1 พ.ค. 2021 เวลา 09:38 • สุขภาพ
ในวันที่ ‘อินเดีย’ มีผู้ติดเชื้อทะลุ 4 แสนรายในวันเดียว
อนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะยุติความเลวร้ายนี้ได้เมื่อไหร่
6
วันนี้เป็นอีกวันที่โลกต้องตะลึงเมื่ออินเดียมีจำนวนติดเชื้อไวรัสรายใหม่พุ่งขึ้นมาทะลุ 400,000 คนในวันเดียวแล้ว ทำลายสถิติสูงสุดในโลกอีกครั้ง ซึ่งนับตั้งแต่เกิดระบาดรอบใหม่นี้อินเดียก็มีผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นไม่หยุดและไม่มีทีท่าว่าจะลดลงในเร็ววัน
7
การติดแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้นับว่าหนักหนาสาหัสที่สุด เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ล้นทะลักโรงพยาบาล ผู้ป่วยรายเก่ายังไม่ทันหาย ผู้ป่วยรายใหม่ก็เข้ามาเพิ่มไม่หยุด ซึ่ง นักวิจัยด้านสาธารณะสุขขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประเมินว่า ณ เวลานี้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในอินเดียอยู่ที่ 17 ล้านคนอาจน้อยเกินกว่าความเป็นจริง 20 - 30 เท่า เพราะด้วยสถานการณ์ที่หนักหน่วงถึงขนาดรักษาไม่ทันแบบนี้ คงมีผู้ติดเชื้อสะสมไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน จากจำนวนประชากรกว่า 1,300 ล้านคน และเดือนนี้จะเป็นเดือนที่อัตราการเสียชีวิตจะพุ่งสูงขึ้น เพราะผู้ที่ติดเชื้อมาระยะหนึ่งร่างกายจะเริ่มถูกไวรัสทำลายอวัยวะจนล้มเหลว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวและร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิม
5
ส่วนผู้ที่ติดเชื้อยังไม่รุนแรงอาจจะกลายเป็นรุนแรงเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้โรงพยาบาลในอินเดียแทบจะไม่เพียงพอที่จะทำการรักษาตัวอย่างทันท่วงทีแล้ว โรงพายบาลแน่น ผู้ป่วยต้องนอนร่วมเตียงเดียวกัน 2 คนบ้าง 4 คนบ้าง เมื่อห้อง ICU และห้องความดันลบมีจำกัด ผู้ป่วยในห้องก็รอรักษาซึ่งใช้เวลานาน ผู้ป่วยที่อาการไม่หนักจะเริ่มหนักเพราะรักษาไม่ทัน และผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดก็จะถามโถมเข้ามา ถ้าหยุดการติดเชื้อจำนวนมหาศาลไม่ได้ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานหนักจนร่างกายอ่อนล้า ก็จะเริ่มป่วยด้วย และถ้าหมอล้ม พยาบาลล้ม ระบบสาธารณสุขก็จะล้มทันที ถึงคราวนั้นอาจกล่าวได้เลยว่ามันคือ “หายนะ”
7
🔵 ติดเชื้อมากขนาดนี้มีสิทธิ์เกิดภูมิคุ้มกันหมู่หรือไม่?
4
จากการที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากพร้อมๆ กันขนาดนี้จะสามารถเกิดภูมคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ตามธรรมชาติได้หรือไม่ คำตอบคือได้ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน
3
ย้อนกลับไปช่วงที่เกิดโรคระบาดระดับนี้ที่ร้ายแรงที่สุดที่ใกล้กับช่วงเวลาปัจจุบันก็คือเมื่อ 100 ปีที่แล้วซึ่งก็เป็นการแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปน ที่ในเวลานั้นโลกของเรายังไม่ได้มีวิทยาการทางการแพทย์ที่ดีพอเหมือนปัจจุบัน และยังไม่มีนวัตกรรมวัคซีน เมื่อมีผู้คนติดเชื้อ ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการ ประครองอาการกันไป ถ้าใครรักษาไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้ตาย ส่วนใครที่รักษาหายก็รอด ซึ่งผู้ที่รอดชีวิตนี่แหละร่างจากจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันโรคของมาจนเกิด Herd immunity หลังจากนั้นโรคระบาดก็จะสงบไปเอง แต่กว่าจะสงบก็มีผู้คนต้องสังเวยชีวิตในครั้งนั้นไปถึง 40 ล้านคนทั่วโลก
10
สำหรับในประเทศไทยก็มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสเปนหลายหมื่นคน จากประชากรทั้งประเทศแค่ไม่กี่ล้านคน แต่เหตุการณ์ยุติลงได้ เพราะสุดท้ายไวรัสมันก็จะกลายพันธุ์จนความรุนแรงลดลงและกลายเป็นโรคประจำถิ่น ส่วนร่างกายมนุษย์ก็พัฒนาระบบป้องกันตัวเองขึ้นจากไวรัส
3
ผู้ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้าส่วนใหญ่ไวรัสได้กลายพันธุ์เป็นโรคหนักที่มีความรุนแรงเกินไป จนคนก็จะหมด เมื่อคนตายไวรัสก็ตายตามไปด้วย ไวรัสสายพันธุ์ที่เหลือรอดอยู่ก็จะมีความรุนแรงพอประมาณ และสถานการณ์ทุกอย่างก็จะค่อยกลับสู่สมดุลในระยะเวลาประมาณ 10 ปีตามธรรมชาติ
4
แต่ทุกวันนี้โลกมีวัคซีนแล้วก็ใช่ว่าวัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อของไวรัสได้ 100% เพราะวัคซีนที่มีอยู่ในทุกวันนี้แทบจะเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันโรคเฉพาะถิ่น กล่าวคือประเทศไหนที่ผลิตวัคซีนได้โดยใช้สารตั้งต้นจากเชื้อที่ระบาดในท้องถิ่นหรือเชื้อดั้งเดิมก่อนการกลายพันธุ์ จะมีประสิทธิภาพการป้องกันได้ดีเยี่ยม แต่พอไปทดสอบกับไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ประสิทธิภาพจะลดลงหรือแทบไม่มีประสิทธิภาพก็มี ซึ่งการฉีดวัคซีนจนครบโดสไปแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ติดโรคอีก อีกทั้งภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์จะต้องใช้ระยะเวลาอีกนานกว่าที่จะวิวัฒนาการสร้างภูมิขึ้นมาเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกายน้อยที่สุด
7
อินเดียอาจจะเกิด Herd immunity ตามธรรมชาติก็ได้ แต่กว่าจะถึงตอนนั้นคงมีการสูญเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ และจะหยุดลงเมื่อไร่ แต่คงมีจำนวนไม่น้อยอย่างแน่นอน ถ้าการติดเชื้อใหม่ๆ ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในปริมาณที่สูงแบบนี้ โอกาสที่คนจะตายก่อนรอดก็มีสูง ซึ่งจะไม่ได้ตายเพราะโรคอย่างเดียว แต่จะตายเพราะหมอแ พยาบาล และระบบสาธารณสุขที่ล่มสลายและรักษาไม่ทัน
5
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
3
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา