12 เม.ย. 2021 เวลา 16:28 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ดีที่ดูเทรลเลอร์ซอบก (서복) ก่อนจะดูตัวหนังเต็ม ทำให้เราคาดการณ์ได้ก่อนว่า หนังจะค่อนไปทางปรัชญาชีวิต และไม่คาดหวังว่ามันจะเป็นหนังแอ็คชั่น
Seo Bok คือชื่อของมนุษย์โคลนร่างแรกของมนุษยชาติในเรื่องนี้ รับบทโดย พัคโบกอม (Park Bo-Gum แฟนหนุ่มแห่งชาติ จาก Reply 1988) ส่วน กงยู (Gong Yoo สามีแห่งชาติ จาก Train to Busan) รับบทเป็น Min Ki Heon บอดี้การ์ดที่คอยดูแล Seo Bok แลกกับการเป็นหนูทดลองในการใช้เทคโนโลยีใน DNA ของมนุษย์โคลนนิ่งมารักษาโรคมะเร็งสมองของเขา
1
“คำว่าตลอดกาลน่ะ มันแปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด”
หนังมีความยาว 114 นาที 15 วินาที (เกือบ 2 ชั่วโมง) ฉากแอ็คชั่นมีเป็นช่วง ๆ โดยแต่ละช่วงก็ไม่ยิงยาวอะไร เพราะน้อง Seo Bok จะใช้พลังโกงหรือพลังจิตใส่ฝ่ายที่จ้องทำลายน้องตู้มสองตู้มจบ เหมือนน้อง 11 ใน Stranger Things ส่วนใหญ่หนังจึงไปเน้นทางปรัชญาชีวิตมากกว่า เพราะทั้งชีวิต Seo Bok เกิดและโตในห้องแล็บ เพิ่งได้มาสัมผัสชีวิตและเจอโลกภายนอกเป็นครั้งแรก ช่วงนี้หนังก็จะย้วย ๆ หน่อย แต่หนังขายความน่ารักใสใสของพัคโบกอมและความพี่เลี้ยงของโอปป้ากงยู
ในขณะที่ Min Ki Heon ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มาจนใกล้เข้าวัยกลางคน อีกทั้งยังเป็นโรคร้ายที่ทำให้เหลือเวลาอยู่บนโลกนี้น้อยลงเต็มที การเดินทางบนโลกภายนอกของ Seo Bok เหมือนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น แถมเขายังมีชีวิตเป็นอมตะด้วยอีก เราในฐานะคนดูและ Min Ki Heon จะได้ร่วมเดินช้าลง หยุดมองข้างทางมากขึ้น และ appreciate กับความสวยงามในชีวิตอีกครั้งผ่านตัวละครมนุษย์โคลนนิ่งคนนี้
แต่ไม่ว่าโลกจะสวยงามมากน้อยเพียงไร สิ่งที่ทำให้คนอยากมีชีวิตอยู่ต่อกลับเป็น “เป้าหมาย” ที่ผลักดันให้คนเรายังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ากับโลกใบนี้หรือกับใครสักคนบนโลก รวมถึงได้เลือกทางเดินของตัวเองด้วยตัวเอง เช่น Dr. Im Se-Eun (Jang Young-Nam จาก It’s Okay to Not Be Okay) ที่อยากเป็นหมอและเลือกเป็นหมอเองได้ หรือพวกเราเองที่ตัดสินใจเองได้ว่า พรุ่งนี้เราจะไปไหนหรือทำอะไรดี แต่ Seo Bok กลับเลือกเป็นหรือเลือกทำอะไรเองไม่ได้เลย นอกจากใช้ชีวิตเดิม ๆ ในห้องแล็บ และพอได้ออกมาข้างนอก เขาก็ไม่มีที่อื่นให้ไป เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะไปไหนดี
Min Ki Heon เหมือนจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่ปฏิบัติต่อ Seo Bok เสมือน Seo Bok เป็นมนุษย์จริง ๆ ในขณะที่คนอื่นมองว่าเขาเป็นเพียงสัตว์ทดลองตัวหนึ่ง เพราะเขามีรหัสพันธุกรรมไม่เหมือนคน อัตราการเติบโตไม่เหมือนคน ฯลฯ ซึ่งอันนี้ก็อยู่ที่หลักเกณฑ์ว่าเราจะเอาอะไรมาวัดความเป็นคน อย่างสำหรับเรา เราคิดว่า Seo Bok ยังมีความเป็นมนุษย์มากกว่าคนที่สร้างเขามาเสียอีกด้วยซ้ำ
เราต่างมองว่าความตายเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะเราต่างยังอยากมีชีวิตอยู่ ยิ่งพอรู้ตัวว่าตัวเองใกล้ตายก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า ทุกคนเกิดมา ไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องตายอยู่ดี มนุษย์บางคนจึงอยากเป็นอมตะหรือพยายามหาหนทางเอาชนะความตาย แต่สำหรับ Seo Bok ก็คือ การเป็นอมตะก็ทำให้เขารู้สึกแย่ไม่ต่างกัน และคำถามที่น่าสนใจของ Seo Bok ก็คือ ทำไมเราจึงคู่ควรที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้
หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องความบันเทิงให้กับเรามากมายนัก แต่หนังได้โยนคำถามให้เราหยุดคิดมากมาย จนถึงตอนนี้ เราก็ยังคงนั่งคิดถึงคำถามนั้นวนไป… ชีวิตคืออะไร เราเกิดมาทำไม เรามีประโยชน์หรือโทษอันใดให้กับโลกใบนี้ เรายังมีความสำคัญกับชีวิตคนอื่นหรือคู่ควรกับโลกใบนี้อยู่หรือไม่ หรืออยากลองมีชีวิตอมตะเหมือนซอบกมั้ย ฯลฯ คำตอบของเรามันอาจจะไม่สำคัญก็ได้ แต่เราว่ามันก็สำคัญเหมือนกันที่เราจะตั้งคำถามอะไรแบบนี้กับตัวเองบ้าง เพื่อไม่หลงลืมความเป็นมนุษย์ในตัวเอง
Seo Bok ฉายรอบพิเศษ (รอบหลัง 15:00 น.) ตั้งแต่ 12 เม.ย. 2021 เป็นต้นไป และฉายรอบปกติ ตั้งแต่ 15 เม.ย. 2021 เป็นต้นไป
อ่านรีวิว https://www.kwanmanie.com/review-seo-bok/
=====
ช่องทางการติดต่อ Kwanmanie >>>
LINE: @kwanmanie
โฆษณา