16 เม.ย. 2021 เวลา 11:50 • ธุรกิจ
ซินเจียง เขตปกครองพิเศษ ที่มีความสำคัญมาก กับรัฐบาลจีน
3
“ซินเจียง” ในภาษาจีนแปลว่า ดินแดนใหม่
ดินแดนแห่งนี้ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน
1
ซินเจียง เป็นหนึ่งในห้าเขตปกครองพิเศษของจีน
และเป็นเขตปกครองพิเศษที่มีพื้นที่ใหญ่ กินพื้นที่กว่า 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร
ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ 1 ใน 6 ของประเทศจีนทั้งหมด
1
ช่วงที่ผ่านมา หลายคนได้รู้จักชื่อ ซินเจียง จากกรณี “แบนฝ้ายซินเจียง” ที่กลายมาเป็นประเด็นร้อนระหว่างทางการจีนกับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำทั่วโลก
3
แล้วเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ มีความสำคัญมากขนาดไหนกับรัฐบาลจีน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
ความน่าสนใจอย่างแรกของดินแดนแห่งนี้ คือมีพรมแดนติดต่อกับหลากหลายประเทศ
ซึ่งประกอบด้วย รัสเซีย, มองโกเลีย, คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสถาน, อัฟกานิสถาน, ปากีสถาน และอินเดีย
3
โดยเฉพาะด้านตะวันตก ที่มีพื้นที่ติดกับคาซัคสถานและคีร์กีซสถาน ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจีนไปยังประเทศในทวีปยุโรป
โดยโครงการ One Belt One Road ที่จีนกำลังผลักดัน ก็ได้อาศัยช่องทางนี้ซึ่งเคยเป็นเส้นทางสายไหมในอดีต และถ้าดูจากแผนที่โลกแล้ว ตำแหน่งของซินเจียงจะอยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นดินเอเชียและฝั่งยุโรปตะวันออกพอดี
1
Cr. Al Jazeera Center for Studies
ถ้าเราย้อนไปดูประวัติศาสตร์ จะพบว่ากลุ่มชาติพันธุ์หรือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ของซินเจียงนี้ จะแตกต่างกับชาวจีนหรือที่เรียกว่า ชาวฮั่น
1
คนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ ณ พื้นที่แห่งนี้ จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน มากกว่า ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ที่นิยมนับถือศาสนาอิสลามกลุ่มนี้ ถูกเรียกว่า “ชาวอุยกูร์”
1
ย้อนไปในช่วงปลายราชวงศ์ชิง หรือช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ดินแดนแห่งนี้ เป็นที่หมายปองของจักรวรรดิรัสเซียในตอนนั้น
เพราะที่ซินเจียงมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย เช่น ฝ้ายและพืชผักผลไม้
และยังถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทั้งการค้าขายและการสู้รบ เพื่อขยายดินแดนของจักรวรรดิรัสเซีย
3
แต่จักรวรรดิรัสเซียก็ไม่สามารถเข้ายึดครองพื้นที่ซินเจียงได้สำเร็จ
เพราะราชสำนักจีน ได้ส่งขุนนางยศนายพล ที่ชื่อ Zuo Zongtang (左宗棠) นำพาทหารเข้ายึดซินเจียง และปกป้องดินแดนจากการรุกรานของจักรวรรดิรัสเซียเอาไว้ได้
และราชสำนักจีน ก็ได้ตั้งพื้นที่ดังกล่าวให้เป็น มณฑลซินเจียง ในปี 1884
5
Cr. Wikipedia
แต่หลังจากนายพล Zuo Zongtang เข้ายึดครองและปกครองพื้นที่ซินเจียงได้แล้ว
ความขัดแย้งระหว่างชนพื้นเมืองชาวอุยกูร์ กับชนชั้นปกครองจากราชวงศ์ชิง ก็เริ่มต้นขึ้น
ชาวอุยกูร์ในซินเจียงเริ่มไม่พอใจที่พื้นที่ของตนเองต้องอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิง
จึงเริ่มขัดขืน ไม่เชื่อฟังคำสั่งและปฏิบัติตามนโยบายจากผู้ปกครองที่มาจากราชวงศ์ชิง
จนเป็นเหตุให้ผู้ปกครองอย่าง นายพล Zuo Zongtang
เลือกใช้กำลังในการบังคับและปกครองชาวอุยกูร์ในซินเจียงให้อยู่ในระบอบ
ซึ่งก็ถือเป็นจุดที่ทำให้ชาวอุยกูร์รู้สึกว่าถูกบังคับและกดขี่มาตั้งแต่นั้น
ต่อมาในปี 1912 ราชวงศ์ชิงของจีนก็ล่มสลายลง
และจีนได้เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐ
ส่วนซินเจียงก็ยังถือเป็นดินแดนภายใต้การปกครองของจีน
แต่เปลี่ยนสถานะเป็น เขตปกครองตนเอง
3
Cr. The Irish Times
แม้จะมีสถานภาพเป็นเขตปกครองตนเอง
ชาวอุยกูร์ในซินเจียง ก็ยังมีปัญหากับผู้ปกครองที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ส่งคนมาปกครองดินแดนแห่งนี้
จนกระทั่งในช่วงปีหลัง 1949 พรรคคอมมิวนิสต์ที่นำโดย เหมา เจ๋อตง ได้ขึ้นมาปกครองจีนแผ่นดินใหญ่
และได้มีความพยายามเพิ่มความหลากหลายทางเชื้อชาติในซินเจียง
10
โดยการส่งทหารที่เป็นชาวฮั่นกว่า 600,000 คน เข้าไปตั้งรกรากที่ซินเจียง ส่งผลให้อัตราส่วนของชาวอุยกูร์กับชาวฮั่นมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- ปี 1953 ประชากรในซินเจียงมีประมาณ 4.8 ล้านคน เป็นชาวอุยกูร์ประมาณ 75% ชาวฮั่นประมาณ 6%
- ปี 2018 ประชากรในซินเจียงมีประมาณ 24.9 ล้านคน เป็นชาวอุยกูร์ประมาณ 46% ชาวฮั่นประมาณ 40%
5
จากที่เล่าประวัติคร่าว ๆ มานี้ หลายคนคงสงสัยแล้วว่า
ทำไมทั้งจักรวรรดิรัสเซีย กระทั่งจีนเอง ถึงอยากครอบครองและมีกรรมสิทธิ์ในดินแดนแห่งนี้ ?
5
ประการแรก : ซินเจียง เป็นแหล่งทรัพยากรด้านพลังงานที่อุดมสมบูรณ์
พื้นที่ในเขตปกครองของซินเจียง เป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยน้ำมันดิบ
ทุก ๆ ปีปริมาณน้ำมันดิบที่จีนขุดเจาะขึ้นมาได้ จะมาจากซินเจียงมากถึง 30%
3
ในส่วนของก๊าซธรรมชาติ มีการจัดส่งก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากซินเจียงกว่า 2.7 แสนล้านลูกบาศก์เมตร ไปยัง 15 มณฑลทั่วจีน ผ่านโครงการท่อส่งก๊าซตะวันตก-ตะวันออก ที่เป็นเหมือนสายเลือดสำคัญเส้นหนึ่งของประเทศจีน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จีนมีศูนย์ควบคุมการขนส่งนํ้ามันและก๊าซธรรมชาติที่ซินเจียงแห่งนี้
1
Cr. China Dialogue
และเนื่องจากซินเจียงมีพื้นที่โล่งกว้างได้รับแสงแดดดี และมีสายลมพัดผ่านตลอดทั้งปี
ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสม สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ทั้งจากแสงอาทิตย์และจากกังหันลม
โดยในปี 2020 กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในซินเจียงคิดเป็นครึ่งหนึ่ง ของกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของจีนเลยทีเดียว
5
ประการที่สอง : ซินเจียง อุดมไปด้วยแร่ธรรมชาติมากมายหลายชนิด
ปัจจุบันประเทศจีนมีเหมืองที่ใช้ขุดพบแร่ได้มากกว่า 171 ชนิด
โดยเฉพาะในซินเจียง ก็มีเหมืองขุดแร่หลายร้อยแห่ง ซึ่งสามารถขุดพบแร่ได้มากกว่า 138 ชนิด
และซินเจียงยังเป็นแหล่งเหมืองทอง ที่มีการสำรวจว่ามีแร่ทองให้ทำการขุดได้กว่า 500 ตัน
1
Cr. Seetao
นอกจากทองคำ ก็ยังมีลิเทียม ที่เป็นธาตุตั้งต้นสำคัญ ที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และซิลิคอน ที่สามารถนำไปเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ หรือสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบตั้งต้นของอุตสาหกรรม Semiconductor ได้
3
ประการที่สาม : ซินเจียง เป็นแหล่งผลผลิตทางเกษตรกรรมที่สำคัญของจีนและของโลก
1
ยกตัวอย่างเช่น
- มะเขือเทศ มะเขือเทศซินเจียงมีผลผลิตเป็นสัดส่วนถึง 25% ของปริมาณผลมะเขือเทศของทั้งโลก
1
- เส้นใยฝ้าย ที่มีกำลังการผลิต 4 ล้านตันต่อปี ซึ่งตัวเลขระดับนี้ ทำให้ซินเจียงเป็นแหล่งผลิตฝ้ายที่มีกำลังการผลิตประมาณ 20% ของกำลังการผลิตทั้งโลก
3
Cr. China Daily
และประเด็นของการผลิตผ้าฝ้ายนี่เอง ที่เป็นชนวนจุดประเด็นความขัดแย้งระหว่างจีนกับแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกขึ้นมา
หลังจากสื่อตะวันตกหลายแห่งได้รายงานว่ามีชาวอุยกูร์ในซินเจียงจำนวนมาก ถูกบังคับให้มาเป็นแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตฝ้ายและผลิตเสื้อผ้าในซินเจียง ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง..
1
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงพอเห็นภาพแล้วว่า อาณาเขตบริเวณนี้ที่เรียกว่า ซินเจียง หรือ ซินเจียงอุยกูร์ มีความสำคัญอย่างมากกับรัฐบาลจีนเลยทีเดียว
ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นข้อถกเถียง เรื่องการบังคับใช้แรงงาน ที่ดูจะลุกลามไปเป็นปัญหาของหลายแบรนด์เสื้อผ้าทั่วโลก ก็ต้องติดตามดูกันต่อว่าจะลงเอยอย่างไร
1
และก็ต้องติดตามดูกันว่า รัฐบาลจีน จะลบข้อกล่าวหาเรื่องชาวอุยกูร์ ได้อย่างไร ?
โฆษณา