20 เม.ย. 2021 เวลา 00:09 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ความเน่าเฟะของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสู่การฉ้อโกง Admissions ครั้งใหญ่ของอเมริกา
เป็นสารคดีที่ถืว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากที่มาลงใน Netflix อย่าง Operation Varsity Blues: The College Admissions Scandal ที่ว่าด้วยเรื่องราวการฉ้อโกงครั้งใหญ่ในการพาบรรดาเหล่าลูกเศรษฐีเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา
2
ความเน่าเฟะของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสู่การฉ้อโกง Admissions ครั้งใหญ่ของอเมริกา
ปัญหาเรื่องข้อจำกัดการรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังนั้น ถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะตัวเลือกดัง ๆ ตัวอย่างในสหรัฐอเมริกานั้นก็มีอยู่อย่างจำกัด แต่จำนวนนักเรียนที่เรียนจบมัธยมนั้นมีอยู่มหาศาล
ความน่าสนใจของสารคดีกึ่งภาพยนตร์ชุดนี้ก็คือ การที่นำเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ที่มีการแอบดักฟังการสนทนาจากเจ้าหน้าที่ FBI มาถ่ายทอดผ่านตัวละครใหม่ ซึ่งทุกตัวละครนั้นมีอยู่จริง และเสียงการสนทนาทั้งหมดก็ถอดมาจากเรื่องจริง
ตัวละครหลักของสารคดีชุดนี้คือ Rick Singer อดีต โค้ช บาสเก็ตบอลมหาวิทยาลัย ที่ได้ผันตัวเองมาเป็นเป็นที่ปรึกษาอิสระด้านการเรียนต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งแน่นอนว่าอาชีพดังกล่าวนี้ ก็มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก เพราะมีลูกค้าจำนวนมากมายที่พร้อมจะจ่ายเพื่อให้ลูกหลานได้เข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ
แต่สิ่งที่ Rick ทำนั้นแตกต่างออกไป เมื่อเขาเห็นช่องทางบางอย่างที่เรียกว่า “​side door” เป็นช่องทางที่ใช้การฉ้อโกงผ่านการยัดเงินให้กับบุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับการรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำ
4
โดย Rick จะโฟกัสไปที่เหล่าโควต้าพิเศษ ที่เป็นโควต้าทางด้านกีฬา ซึ่งถือเป็นจุดที่สามารถที่จะใช้เงินเพื่อพาบรรดาเหล่าลูกหลานเศรษฐีชื่อดัง เข้าไปได้ง่ายสุด และใช้เงินที่ต่ำที่สุด
2
แน่นอนว่าเหล่ามหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Harvard , Stanford หรือ Yale นั้นก็มีช่องทางตรงสำหรับเหล่าเศรษฐีที่เงินทุนหนา ที่ต้องบริจาคเพื่อส่งลูกหลานเข้าไปร่ำเรียน แต่ก็ต้องใช้เงินสูงมาก ว่ากันว่าต้องใช้เงินหลัก 10-20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว ถึงจะใช้ช่องทางนี้ได้
1
ซึ่งนี่เองที่ทำให้ Rick เห็นช่องว่างทางธุรกิจที่สำคัญ คือเหล่านักธุรกิจ ที่อาจจะไม่ได้ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี แต่ก็เป็นกลุ่มคนชั้นสูงของอเมริกา ที่พร้อมจ่ายเงินราว ๆ 500,000 เหรียญ – 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ลูก ๆ ของพวกเขาได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังได้
ซึ่ง Rick ก็ได้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่พึงพอใจของเหล่าบรรดาเศรษฐี เขาใช้กลวิธีที่แนบเนียน โดยเลือกกีฬาที่ไม่ดังมาก เช่น โปโลน้ำ เรือใบ หรือ ทีมที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ ไม่เก่งเช่น ฟุตบอล หรือ บาสเกตบอล
2
และเนื่องด้วยกลวิธีดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ทุกคนต่าง happy เพราะ Win-Win กันทุกฝ่าย ทางทีมงานที่ได้รับเงินที่มหาวิทยาลัยก็อาจจะได้ทุนไปใช้ในหน่วยงานของตน หรือ อาจจะนำไปใช้ส่วนตัว และส่วนใหญ่ เป็นหน่วยกีฬาที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ ทำให้เรื่องดังกล่าวสามารถทำได้ติดต่อกันยาวนานตั้งแต่ปี 2011-2018
4
แต่สุดท้ายเรื่องก็แตก เพราะทาง FBI นั้นได้ดักฟังการทำงานของ Rick อยู่นานแล้ว และดูเหมือนว่าไม่มีใครเอะใจกับเรื่องดังกล่าวเลย คือ FBI ก็ปล่อยให้ Rick ทำไปในระยะหนึ่ง ซึ่งหลักฐานทุกอย่างมันสามารถมัดตัว Rick ได้อย่างแน่นหนา
1
แต่สุดท้าย FBI ก็ต้องการจัดการกลุ่มผู้ว่าจ้าง เหล่าบรรดา เซเลบ มหาเศรษฐีด้วย จึงใช้ Rick เป็นนกต่อ เพื่อดึงเครือข่ายทั้งหมดออกมา และทำการจับกุม ขังคุก ให้เป็นตัวอย่าง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคตนั่นเอง
ต้องบอกว่า ถือเป็นอีกเรื่องราวที่น่าสนใจ กับปัญหาเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีอยู่ทั่วโลก ปัญหาเรื่องการจัดอันดับมหาวิทยาลัย มหาลัยชั้นนำก็พยายามที่จะดันอันดับของตัวเองให้สูงที่สุด
1
เรื่องของ University Ranking นั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจล้วน ๆ มหาวิทยาลัยดัง ๆ ได้อันดับเพราะทำตาม KPI ของบริษัทจัดอันดับ ซึ่ง KPI แต่ละตัวนั้น ก็ไม่ได้เป็นสิ่งการันตีใด ๆ ว่า นักศึกษาจะได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดตามลำดับที่จัดมานั้นจริง ๆ
3
การจัดอันดับเหล่านี้ นี่เอง ที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงมาก ซึ่งคงไม่ใช่แค่ในอเมริกา แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วโลก ซึ่งจากการถ่ายทอดในสารคดีชุดนี้ ก็มีนักวิชาการหลายคนที่ออกมากล่าวถึง มาตรฐานการศึกษา ที่ไม่ได้ต่างกันเว่อร์ขนาดที่ว่าต้องไปแย่งกัน เสียเงิน ฉ้อโกงกันขนาดนั้น โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา
และเมื่อเงินมันเป็นสิ่งล่อใจที่สำคัญ มันก็ทำให้คนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการดังกล่าวนั้น หาช่องทางที่จะทำเงินจากอันดับของมหาวิทยาลัย และแน่นอน ว่าเรื่องดังกล่าว มันก็เกิดขึ้นคล้าย ๆ กันในประเทศไทย เราจะได้เห็นข่าวมากมายในเรื่องการจ่ายสินบนเพื่อให้ได้เข้าเรียนโรงเรียนดี ๆ ดัง ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับสูง ๆ
1
แต่สุดท้าย ต้องบอกว่า ตอนนี้โลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ในอนาคตเหล่ามหาวิทยาลัย อาจจะถูก Disrupt โดยเทคโนโลยี ซึ่งในอนาคตการเรียนในมหาวิทยาลัยอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป
ในอดีต ทางเลือกอาชีพ อาจจะมีไม่มาก เช่น วิศวกร แพทย์ บัญชี กฏหมาย ตำรวจ ทหาร แต่จากโลกที่เปลี่ยนไปตอนนี้ได้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ที่ทำเงินได้มากมาย โดยไม่จำเป็นต้องไปร่ำเรียนในมหาวิทยาลัยเลยเสียด้วยซ้ำ
2
การ take course สั้น ๆ เพื่อมุ่งสู่การทำงานเลยนั้น น่าจะมีประโยชน์มากกว่า เพราะหลาย ๆสิ่ง มันพิสูจน์มาแล้วว่า การเรียนในมหาวิทยาลัย 4 ปีนั้น ในบางวิชาที่เราอุตส่าตั้งใจร่ำเรียนมา มันแทบจะไม่ได้นำไปใช้ในชีวิตจริงของเราเลยนั่นเองครับผม
7
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา