11 เม.ย. 2021 เวลา 13:36
เมื่อ Good Night กลายเป็น Bad Night
เช็กสัญญาณอาการ ‘นอนแย่’ ใครเป็นรีบแก้ด่วน!
.
.
ตื่นเช้ามาไม่เคยสดชื่น รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวขาลงจากเตียง กาแฟ 2 แก้วแล้วก็ยังง่วงไม่หาย ถ้าอยู่ห้องเป็นต้องนอนทั้งวัน ส่วนถ้าอยู่ที่ทำงานก็แอบงีบทุกที แถมอารมณ์ยังไม่ค่อยดี เห็นอะไรก็ขัดใจไปหมด!
.
ถ้าคุณมีอาการประมาณนี้ นี่อาจเป็นผลลัพธ์มาจากการ “นอนแย่” ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณควรรีบแก้ไขด่วน ก่อนจะต้องต้อนรับโรคนอนไม่หลับ และนั่นคือหายนะที่จะตามมาของโรคภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ -- ลองเช็กดูว่าคุณมี 7 สัญญาณต่อไปนี้หรือไม่
.
#คุณใช้เวลาเกิน30นาทีกว่าจะหลับ
2
ถ้าบางคืนคุณใช้เวลาในการพลิกไปพลิกมา และฟังเสียงในหัวคุยกัน ทั้งๆ ที่รู้สึกง่วง แต่ก็ยังนอนไม่หลับ จนเวลาไปผ่านเกินครึ่งชั่วโมง ล่วงไปถึงชั่วโมงครึ่ง หรือหนักเข้าก็คือตีสาม! นี่คือสัญญาณร้ายที่บอกว่าคุณใกล้จะเป็นโรคนอนไม่หลับเต็มทีแล้ว
.
สาเหตุสำคัญอาจมาจากการนอนและตื่นไม่เป็นเวลา เช่น คืนนี้นอนห้าทุ่ม แต่คืนก่อนนอนตีหนึ่ง พอเช้ามาก็ตื่นหกโมงบ้าง เที่ยงบ้าง พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายไม่มี ‘กิจวัตรการนอน’ ที่ดี และไม่สามารถตั้งเวลาปิดสวิตช์เพื่อรีบูสต์ตัวเองได้ จนส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับอย่างที่เป็นอยู่
.
#คุณหลับไม่ได้ถ้าไม่ใช้โทรศัพท์
คนส่วนใหญ่มักหลับไปพร้อมโทรศัพท์ในมือ ทั้งเปิดเพลงฟัง เปิดหนังดู เช็กโซเชียลมีเดียต่างๆ จนเผลอหลับไป นั่นแสดงว่า คนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้จ้องหน้าจอมือถือจนถึงนาทีสุดท้ายที่หลับตา ถ้าใครทำแบบนี้บ่อยๆ จะรู้สึกว่านอนหลับไม่เต็มอิ่ม ลืมตาแล้วก็อยากนอนต่ออีกหน่อย
.
นั่นเป็นเพราะคุณได้รับแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์สมาร์ทโฟนมากเกินไป โดยแสงสีฟ้ามีผลในการยับยั้งเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ ยังไงคืนนี้ลองห่างจากมือถือสัก 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน จะช่วยให้คุณนอนหลับอย่างเต็มอิ่มมากขึ้น
.
#คุณฝันถึงงานที่ทำอยู่บ่อยๆ
ใครที่ชอบฝันถึงงานที่ทำ ประเภทเขียนโค้ดแล้วพัง ทำบัญชีพลาด โดนลูกค้าคอมเพลน หรือเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่เสมือนว่าคุณกำลังทำงานอยู่ นี่คือสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณอินกับงานมากเกิน จนไม่สามารถหยุดคิดถึงมันได้ เพราะเมื่อสมองคุณกำลังพัวพันกับงานอย่างหนักหน่วง มันจึงไม่สามารถหยุดคิดเรื่องงานได้ทันทีทันใด ถึงแม้ว่าคุณจะออกจากออฟฟิศไปแล้ว สมองก็ยังนำมันมาประมวลผลในช่วงนอนหลับอยู่ดี ซึ่งอาจทำให้คุณฝันถึงงาน และรู้สึกเหมือนทำงานในฝันต่ออีกที
.
ถ้าเป็นแบบนี้ เมื่อคุณกลับมาถึงบ้านแล้ว (หรือปิดคอมพิวเตอร์แล้ว กรณีคุณ Work from Home) ให้คุณเปลี่ยนกิจกรรมมาทำอะไรที่ผ่อนคลายขึ้น อย่างการออกกำลังกายตอนเย็น ทำอาหาร พูดคุยกับคนรัก หรือหาหนังดูสักเรื่อง ให้สมองได้รีแลกซ์ก่อนเข้านอน
.
#คุณฝันร้ายและเหนื่อยทุกครั้งที่ตื่น
ว่ากันว่า ความฝันคือผลลัพธ์ของกิจกรรมของสมอง ที่ประมวลผลจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตคุณ และตีความออกมาในรูปแบบของความฝัน และในทางวิทยาศาสตร์ฝันร้ายก็คือผลของอาการซึมเศร้าและความเครียดของคุณเอง หรืออาจมาจากการเผชิญเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นหนัก ซึ่งเรียกอะดีนาลีนให้หลั่งเยอะเกินไป
.
หนทางที่พอแก้ไขได้ก็คือ อย่าพาตัวเองไปเผชิญกับเหตุการณ์ที่ชวนใจสั่น อย่างการดูหนังสยองขวัญ หรือออกกำลังกายดึกเกิน จากนั้นให้จัดการกับอุณหภูมิห้องให้พอเหมาะ ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป และพยายามผ่อนคลายความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของฝันร้ายด้วย
.
#คุณหลับๆตื่นๆตลอดคืน
หากการนอนของคุณไม่ราบรื่น แบบที่มีการสะดุ้งตื่น และกลับไปหลับยาก อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งรบกวนทั้งภายในและภายนอก สิ่งรบกวนภายใน เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่คุณกิน อย่างแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีน รวมถึงปริมาณอาหารที่มากเกินพอดี ส่วนปัจจัยภายนอก เช่น เสียงรบกวน หรือแสงสว่าง
.
ลองปรับพฤติกรรมการกิน โดยหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีนในช่วงเย็น รวมถึงจัดการให้ห้องมืดสนิท ปิดประตูและหน้าต่างกันเสียงรบกวน หรือใช้ที่ปิดตาและอุดหู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนอนให้ดียิ่งขึ้น
.
#คุณรู้สึกขี้เกียจและไม่มีสมาธิ
นอกจากการตื่นมาอย่างง่วงงุนแล้ว ความรู้สึกเซื่องซึมระหว่างวัน ขี้เกียจ ไม่ค่อยอยากขยับตัว หรือกระทั่งหยิบงานที่จำเป็นต้องทำมาจัดการ รวมถึงการไม่มีสมาธิ ทำอะไรก็อดทนได้ไม่นาน ก็เป็นผลสะท้อนจากการนอนไม่ดีเช่นกัน
.
เพราะเมื่อคุณนอนหลับแต่ไม่ได้คุณภาพ ก็เท่ากับคุณไม่ได้พักผ่อนอย่างที่ควร สมองไม่ได้พัก และส่งผลให้ร่างกายพังไปด้วย ถ้าเมื่อไรเริ่มรู้สึกเช่นนี้ ก็อย่าละเลยเรื่องการพักผ่อนเด็ดขาด
.
#คุณอารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
คุณอาจรู้สึกว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยาก เจอใครหรืออะไรรบกวนนิดหน่อยก็รู้สึกหงุดหงิด คุยงานอยู่ดีๆ ก็ถอนหายใจใส่คนอื่น ถ้าคุณอารมณ์แปรปรวนง่ายแบบนี้ อาจเป็นเพราะการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลต่ออารมณ์ของคุณโดยตรง
.
สัญญาณทางอารมณ์บ่งบอกว่าคุณต้องปรับพฤติกรรมการนอนโดยด่วนด้วยวิธีการข้างต้น แต่ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้น อาจต้องมีการพบจิตแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุและรักษาอย่างจริงจังต่อไป
.
.
แปลและเรียบเรียงจาก:
โฆษณา