28 เม.ย. 2021 เวลา 01:30 • สุขภาพ
Big Series : EP. 1
“การทูตโดยวัคซีน” การต่อรองที่พันด้วยชีวิตคนนับล้าน
อาจเปลี่ยนคู่แค้นกลายเป็นมิตร เผยธาตุแท้มิตรเห็นแก่ตัว
1
ในโลกของช่วงชิงผลประโยชน์เพื่อการสร้างอิทธิพลบางอย่างของประเทศหนึ่งบนพื้นที่ของอีกประเทศหนึ่งนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหลากหลายมิติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ปากกระบอกปืน หรือไม่ก็ใช้หลักการเจรจาทางการทูตเข้ามาเพื่อตกลงผลประโยชน์ต่างตอบแทนบางอย่างที่ลงตัวซึ่งกันและกัน
1
ยุคที่สนามรบเปลี่ยนเป็นสนามการค้า การช่วงชิงความเป็นหนึ่งในการครอบครองมหาสมุทรแห่งโลกธุรกิจ คือสิ่งที่ชาติมหาอำนาจต่างแย่งชิงเพื่อสร้างความได้เปรียบ โดยการใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตเข้ามาเพื่อเปิดทางให้บรรลุผลสำเร็จที่ต้องการ ซึ่งอาจจะเป็นการทูตโดยผ่านบุคคลเช่น เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ หรือผู้แทนประเทศที่ต้องประจำการ ณ ดินแดนนั้นๆ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าทั้งสองแผนดินจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกันมากขนาดไหน
แต่บางครั้งสื่อกลางในการเจราทางการทูตก็อาจไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนเสมอไป เพราะสิ่งของที่มีความสำคัญที่สุด ณ เวลานั้นก็สามารถเป็นเครื่องมือในการเจราจาต่อรองได้ โดยที่คู่เจรจาอาจจะทำใจปฏิเสธได้ยาก
การทูตวัคซีน (Vaccine Diplomacy) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อรองอำนาจบางอย่างในเวลานี้ เพราะไม่มีใครไม่อยากได้วัคซีน ทุกประเทศที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสต่างต้องการวัคซีนอย่างมากเพื่อมาฉีดให้กับประชาชน ดังนั้นเวลานี้วัคซีนจึงมีค่าไม่ต่างอะไรกับอัญมณีน้ำงามที่ทุกๆ คนหมายปอง เพราะมันมีชีวิตของประชาชน ความอยู่รอดทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นเดิมพัน
🔵 อินเดีย – จีน จากคู่แค้นที่แทบไม่เผาผี วันนี้อาจยอมกันเพื่อสู้โรคระบาด
1
ใครที่ติดตามสถานการณ์ระหว่างอินเดียและจีนก็พอจะทราบว่า ทั้งสองประเทศระหองระแหง กันมาตลอดประเด็นความขัดแย้งบริเวณชายแดน ที่มีการปะทะกันจนทหารทั้งสองฝั่งบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังจากนั้นกลายเป็นประเด็นภายในประเทศที่รัฐบาลอินเดียเปิดฉากแบนสินค้าจากประเทศจีน ซึ่ง Huawei และ Xiaomi Mi โดนโจมตีมากที่สุด เพราะเป็นสินค้าแบรนด์จีนที่ขายดีอย่างมาในอินเดีย รวมทั้งสั่งระงับให้บริการแอปพลิเคชันชื่อดังอย่าง ‘Tiktok’ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงอีกด้วย
1
ในการระบาดรอบแรกอินเดียถือว่าสามารถจัดการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ค่อนข้างดี แม้จะมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้มากเกินจนรับมือไม่ไหว อีกทั้งยังสามารถผลิตวัคซีนได้ในปริมาณมากที่สุดในโลกรองจากสหรัฐฯ เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างบังคลาเทศ ศรีลังกา และเนปาล
1
แต่การระบาดครั้งล่าสุดนี้กลายเป็นหายนะที่อินเดียกำลังเผชิญกับการล่มสลายของระบบสาธารณสุข ผู้ติดเชื้อพุ่งมากว่า 3 แสนคนมา 6 วันติดต่อกัน ผู้เสียชีวิตวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3,000 คน หรือทุกๆ 1 นาทีจะมีคนติดเชื้อ 490 คน เฉลี่ยวินาทีละ 8 คน กลายเป็นดินแดนที่มีการติดเชื้อและเสียชีวิตรุนแรงที่สุดแทนที่บราซิล แม้สิ้นใจแล้วสถานที่เผาศพก็ยังไม่มี ต้องเผาศพกันกลางแจ้งบนกองฟืนง่ายๆ ริมถนนดุจศพอนาถา
1
วัคซีนที่เคยผลิตเพียงพอ มาวันนี้ไม่เพียงพออีกต่อไป แม้จะสั่งระงับการส่งออกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถผลิตได้เท่ากับความต้องการ ซ้ำประเทศพันธมิตรที่เคยว่าอย่างไรก็ออเออว่าตามกันอย่างสหรัฐฯ ก็จำกัดการส่งออกวัตถุดิบเพื่อการผลิตวัคซีน รวมทั้งวัคซีนสำเร็จรูปไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งอินเดียด้วย เพราะต้องการกักตุนเอาไว้ฉีดให้กับพลเมืองของสหรัฐฯ ก่อนเท่านั้น
เช่นเดียวกับประเทศในสหภาพยุโรป ก็มีนโยบายจำกัดการส่งออกวัคซีนและวัตถุดิบให้กับประเทศต่างๆ เพื่อฉีดให้กับพลเมืองในยูโรโซนจนครอบคลุมและมีสถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้น ก่อนที่จะกลับมาปล่อยของอีกครั้ง
1
มีก็แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนนี่แหละ ที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย เกลียดกัน แบนกันในเรื่องต่างๆ รบกันชนิดที่ว่าดูแล้วความสัมพันธ์ไม่น่าจะมีทางดีขึ้น กลับยื่นมือเข้ามาช่วยอินเดียต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัส หลังจากที่สหรัฐฯ ปฏิเสธคำขอให้ยกเลิกการห้ามส่งออกวัตถุดิบวัคซีน
4
ความช่วยเหลือครั้งนี้ดูเหมือนว่าอินเดียก็ตอบสนองกลับมาด้วยท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ อาจเป็นเพราะอินเดียไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะประเทศที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรกันอย่างสหรัฐฯ และอังกฤษ ต่างหันหน้าหนีปฏิเสธคำขอร้องที่จะช่วยเหลือในยามทุกข์ยาก แถมยังกักตุนวัคซีนเอาไว้มากเกินกว่าความจำเป็นที่จะต้องใช้ในประเทศหลายเท่าตัว เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา ที่กักตุนวัคซีนเอาไว้ถึง 1,000 ล้านโดส ส่วนประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ต่างก็พอกันสั่งวัคซีนเพื่อการกักตุนมากกว่า 3,000 ล้านโดส ทั้งๆที่ปริมาณวัคซีนสำหรับประชากรทั้งประเทศต้องการเพียง 2,060 ล้านโดสเท่านั้นโดยมี 30 ล้านโดสกำลังจะหมดอายุลงเร็วๆ นี้
1
ความช่วยเหลือครั้งนี้ดูเหมือนว่าอินเดียก็ตอบสนองกลับมาด้วยท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ อาจเป็นเพราะอินเดียไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะประเทศที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรกันอย่างสหรัฐฯ และอังกฤษ ต่างหันหน้าหนีปฏิเสธคำขอร้องที่จะช่วยเหลือในยามทุกข์ยาก แถมยังกักตุนวัคซีนเอาไว้มากเกินกว่าความจำเป็นที่จะต้องใช้ในประเทศหลายเท่าตัว เช่นสหรัฐฯ ที่กักตุนวัคซีนเอาไว้ถึง 1,000 ล้านโดส โดยมี 30 ล้านโดสกำลังจะหมดอายุลงเร็วๆ นี้
5
อย่างที่กล่าวไปว่า ข้อเสนอให้ความช่วยเหลือของจีนที่แม้ว่าจะเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องตามแนวพรมแดนที่ขัดแย้งกันหลังจากการปะทะกันครั้งรุนแรงเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว และการเจรจาระหว่างสองประเทศก่อนหน้านี้มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ
2
นิว ฮายบิน รองผู้อำนวยการสถาบันการศึกษานโยบายต่างประเทศของ Shanghai Institute for International Studies กล่าวว่า ปัจจุบันอินเดียถูดจำกัดการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตวัคซีนจากทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป และกำลังต้องการความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ อย่างมาก
3
“นี่เป็นโอกาสสำหรับทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขความสัมพันธ์ทวิภาคีซึ่งกันและกัน”
“ ฉันคิดว่าจีนยินดีที่จะช่วยเหลืออินเดียด้วยการกระทำที่สำคัญมากกว่าการแสดงท่าทางเปล่า ๆ”
🔵 อินเดียไม่คัดค้าน แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
นักวิชาการจากฝั่งประเทศอินเดีย รัจ เวอรามา รองศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ในนครฝูเจี้ยนกล่าวว่า เนื่องจากวัคซีนของจีนไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งผู้คนจึงไม่เต็มใจที่จะรับวัคซีนเหล่านี้ แต่เขาบอกว่ามีวิธีอื่นที่จีนจะสามารถช่วยได้
“อินเดียกำลังพยายามรวบรวมถังออกซิเจนจากทั่วโลกที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก แต่แน่นอนว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมจะยังคงตึงเครียดและความไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นในทั้งสองฝ่ายจะดำเนินต่อไป”
1
“และคิดว่าจีนยินดีที่จะช่วยเหลืออินเดียด้วยการกระทำที่สำคัญมากกว่าการแสดงท่าทางเปล่าๆ”
ส่วนสหรัฐฯ หลังโดนโจมตีหนักๆ เรื่องการกักตุนวัคซีน ก็เริ่มจะแจกจ่ายวัคซีนให้กับประเทศที่ต้องการแล้วล็อตแรก 60 ล้านโดส
1
🔵 มุมมองของผู้เขียน
สำหรับผู้เขียนแล้ว ไม่ได้มองว่าจีนจะเป็นฮีโร่หรือเป็นมิตรแท้มิตรเทียมอะไร เพราะในความจริงแล้วแล้วประเทศจีนกับอินเดีย พรมแดนมันติดกัน ถ้าอินเดียระบาดหนักมากแล้วเชื้อมันทะลักเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน ก็คงซวยกันหมดทั้งแถบ ทางที่ดีก็เสนอตัว เสนอหน้าเข้าไปบอกว่า อั๊วจะช่วยลื้อละกัน อย่างน้อยก็ดีกว่าจะปล่อยให้มันกลายเป็นปัญหาในอนาคตที่กระทบในบ้านอั๊วต่อไป
3
ในความเป็นจริงการยื่นมือไปช่วยตามหลักมนุษยธรรมมันก็ทำได้กับทุกๆ ประเทศอยู่ที่จังหวะและเวลา ซึ่งใครจะมองว่าเป็นการเอาหน้าไม่เอาหน้า ในสถานการณ์แบบนั้นไม่มีใครมานั่งคิดเล็กคิดน้อยหรอก จีนอาจมีนัยแอบแผงในเรื่องการสร้างอิทธิพลในดินแดนอื่นๆ หรือไม่อย่างไรอันนี้ไม่มีทางรู้ได้
1
เพราะเอาจริงๆ การช่วยเหลือเร่งด่วนเฉพาะหรน้า กับปัญหาเดิมที่ยืดเยื้อมามันเป็น "คนละเรื่อง" เรื่องที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้อาจจะไม่ใช้ประเด็นจะมาลำเลิกบุญคุณกันว่า คราวนั้นอั๊วช่วยลื้อให้รอดตายนะ ลื้ออย่ามามีปัญหากับอั๊วเรื่องชายแดนแบบเมื่อก่อนละกัน
โลกความเป็นจริงในความสัพมพันธ์ระหว่างประเทศมีความซับซ้อนหลากหลายมิติ อาจไม่ได้ผลที่เถตรงแบบที่เราคิดกันง่ายๆ สมมุติว่าในอนาคตอินเดียสถานการณ์ดีขึ้น ก็อาจกลับมาตีกันเรื่องเดิมอีกก็ได้ มันเป็นเรื่องปกติ
ถามว่าน้ำใจรับไหม ก็รับ แต่ไม่ใช่มาทวงบุญคุณกัน เพราะไม่ได้ขอร้อง แต่ถ้าอยากช่วยก็ได้พร้อมรับ ซึ่งน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า และต้องแยกออกจากเรื่องช่วยเหลือเฉพาะหน้า กับเรื่องความขัดแย้งระหว่างบ้านที่ฝังรากลึกกันมาอีกด้วย
1
เพราะสุดท้ายอย่างที่บอก เหมือนท่านผู้อ่านเกลียดป้าข้างบ้านที่ชอบนินทาท่านแทบตาย แถมชอบกวาดขยะที่บ้านตัวเองมากองหน้าบ้านท่าน หรือไม่ก็ชอบแอบสอยมะม่วงไปกินโดยไม่ได้ขออนุญาต เอือมระอาจนหมดคำจะพูด
1
แต่พอเห็นป้าข้างบ้านจะตายตรงหน้าก็ต้องช่วยแหละ อย่างน้อยช่วยโทรเรียกรถพยาบาลให้ก็ยังดี เพราะคงไม่ดีแน่ที่มีคนมาตายข้างๆ บ้าน ส่วนจะมาสำนึกบุญคุณอะไรไหมนั้น อ่อ...ไม่คาดหวัง หายดีเมื่อไหร่ค่อยกลับมาด่ากันข้ามรั้วเหมือนเดิม
2
นี่คือการเปรียบเทียบแบบง่ายๆ ให้เห็นภาพที่สุดละ
ปล. หลังจากที่จีนออกแถลงการณ์ไม่ทันไร สหรัฐฯ ก็ปล่อยสารตั้งต้นวัคซีนให้อินเดียทันที หลังจากที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดในทวิตเตอร์ว่า สหรัฐฯ ต้องรอดก่อน แต่พออินเดียเสนอผลประโยชน์พร้อมกับจีนเสนอตัวเข้าช่วยเหลือ สหรัฐฯ ก็ทำตัวเป็นฮีโร่ทันที #มีพิรุจตลอดๆ
5
นั่นแหละคือ "โลกของรัฐศาสตร์ IR"
สำหรับในตอนหน้าไปดูกันว่านอกจากอินเดียและจีนแล้ว มีประเทศไหนที่ใช้ ‘การทูตวัคซีน’ อีกบ้างติดตามใน [การต่อรองที่พันด้วยชีวิตคนนับล้าน อาจเปลี่ยนคู่แค้นกลายเป็นมิตร เผยธาตุแท้มิตรเห็นแก่ตัว] ตอนจบ
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา