1 พ.ค. 2021 เวลา 09:41 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ใหญ่ฟัดใหญ่!!! Blue Origin ประท้วง Nasa ทำสัญญากับ SpaceX
1
การเดินทางนอวกาศเป็นแหล่งทำเงินแห่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครเข้าไปทำธุรกิจมาก่อน มหาเศรษฐีหมื่นล้านเริ่มหันมาให้ความสนใจในอุตสาหกรรมอวกาศมากขึ้น เช่น คุณ Jeff Bezos ได้ลงทุนก่อตั้งบริษัท Blue Origin เพื่อดำเนินการท่องเที่ยวอวกาศในขณะที่คุณ Elon Musk ก็ตั้งบริษัท SpaceX เพื่อเตรียมสำหรับอพยพไปตั้งรกรากที่ดาวอังคารเช่นกันครับ แต่เสือ 2 ตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ Blue Origin ได้ยื่นประท้วง Nasa เรื่องการทำสัญญาพานักบินอวกาศไปเยือนดวงจันทร์ของ SpaceX ครับ
บริษัท Blue Origin เจ้าของเดียวกับ Amazon
2
บริษัท Blue Origin Federation, LLC เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกาที่ลงทุนในการผลิตและให้บริการทางด้านอวกาศครับ ก่อตั้งโดยอภิมหาเศรษฐี Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งมหาอาณาจักร online Amazon นั่นเองครับ โดยบริษัท Blue Origin มีเป้าหมายสำคัญในการทำช่วยให้ประชาคมโลกเข้าถึงอวกาศได้ในราคาที่จับต้องได้ และเชื่อถือโดยใช้การนำกระสวยและยานอวกาศมาใช้ซ้ำนั่นเองครับ ในส่วนนี้จะเหมือนกับของ SpaceX เนื่องจากต้นทุนในการสร้างยานหรือกระสวยอวกาศแพงมากครับ
คติประจำใจของบริษัท Blue Origin คือ “Gradatim Ferociter” ซึ่งเป็นภาษาลาตินหมายความว่าการทำทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนครับ โดยเทคโนโลยีเด่นๆ ของบริษัท Blue Origin คือการขึ้นและลงจอดยานอวกาศในแนวดิ่ง (เหมือนกับที่ทาง SpaceX พยายามทำทดสอบแต่ล้มเหลวครับ) และบินในระดับต่ำกว่าระดับวงโคจรเพื่อออกสู่อวกาศ (suborbital flight) ครับ
การไฟว์กันของ 2 + 1 บริษัทอวกาศ
ที่ผ่านมาทาง NASA ได้เตรียมโครงการ Human Landing System (HLS) เพื่อที่จะส่งนักบินอวกาศสหรัฐไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้งครับ โดยทาง NASA ตั้งเป้าว่าจะมีภาคเอกชนอย่างน้อย 2 บริษัทที่จะเข้ามาร่วมแข่งขันเพื่อสร้างยานอวกาศเพื่อที่จะส่งนักบินอวกาศขึ้นดวงจันทร์ภายใต้ภารกิจ Artemis ครับ ซึ่งทาง NASA ได้ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า SpaceX จะเป็นภาคเอกชนเพียงรายเดียวที่จะมีส่วนส่วนร่วมในโครงการ HLS ดังกล่าวครับ โดยทาง NASA กล่าวว่าพวกเขาพิจารณาจากค่าใช้จ่ายเป็นหลักครับ
ทางคุณ Bob Smith ผู้เป็น CEO ของบริษัท Blue Origin ก็ออกมาให้ความเห็นกับการตัดสินใจของ NASA ที่จะยกสัญญามูลค่า 2,900 ล้านเหรียญให้กับ SpaceX แต่เพียงผู้เดียวว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากๆ ครับ โดยทาง NASA ตัดสินใจพลาดเกี่ยวกับประโยชน์ของข้อเสนอจาก Blue Origin และมองข้ามความท้าทายทางเทคนิคของ SpaceX (เข้าใจว่าหมายถึงความล้มเหลวในการลงจอดแนวตั้งจนถึงขั้นยานอวกาศระเบิดถึง 4 ครั้งติดครับ)
2
ในทางกลับกันคุณ Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้ข่าวนี้โดยพิมพ์ tweet ข้อความสั้นๆ ว่า “ไม่สามารถทะยานขึ้น (วงโคจร)” ครับ นอกจากนี้คุณ Musk ยัง tweet ข้อความว่า Blue Balls (เป็นคำแสลงว่าอัดอั้น) เพื่อล้อเลียนชื่อโครงการลงจอดบนดวงจันทร์ของทาง Blue Origin ที่ชื่อว่า Blue Moon ครับ
นอกจาก Blue Origin แล้วยังมีอีกบริษัทที่ประท้วงการตัดสินใจของ NASA สำหรับโคงการ HSL คือบริษัท Dynetics จากรัฐแอละแบมาครับ โดยทั้ง 2 บริษัทจะยื่นเรื่องต่อสำนักงานความรับผิดชอบรัฐบาล (Government Accountability Office: GAO) โดยให้เหตุผลว่า NASA ไม่ได้ประเมิณของเสนอของพวกเขาได้ดีเพียงพอ และต้องการให้ทาง NASA พิจารณาใหม่ครับ
ข้อเสนอของแต่ละบริษัทสำหรับโครงการ HSL
ซึ่งผลของการตัดสินใจของ NASA กระทบผู้ให้บริการทางอวกาศเป็นอย่างมากครับ เนื่องด้วยอุตสาหกรรมนี้มีลูกค้าน้อยรายและทาง NASA เป็นลูกค้ารายใหญ่ยักษ์ของโลกนี้ครับ หากพลาดโอกาศสร้างความร่วมมือกับ NASA ไปก็จะมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทโดยตรงครับ
โดยทาง Blue Origin และ Dynetics ได้เสนอว่าจะทำงานให้กับทาง NASA ในรูปแบบของทีมชาติครับ โดยพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้รับเหมาของ NASA เช่น Northrop Grumman และ Lockheed Martin ในการออกแบบการลงจอดและการสร้างสถานีบริการในอวกาศที่เรียกว่า Gateway ครับ
ในทางกลับกันทาง SpaceX จะใช้อีกวิธีหนึ่งคือสร้างยานอวกาศขนาดยักษ์ในการขนส่งนักบินอวกาศครับ ซึ่งทาง Blue Origin กล่าวว่าระบบดังกล่าวยังอยู่ในช่วยเริ่มต้นของการพัฒนาเท่านั้น ทำให้มีความเสี่ยงทางด้านเทคโนโลยีอย่างมากครับ
1
หลายๆ คนอาจมองว่านี่เป็นการต่อสู้กันของมหาเศรษฐีระดับโลก แต่ถ้ามองลงไปในเนื้อแท้ ผู้ที่ชนะการประมูลครั้งนี้จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐานการเดินทางระหว่างดวงดาวใหม่ครับ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทที่ชนะการประมูลในระยะยาวมากๆ ครับ ดังนั้นเราคงต้องจับตาสงครามอวกาศครั้งนี้อย่างใกล้ชิดครับ
1
โฆษณา