9 เม.ย. 2021 เวลา 04:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จัดพอร์ตแบบระมัดระวังในช่วงสั้น ลงทุนระยะยาวไม่น่ากังวล
ธีมเปิดเมือง หุ้นคุณค่า (Value Stock) และหุ้นเติบโต (Growth Stock) มีการพูดถึงสามประเด็นนี้เยอะมาก ทำไมต้องมาพูดกันในช่วงนี้ และเกี่ยวข้องอย่างไรกับการลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบัน และธีมเปิดเมืองมีผลอย่างไรกับหุ้นสองกลุ่มนี้ สามารถอธิบายได้ง่ายๆ ตามนี้ครับ
หุ้นกลุ่มเติบโต คือกลุ่มที่ได้ประโยชน์ หรือไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มได้รับความสนใจน้อยลง เพราะพัฒนาการของวัคซีนต้านโควิด-19 เมื่อเราพร้อมจะเปิดเมือง
หุ้นกลุ่มวัฏจักร (Cyclical Stock) ซึ่งอยู่ในกลุ่มของหุ้นคุณค่า ก็เริ่มดูดีมีคุณค่าน่าลงทุน ได้ประโยชน์เต็มๆ จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีออกมากันทุกประเทศแบบล้นหลาม แต่หุ้นกลุ่มนี้มีประโยชน์กับเราตรงไหน มีประโยชน์ก็ตรงที่ตลาดหุ้นแถบเอเชียไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศไทย ต่างก็อุดมไปด้วยหุ้นคุณค่าเหล่านี้ ที่เป็นเป้าของการลงทุนในรอบนี้เลยครับ
นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมมีเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศแถบเอเชียอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนกลุ่มหุ้นเติบโตที่ได้ประโยชน์หรือไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดรอบแรกของโควิด-19 ต่างก็ปรับตัวสูงขึ้นจนผลการดำเนินงานอาจจะวิ่งตามไม่ทัน ทำให้เกิดการขายทำกำไรและปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว แต่ถ้ามองยาวๆ รอจนผลการดำเนินงานวิ่งทัน หรือราคาของหุ้นคุณค่าขึ้นมาทัน ยามนั้นเราก็อาจจะกลับมาดูกันใหม่ โดยมองไว้ว่าหลังกลางปีเราจะกลับมามองหุ้นกลุ่มนี้กันใหม่นะครับ เพราะอย่างไรก็ตามกระแสของเทคโนโลยีก็ยังเป็นกระแสหลักของโลกยุคนี้อยู่ดี
อีกปัจจัยที่ต้องพูดถึงคือ ผลกระทบที่มาจากพัฒนาการของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ของสหรัฐอเมริกา มีทั้งแผนเยียวยา แผนกระตุ้น และแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละแผนมีขนาดการลงทุนขนาดใหญ่ ส่งผลทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และมาเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ ร้อยละ 1.70 ด้วย การปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้มาจากการสะท้อนภาพความกังวลที่มาจากการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต และได้สร้างความกังวลต่อตลาดหุ้น และทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงเป็นช่วงๆ
แต่การสะท้อนภาพดังกล่าวอาจจะเป็นการมองเพียงด้านเดียว อัตราเงินเฟ้อที่มาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจถือเป็นประโยชน์มากกว่าโทษ ทำให้เกิดแรงซื้อหุ้นกลับโดยเน้นไปยังหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตร และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หนุนให้ตลาดหุ้นไม่ปรับตัวลงมากนัก อันเนื่องมาจากการเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี
ที่พูดถึงต่างประเทศเยอะนั้นไม่ได้หมายความว่าผมสนใจการลงทุนในต่างประเทศมากเป็นพิเศษ แต่แค่จะสื่อสารว่า การลงทุนตอนนี้ทั้งโลกโดยเฉพาะประเทศแถบเอเชียและประเทศไทยมีทิศทางการลงทุนที่สอดคล้องเหมือนกัน และกระแสการลงทุน ณ ตอนนี้ให้ประโยชน์กับประเทศกลุ่มเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ไทย เวียดนาม และญี่ปุ่น ต่างก็ได้ประโยชน์ เพราะมีหุ้นกลุ่มวัฏจักรหรือหุ้นคุณค่าในสัดส่วนที่สูงกว่าหุ้นเติบโต
ภาพการลงทุนในระยะกลางถึงยาวไม่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะตลาดแถบเอเชียและประเทศไทย แต่ในระยะสั้นก็ต้องยอมรับว่าประเทศไทยต้องประสบกับภาวะการระบาดรอบที่สาม ซึ่งถ้ามองกันตามเนื้อผ้าก็ไม่ต่างอะไรกับประเทศในแถบยุโรปแต่อัตราการกระจายตัวและอัตราการสูญเสียอยู่ในระดับต่ำกว่ามากก็อย่าวิตกกันมากไป เฝ้าระวังกันไว้ก่อนจะดีกว่า
คำแนะนำในการกระจายสินทรัพย์เพื่อการลงทุนในรอบนี้ ก็อยู่ในโหมดระมัดระวังนะครับ โดยจัดน้ำหนักให้ 50% ของพอร์ตเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น และตลาดเงิน ส่วนที่เหลือขอเป็นหุ้นไทยประมาณ 20% เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 6-8% จะเห็นได้ว่าเป็นการจัดพอร์ตที่ลดความผันผวนของภาวะการลงทุนโดยรวม แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับผลตอบแทนโดยให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นแถบเอเชียโดยเฉพาะประเทศไทย
เรื่อง: มณฑล จุนชยะ
โฆษณา