1. TIDLOR ไม่เร่งขยายสาขาเพราะมีแผนแค่ 500 สาขาใน 3 ปี แต่จะเน้นไปที่ Digital Platform ซึ่งต้องจับตาว่าจะทำให้อัตรากำไรสุทธิ ขยับขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน
.
2. TIDLOR มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ 92% และ จากธุรกิจนายหน้าขายประกันวินาศภัย 8% ซึ่งในส่วนของธุรกิจนายหน้าขายประกัน ถือว่าน่าจับตา เพราะเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง (TQM มีมาร์จิ้นประมาณ 22%) และเติบโตสูง โดย TIDLOR มีแผนชัดเจนว่าจะขยายในส่วนนี้ จึงถือว่าน่าสนใจ และอาจถูก related ค่า P/E กับ TQM ที่มี P/E ราว 50-60 เท่า (คล้าย ๆ กับ OR ที่ถูกซื้อขายใน P/E กลุ่มค้าปลีก)
.
3. ในส่วนของค่า P/E ณ ราคา IPO ที่ค่อนข้างสูงกว่ากลุ่ม ผู้บริหาร TIDLOR บอกว่าเป็นระดับที่เหมาะสม เพราะต้องมองถึงอนาคตของบริษัท ไม่ใช่ปัจจุบัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนจะเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัทหรือไม่
.
4. คนที่ได้มากที่สุดคือ BAY ที่นอกจากจะได้เงินจากการเอาหุ้นเก่าออกมาขาย ได้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาทบวกลบ ยังคงความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ TIDLOR สัดส่วน 30% หลัง IPO อีกด้วย
.
5. TIDLOR จะไม่ได้ Fast Track เข้า SET50-SET100 เพราะมาร์เก็ตแคป ณ ราคา IPO ไม่ติด 1 ใน 20 ของหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด (ต้องเกิน 2 แสนถึงติด) แต่จะได้เข้าคำนวณแน่นอน ตามรอบปกติในเดือน มิ.ย.
.
6. นักวิเคราะห์คำนวณราคาเหมาะสม TIDLOR ปีนี้ที่ระหว่าง 36-49 บาท
.
7. แอดมินลุ้นว่า TIDLOR จะเคาะราคาสุดท้ายไม่เกิน 35 บาท เพื่อให้กำไรคนจองเพิ่มขึ้นนิดนึง
.
8. อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องลุ้นคือ ภาวะตลาดในวันที่หุ้นเข้าเทรดว่าจะเป็นอย่างไร
.
9. #สรุป แอดมินจะใช้สิทธิจอง 1,000 หุ้นขั้นต่ำ ส่วนจะถือยาวหรือไม่ ลุ้นอีกทีวันเทรดค่ะ