ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดวาระที่จะทดสอบ
การใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดย
ธนาคารแห่งประเทศไทย ประมาณกลางปี 2022
ซึ่งหากย้อนไปเมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม
ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาประกาศว่า
เงินบาทดิจิทัล (THT) - Stablecoin ที่ออกโดย Terra นั้น
ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย หรือ เรียกว่าผิดกฏหมายนั่นแล่ะ ซึ่งก็อ้างอิงกฏหมายที่ห้ามไม่ให้หน่วยงานอื่นใด
นอกจากธนาคารแห่งประเทศไทยออกสกุลเงินในไทยนั่นเอง
และจากข่าวที่ทาง ธปท. ได้ออกมาประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่
2 เมษายน 2564 โดยได้เปิดเผยแนวทางการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางสำหรับการใช้งานในภาคประชาชน (Retail Central Bank Digital Currency: Retail CBDC) และการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน
ซึ่ง Retail CBDC เป็นเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ซึ่งเปรียบได้กับธนบัตรที่ออกโดยธนาคารกลาง โดย Retail CBDC สามารถนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินได้ทั้งในแบบออนไลน์ (On-line) และออฟไลน์
Road Map การพัฒนา CBDC credit : จากธนาคารแห่งประเทศไทย
โดย การพัฒนา Retail CBDC มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมถึงสามารถใช้บริการทางการเงินได้สะดวกและปลอดภัยขึ้น รวมทั้งรองรับที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในภาคการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในระบบการเงิน ตลอดจนช่วยส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่จะทำให้เกิดบริการทางการเงินที่หลากหลายในอนาคต
ซึ่งผมเองก็คิดว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศเราไม่ควรนิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ เพราะยิ่งขยับช้า โอกาสในการเข้าสู่การแข่งขันทั้งทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีก็จะยิ่งช้าลงไปอีกมาก
ทั้งนี้ทาง ธปท. ได้เผยแพร่เอกสารรายละเอียดทั้งแนวคิดและแผนพัฒนา Retail CBDC นี้ให้ประชาชน หน่วยงานรัฐ และภาคเอกชนได้รับทราบจาก Link
ตลอดจนได้เปิดให้ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านหลายช่องทางดังต่อไปนี้
Email : DigitalCurrencyTeam@bot.or.th
Credit : เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดูท่าแล้วเราคงจะได้ใช้เงินบาทโดยเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ตลอดจน การ Disruption ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปคงจะต้องมีการปรับตัวกันยกใหญ่กันอีกแน่นอนเลยทีเดียวครับ
เรียบเรียงโดย
ปั้นเงินออม
4 เมษายน 2564
- 67
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
