26 เม.ย. 2021 เวลา 05:03 • ไลฟ์สไตล์
เคล็ด(ไม่)ลับ ของความสุข คือ
อย่าเยอะ ...
Photo by Jeffrey Czum from Pexels
หมายถึงยังไง ?
คือ อย่าสร้างเงื่อนไขในการมีความสุขให้มันซับซ้อน
ต้องมีบ้านหลังโต
ต้องมีคนรักดี ๆ
ต้องมีลูกที่น่ารัก
ต้องมีกระเป๋าหรู
ต้องประสบความสำเร็จ ฯลฯ
1
ถึงจะมีความสุข
คำคุณศัพท์ที่เพิ่มขึ้นมา
เช่น ดีเลิศ ใหญ่โต หรูหรา ฯลฯ เหล่านี้
คือ การสร้างเงื่อนไขทับซ้อน
ไม่ได้หมายความว่า อย่าดีเลิศ
อย่าหรูหรา อย่าสวยงาม
1
แต่หมายถึง ความสุขในใจ
อย่าเอาไปผูกติดกับเงื่อนไขเหล่านั้น
1
ทำอะไรได้ อยู่ในตำแหน่งที่ต้องทำ ทำเป็นปกติ
ก็ทำไป ไม่ต้องพยายามลด หรือ เพิ่มเติมอะไร
มีความสุขได้ง่าย ๆ
มีข้าวกินตามฐานะ
มีบ้านตามฐานะ
เครื่องใช้ตามฐานะ
2
คือใช้เงิน และไม่เดือดร้อนใคร ตามฐานะ
ตามความเหมาะสม สภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคล
1
อย่าต้องให้ต้องพยายามดิ้นรน สร้างภาระเกินตัว
เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขเหล่านั้น
หากต้องการยกระดับฐานะตัวเอง
ก็ให้มีความสุขในทุก ๆ ย่างก้าว
1
ไม่ต้องรอให้ต้องมีอะไร จึงจะมีความสุข
1
ระหว่างทางที่กำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม
ก็สามารถมีความสุขไปด้วยได้ตลอดทาง
เราจะพัฒนาภายนอก กระบวนการการทำงานซับซ้อน
ละเอียดปราณีตแค่ไหน ก็ตาม
ไม่ต้องรอให้งานสำเร็จ ค่อยมีความสุข
1
ในขณะที่สร้างบ้าน ตอกเสาเข็ม
ค่อย ๆ สร้างไปทีละส่วน
ก็มีความสุขไปทุก ๆ วินาที
จะสร้างวิจิตรแค่ไหน ก็สร้างไปตามสมควร
ไม่ต้องรอให้บ้านเสร็จไปทั้งหลัง
ค่อยมีความสุข
1
งานทุกอย่างจบไปแล้วในทุก ๆ วินาที
ความสุขเป็นของมวลรวม
ไม่ต้องขออนุญาตใคร ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรเป็นพิเศษ
2
หิวได้ทานข้าว ก็มีความสุข
อากาศร้อน ๆ ได้ดื่มน้ำเย็น ๆ ก็มีความสุข
2
ไม่มีอะไรเลย ก็มีความสุข
2
คนบางส่วนในสังคมมักจะตีตรา
คนที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร
เป็นชิ้นเป็นอัน ว่า "ล้มเหลว"
2
ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม ประจักษ์ชัดในความสำเร็จ
รู้มั้ยว่า จริง ๆ แล้ว
ความสำเร็จที่ว่านี้
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งของที่เป็นรูปธรรมเลยแม้แต่น้อย
ไม่จำเป็นต้องผูกติดกัน
ทำไมนักบวช หรือ ผู้ปฏิบัติธรรม
ที่คนส่วนใหญ่ติดตา
วัน ๆ ไม่ทำอะไร
ปฏิบัติภาวนา
เดินจงกลม นั่งสมาธิ ทั้งวัน
ไม่เห็นทำอะไรที่เกื้อกูลกับโลกที่สามารถจับต้องได้
จึงสามารถบริสุทธิ์ พ้นทุกข์
แล้วช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ตามได้
สร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกมากมายนัก
1
เพราะ ความลับของเรื่องนี้คือ ...
1
โลกนี้อยู่ที่จิต
อยู่ที่ความปรุงแต่งการรับรู้ของจิต
ทำไมคนที่ได้แต่คิด มโน
แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริง ๆ
มักถูกมองว่า ไม่ประสบความสำเร็จ
2
แต่ รู้รึป่าว ว่าความสำเร็จที่ว่านี้
คืออะไร ?
แท้ที่จริง มันคือ การเสวยอารมณ์แห่งความสำเร็จอยู่ภายในจิตใจ
1
ที่ต้องออกไปแสวงหาความสำเร็จต่าง ๆ
ก็เพื่อป้อนให้กับใจที่ "รู้สึก" สำเร็จ
ป้อนให้กับใจที่ต้องการเสพความรู้สึกนั้น
ความสำเร็จไม่มีรูปร่างหน้าตา ไม่อาจอธิบายได้
เพราะ มันอยู่ที่การปรุงแต่งของใจ
มันเป็นเพียงความรู้สึกหนึ่ง ที่อยู่ภายในใจ แค่นั้นเลย
2
ยิ่งกว่านั้น คือ
ความรู้สึกของการมโน กับ การที่ได้สัมผัสถึงความสำเร็จจากการลงมือทำ จริง ๆ
ความรู้สึกมันเท่ากัน
หรืออยู่ที่ดีกรีของการปรุงแต่งจิต
3
บางทีตอนมโน อาจจะรู้สึกสุขมากกว่าก็ได้
ทำให้บางครั้ง เวลาอยากได้อะไรมาก ๆ
พอได้ปุ๊บ ก็จะรู้สึกเฉยขึ้นมาทันที
อ้าว แค่นี้เองเหรอ
1
แล้วก็ไปควานหาสิ่งอื่นต่อไป
เพิ่มพูนความต้องการให้มากขึ้น
จึงได้เป็นที่มาของปรากฎการณ์
ที่บางคนเสพติด การแอบรัก
บางคนเสพติด การอ่านนิยาย
เพราะ มันได้เสวยอารมณ์กันอย่างเต็มที่
1
พอบางคนไปเจอการกระทบจากสิ่งแวดล้อมจริง
ก็อาจจะไม่ถูกใจ ไม่เหมือนกับที่มโนเอาไว้
นิยายเรื่องโปรด ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์
ก็อาจเกิดอาการรู้สึกเสียของ
ไม่สุขใจเท่าการอ่านเอง
ไม่เหมือนที่นึกฝันไว้
1
ในห้วงเวลาแห่งการมโน เพลินไปในอารมณ์
ยิ่งแจ่มชัด ยิ่งอิน ก็ยิ่งหลงเพลินไปเรื่อย ๆ
เกิดอาการเสพติด
1
ไม่เคยอิ่มเคยพอ
โลกแห่งการปรุงแต่งนี้ ไม่เคยมีอยู่จริง
ถูกปรุงขึ้นมาชั่วคราวจากเหตุปัจจัยเท่านั้น
แม้เราจะคิดว่า รูปธรรมภายนอก เป็นของจริง
มันก็เป็นเพียงภาพมายา
ของภายนอกอาจจะมีจริง
แต่เครื่องมือที่ใช้การการรับรู้
มันไม่จริง เพราะมันไม่มีตัวตนที่ถาวร
1
ก่อนที่จะเกิดการประดิษฐ์อะไรขึ้นมา
มาจากความคิดลอยลมในอากาศ
เกิดปิ๊ง ไอเดีย บางอย่าง
จึงออกไปสร้างสรรค์สิ่งนั้นขึ้นมา
1
เพื่อสุดท้าย ย้อนกลับไปทำให้รู้สึกถูกใจ
เสพสมกับอารมณ์นั้น ๆ ภายในใจ
วนเวียนไปเรื่อย ๆ
"โลกนี้เป็นเพียงภาพมายา ที่ถูกสร้างขึ้นมาในใจ"
จิตสามารถท่องเที่ยวไปได้ทุกที่
เมื่อจิตเสวยอารมณ์จนพอใจ
ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปหาสิ่งใดมาบำรุงบำเรอใจอีก
1
ฉะนั้น คนที่อยู่เฉย ๆ ก็สามารถมีความสุขได้
เพราะความสุข อยู่ที่ใจ
เอาจริง ๆ ไม่มีใครสามารถอยู่เฉย ๆ ได้หรอก
เพราะจิตเกิดดับอย่างรวดเร็ว
ทำงานกันอยู่ตลอดเวลา
นักบวชที่ค้นพบความสุขสงบ จากการไม่ต้องพึ่งอะไร
ด้วยการค้นเข้าไปในการทำงานของใจ
ไขรหัสของความสุข
พบกับทางสายกลางของใจ
1
จึงสามารถเผยแผ่องค์ความรู้นี้ออกไป
เป็นคุณอนันต์ต่อโลก
ไม่ต้องทำลายล้างสิ่งแวดล้อม
ยึดถือเอาของธรรมชาติเข้าตัว
เพื่อให้ "รู้สึกประสบความสำเร็จ"
1
เป็นสุข ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอก
สุขที่ต้องพึ่งพิงสิ่งอื่น จะก่อให้เกิดทุกข์ได้ตลอดเวลา
ได้ดั่งใจก็เป็นสุข ไม่ได้ดังใจหวังก็เป็นทุกข์
ในขั้นสุดท้าย คือ จิตปล่อยวางจิต
เป็นความสุขไม่มีประมาณ
ยิ่งกว่าการปรุงแต่งของจิต
กลับคืนสู่ สภาพมูลฐาน
ดั้งเดิมของธรรมชาติ
พ้นไปจากการหมุนวนปรุงแต่ง
สร้างภพ สร้างชาติ ภายในใจ
หมดเหตุเกิดทุกข์อย่างถาวร
1
ฉะนั้น
ความสุขเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ แค่เพียง
อย่าเยอะ !
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา