14 เม.ย. 2021 เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้นสินค้าไอทีเด้งรับโควิด-19 ลุ้นยอดขายพุ่ง
"หุ้นสินค้าไอที" ราคาขยับยกแผง "คอมเซเว่น“ บวกสูงสุด 4.69% รับโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ หนุนกระแส “เวิร์คฟรอมโฮม” ดันยอดขายเติบโต “บล.กสิกรไทย” แนะนำซื้อเก็งกำไร เตือนอัพไซด์น้อย-ความต้องการซื้อสินค้าไอทีชิ้นใหม่ยังต่ำ “เอเซีย พลัส” ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไร
2
หุ้นสินค้าไอทีเด้งรับโควิด-19 ลุ้นยอดขายพุ่ง
รายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ “กลุ่มสินค้าไอที” ปรับขึ้นร้อนแรง หลังมีข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 1-8 เม.ย.2564) นำโดย บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ปรับขึ้น 3 บาท หรือปรับขึ้น 4.69% มาอยู่ที่ 67 บาทต่อหุ้น, บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) ปรับขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.10% มาอยู่ที่ 24.30 บาทต่อหุ้น และ บมจ.ไอที ซิตี้ (IT) ปรับขึ้น 0.04 บาท หรือปรับขึ้น 1.30% มาอยู่ที่ 3.12 บาทต่อหุ้น
2
นางสาวหมิ่นหลิง หวัง นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 รอบล่าสุด ส่งผลให้ราคาหุ้นสินค้าไอทีปรับขึ้นร้อนแรง เพราะนักลงทุนคาดหวังกำไรสุทธิจะได้รับปัจจัยหนุนจากการกลับมาทำงานจากบ้าน (Work from Home) อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนหุ้นในกลุ่มสินค้าไอที เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นเกิดราคาเหมาะสมที่ฝ่ายวิจัยประเมินเอาไว้แล้ว และคาดว่าในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาจะยังไม่มีความต้องการซื้อสินค้าใหม่เร็วๆ นี้
1
“ราคามีโอกาสปรับขึ้น (อัพไซด์) น้อยมากแล้ว เราจึงไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่มเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่สามารถซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากกระแสข่าวได้ ส่วนคนที่มีหุ้น แนะนำให้ถือต่อ เพราะภาพรวมกำไรไตรมาส 1 ปี 2564 น่าจะออกมาดีทั้งเทียบไตรมาสก่อน และ เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลบวกยอดขายไอโฟน 12” นางสาวหมิ่นหลิง กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 เบื้องต้นคาดว่าจะลดลงจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ หรือไม่มีสินค้าใหม่ๆ เปิดตัว รวมถึงคาดว่าความต้องการซื้อสินค้าไอทีจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่คนซื้อของเตรียม Work from Home แต่ทั้งปี 64 คาดกำไรกลุ่มจะยังเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ 5G และการให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service)
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ SYNEX ปี 2564 มาอยู่ที่ 745 ล้านบาท เติบโต 26% จากปีก่อน และปรับเพิ่มกำไรปี 2565 มาอยู่ที่ 923 ล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน จากโอกาสขยายธุรกิจไปยังกลุ่มอุปกรณ์ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) และอุปกรณ์เกมส์ ส่วน COM7 คงประมาณการกำไรปี 2564 เติบโต 14% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท
นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ของหุ้นไอที ที่ฝ่ายวิจัยวิเคราะห์ ได้แก่ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และ บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) คาดการณ์เติบโตจากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วน COM7 คาดว่าจะอ่อนตัวลง จากปีก่อนที่มีแรงซื้อหลังเปิดห้างสรรพสินค้า (Pent-up Demand) ส่วนทั้งปีคาดว่ากำไรกลุ่มจะยังเติบโตจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการขยายสาขาใหม่
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มกำไรของกลุ่มสินค้าไอทีขึ้นยกแผง โดยคาดว่า JMART จะมีกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น 9.1% จากปีก่อน อยู่ที่ 1,278.4 ล้านบาท, SPVI คาดกำไรโต 50.9% จากปีก่อน อยู่ที่ 111 ล้านบาท และ COM7 คาดกำไรโต 16.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,734 ล้านบาท
โฆษณา