุม สภาจีนยังได้ให้ความเห็นชอบกับระบบการเลือกตั้งในฮ่องกงใหม่ที่มุ่งปรับปรุงระบบกฎหมายพื้นฐาน เพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลฮ่องกง ปกป้องและรักษาสิทธิ์ในการเลือกตั้งของผู้มีถิ่นพำนักถาวรในฮ่องกง เป็นต้น
นั่นหมายความว่า จีนยังคงจะให้ความสำคัญกับการดำรงอยู่ของฮ่องกง และใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ต่อไป ดังนั้น กระแสข่าวลือที่ว่าจีนจะทิ้งฮ่องกงจึงไม่ใช่ความจริงตามคลิปข่าวที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้
แต่ประเด็นที่อ่อนไหวยิ่งกว่าก็คือ แผน 14 กำหนดว่า จีนจะยังคงผลักดันการเปิดรับเอาไต้หวันกลับคืนสู่มาตุภูมิ และการพัฒนาความสงบข้ามช่องแคบไต้หวัน ซึ่งอาจกลายเป็นแนวปะทะของมหาอำนาจทางการทหารของโลกก็เป็นได้
ดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา การประชุมใหญ่ประจำปีปิดท้ายด้วยการบรรเลงเพลงชาติจีน
ทันทีที่เพลงชาติจีนดังขึ้น ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนก็ลุกขึ้นยืนตรงเคารพธงชาติจีน และพร้อมใจกันร้องเพลงชาติจีน
ผมสังเกตว่า หน้ากากอนามัยสีฟ้าอ่อนที่ผู้แทนประชาชนสวมใส่อยู่ ไม่อาจหยุดความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเปล่งเสียงร้องเพลงชาติจีนของผู้บริหารและผู้แทนประชาชนจีนได้ ฤ เราจะต้องเริ่มเชิญธงและเพลงชาติไทยก่อนและหลังการประชุมรัฐสภาของเรา เผื่อหลายสิ่งจะดีขึ้นบ้าง!
หลังการประชุม หลี่ เค่อเฉียง ได้เป็นประธานการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนผ่านวิดีโอลิ้งค์ แม้ว่าคำถามดูจะมีความหลากหลาย แต่ก็ไม่มีคำถามหรือคำตอบใดที่สร้างความหวือหวา ซึ่งก็ถือเป็นธรรมชาติของการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของจีน สื่อมวลชนต่างชาติมุ่งความสนใจไปที่ในประเด็นการปรับระบบการเลือกตั้งของฮ่องกง และการเรียกร้องการพัฒนาความร่วมมือระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยกใหม่
แผน 14 และวิสัยทัศน์ 2035 ของจีนได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะเติบโตในอัตราที่สูงกว่าตัวเลขเป้าหมายอย่างแน่นอน และหากดูสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่คาดว่าจะคลี่คลายลงในช่วงครึ่งหลังของปี เศรษฐกิจจีนก็อาจขยายตัวพุ่งขึ้นเฉียด 10% ก็เป็นได้
สำหรับเป้าหมายในระยะกลาง ณ ระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 5% ต่อปีในระหว่างปี 2021-2025 เมื่อสิ้นสุดแผน 14 จีนจะมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 12,700 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนั่นเท่ากับว่า จีนจะก้าวเข้าสู่แผน 14 ด้วยการเป็นประเทศกำลังพัฒนา และก้าวออกจากแผน 14 ในฐานะประเทศที่มีรายได้สูง
แต่หากเรามองภาพการพัฒนาในระยะยาวตามวิสัยทัศน์ 2035 และประเมินว่า เศรษฐกิจจีนในระหว่างปี 2026-2035 จะขยายตัวเฉลี่ยปีละ 4% จีดีพีจีนก็จะเพิ่มขึ้นอีกปีละ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 15 ปีข้างหน้า ซึ่งเท่ากับว่า ขนาดเศรษฐกิจจีน ณ สิ้นปี 2035 ก็จะมีมูลค่าราว 30 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นอีกราว 1 เท่าตัวของจีดีพีจีนในปัจจุบัน
ดูเหมือนจีนกำลังจะเริ่มเดินทางไกลสู่ยุคของการ “กินดีอยู่สบาย” กันแล้ว ...
หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,667 วันที่ 4-7 เมษายน พ.ศ. 2564
โฆษณา