27 เม.ย. 2021 เวลา 11:30 • ปรัชญา
เคยไหมที่เมื่อออกคำสั่งแก่ใครแล้ว
ผลที่ได้รับมักจะทำให้เราหงุดหงิด
หรือคนที่เราสั่งไปนั้นทำแบบขอไปที
ไม่ว่าจะเอารางวัลมาล่อใจก็แล้ว
ขู่ด้วยมาตรการขั้นรุนแรงก็แล้ว
แต่ผลที่ได้กลับดีขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง
1
> หากมีปัญหาเหล่านี้อยู่ เรื่องนี้เหมาะกับคุณ
═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ [ STORY ] ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═
ครั้งหนึ่งตอนที่อยู่ในตำแหน่งวิศวกร ด้วยตำแหน่งและหน้าที่
ผมต้องทำงานร่วมกับโฟร์แมน(ผู้คุมงาน)และช่างเทคนิค
ในบางภาระงานเราต้องทำงานที่กินระยะเวลายาวนานมาก
จนต้องทำงานล่วงเวลากันอยู่บ่อยๆ
แน่นอนเหลือเกินว่า เมื่อเราทำงานติดต่อกันยาวนาน
ก็มีโอกาสเกิดความไม่เรียบร้อยในงานบ้างเล็กน้อย
จากประสบการณ์การออกคำสั่งให้คนใดไปเก็บรายละเอียดงาน
มักจะไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร เนื่องจากใครๆต่างก็เหนื่อยล้าทั้งนั้น
ถ้าไม่เกี่ยงกันไปทำ ก็ไปทำแบบให้พอผ่านพ้นไป
และมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายระยะยาว ทำให้เครื่องจักรเสียหาย
เมื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาแล้วว่าปัญหาเกิดจากการที่
คนทำงานเหนื่อยล้า
จึงได้แก้ปัญหาไปที่ตัวบุคคลนั้นๆอย่างตรงไปตรงมา
โดยการลองใช้สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการนั่นคือ
ใครๆก็อยากเป็นคนสำคัญ
“ผมเชื่อมั่นในฝีมือของพี่
เพราะพี่อยู่มานานกว่าผมจนทำให้บริษัทนี้
เติบโตและใครๆก็อยากมาร่วมงานด้วย ซึ่งความเติบโตของบริษัทนี้นี่แหละ ที่ทำให้ผมอยากมาร่วมงาน ผมเชื่อว่าส่วนสำคัญมาจากความตั้งใจทำงานของพี่ ซึ่งผมมั่นใจได้ว่าไม่ว่างานไหนจะต้องเรียบร้อยดีแน่
ถ้าอยู่ในความดูแลของพี่”
จากนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานไหนก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยจริงๆ
ถึงแม้บางครั้งจะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ก็เป็นข้อผิดพลาดที่ยอมรับได้
═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═ ═
ถึงจุดนี้หลายคนคงจะสงสัยว่าการชมแบบนี้
ผู้ฟังจะไม่มองว่าเราเป็นคนประจบสอพลอหรอ?
แน่นอนว่าปัจจัยในตัวเราแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน
เขามีสิทธิ์ที่จะคิดว่าเราประจบสอพลอที่พูดชมเชยไปแบบนั้น
แต่การที่เขานำคำพูดเรากลับไปคิดสงสัยอีก
นั่นหมายความว่า คำพูดชมเชยดีๆของเราได้ติดอยู่ในความคิดของผู้ฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และดีกว่าการใช้คำพูดเชิงบังคับซึ่งทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่า
ความคิดที่จะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นเกิดจากการบังคับ และการบังคับนั้น
อย่างมากคุณจะได้แค่งานที่เรียบร้อยแต่จะไม่ได้ใจผู้ที่ทำให้เลย
วิธีฝึกที่ผมใช้เพื่อทำให้คนไม่เข้าใจผิดว่าชมเชยเป็นการประจบสอพลอ
ให้ฝึกชมเชยคนรอบข้างที่ไม่มีผลประโยชน์ต่อตัวคุณบ่อยๆ
ชมด้วยความจริงใจ แล้วก็แน่นอนว่าอีกว่าเขาจะสงสัยว่า
คุณต้องการประโยชน์อะไรจากเขาหรือ จึงมาชมเชยแบบนี้
เมื่อเขาหาเหตุผลไม่ได้ (เพราะเราไม่มีอะไรแอบแฝง)
เราจะเป็นที่สนใจต่อคนนั้นอย่างไม่ต้องลงทุนซื้อสิ่งใดมาให้เลย
ตัวอย่างง่ายๆที่สามารถทำได้ทันทีคือ
ลองชื่นชมแม่ค้าร้านอาหารประจำของเรา
ว่าเขาทำอร่อยและสะอาด เราจึงได้มาที่นี่ประจำ
หรือแม้กระทั่งบอกว่าจะต้องมีคนชอบร้านนี้เช่นเดียวกับที่เราชอบแน่ๆ
คำพูดดีๆเหล่านั้นจะช่วยชุบใจที่อาจจะกำลังห่อเหี่ยว
ด้วยปัญหาที่แม่ค้าคนนั้นอาจจะเจอมา
คุณอาจคิดว่าการชมเชยแบบนี้จะได้อะไร
ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพราะไม่มีใครได้ผลประโยชน์อะไรอยู่แล้ว
แต่หากอยากรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่และรู้ว่าคุณสามารถเป็นผู้ให้ได้ทันที
ลองชื่นชม ชมเชย คนรอบข้างด้วยความจริงใจ
การชื่นชมคนอื่นจากใจจริงสามารถทำได้โดยทันที
มันไม่ได้ดีแค่ผู้ถูกชมแต่ยังรวมไปถึงคนชมด้วย
วิธีดังกล่าวผมได้นำมาประยุกต์จากหลักการจูงใจคนของคุณ
Dale Carnegie ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่เปลี่ยนรูปแบบชีวิต
ของผมให้เป็นไปในทางที่ดีและมีความสุขมากขึ้น
หากเคยใช้วิธีบอกให้ใครทำงานบางอย่างให้คุณแล้วไม่สมหวัง
ยังมีวิธีดีๆที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
มาทำให้คำพูดของเรามีพลังมากกว่าที่คิด
ขอให้มีความสุขกับการพัฒนาตัวเองครับ
"เริ่มซักที"
โฆษณา