เมื่อพระนางเทราปาที มายังกลางสภา
นางมองไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ ที่อยู่มากมายในสภา
ทั้งท้าว ภีษมะ ท้าวธฤตราษฤร โทรณาจารย์
และผู้เฒ่าผู้แก่ในราชวงศ์ กุรุ อีกมากมาย
แล้วนางจึงถามไปยัง ผู้ทรงเกียรติ เหล่านั้น
ว่าใคร พอจะบอกได้ไหมว่า ตกลง นางตกเป็นทาส หรือไม่
ทุกคนต่างเงียบกริบ เหมือนอมสากเบือไว้ใน
ปาก
นางจึงเพ่งถามไปยังท้าวภีษมะ
ท้าวภีษมะ ก็ตอบแบบครึ่งๆกลางๆ ไม่ฟันธง
ไม่แจ่มชัด
และผู้คนในสภาต่างก็เงียบงันกันไปอีก
ในที่สุด ก็มีผู้กล้า ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เป็นน้องชาย คนหนึ่งของทุรโยชน์ นั่นเอง
ชื่อว่า วิกรรณะ กล่าวว่า พระนางเทราปาที
พูดถูกต้องแล้ว พระนางไม่ได้ตกเป็นทาส
จากการเดิมพัน เพราะอย่างนึง ยุษธิฐีระ เอาตัว
เองเป็นเดิมพันก่อนแล้ว จึงไม่มีสิทธิ์
อย่างที่สอง พระนางเทราปาที มีพระสวามีห้าคน
จึงไม่ใช่สิทธิ ของใครคนใดคนหนึ่งจะตัดสินใด้
ออเจ้านี่พูดมีเหตุผล แต่แกก็มีบทแค่นี้แหละ
ทุรโยชน์ ฉุนสิครับ แกเลยรีบบอกประมาณว่า
มึงไม่ต้องมาพูดดี รีบไปไกลๆตีนกูประมาณนี้
แกเลยต้องจ๋อเตี้ยมๆไปตามระเบียบ
มาถึง ราธียะ บ้าง
แกบอกว่า จะไปกังวลอะไรกับนาง นางมิได้
บริสุทธิ์ใสซื่อ ตรงไหน มีสามีตั้งห้าคน ในขณะ
เดียวกัน นางยังมีให้ นางมิใช่คนดีให้เราต้องกังวล
ทุรโยชน์ เลยบอกว่า งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน
ในเมื่อสามีของนางตกเป็นทาสหมดแล้วนาง
ก็เลือกใครสักคนในที่นี้เป็นสามีสักคนรับรองได้
ว่าปกป้องนางได้ดีกว่าทาสห้าคนนี้แน่นอน
เกือบจะจริงของแก เพราะในระหว่างที่พระนาง
เทราปาที กำลังระทมทุกอยู่วนั้นในผัวแกทั้งห้าคนไม่มีใคร พูดอะไรสักแอะ