4 พ.ค. 2021 เวลา 05:35 • สุขภาพ
10 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ "วัคซีนโควิดชนิด mRNA" ที่ถูกใช้ครั้งแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่บริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNtech) และ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) เลือกใช้
1
วัคซีนโควิดชนิด mRNA (เอ็มอาร์เอ็นเอ) ได้กลายมาเป็นอีกคำค้นหาที่ติดท็อปของโลกมาตั้งแต่ปลายปี 2020 ที่ผ่านมา เพราะการเกิดขึ้นของ โควิด-19 นอกจากจะเป็นแรงกระตุ้นให้มนุษย์พัฒนาวัคซีนได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกของวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่มีการนำเทคโนโลยี mRNA มาใช้ในการผลิตวัคซีน เป็นการใช้สารพันธุกรรมสังเคราะห์ที่จำลองมาจากสารพันธุกรรมของไวรัส แทนการใช้เชื้อตายทั้งตัวของไวรัสในการผลิตวัคซีนแบบเดิม
Sarakadee Lite ชวนไปทำความเข้าใจและรู้จักกับ เทคโนโลยี mRNA อีกครั้ง เพราะนอกจากวัคซีนโควิด-19 แล้ว ในตอนนี้ mRNA กำลังถูกนำมาศึกษาเพื่อรักษา HIV และ มะเร็ง รวมทั้งสร้างวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และไวรัสซิก้าอีกด้วย
2
1. จุดเริ่มต้นของวัคซีนโควิดชนิด mRNA มาจากความเชื่อและความฝันของนักวิทยาศาสตร์หญิงชาวฮังการี ดร.เคทลิน คาริโก (Dr. Katalin Kariko) เธอเชื่อมาตลอดว่า mRNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากดีเอ็นเอ (DNA) จะสามารถนำมาใช้ในการสร้างยาและวัคซีนในมนุษย์ได้ และเธอก็เริ่มศึกษา ทดลอง วิจัยเกี่ยวกับ mRNA มาร่วม 20 ปี
1
ดร.เคทลิน คาริโก (Dr. Katalin Kariko)
2. โดยทั่วไปแล้วการฉีดวัคซีนเป็นการจำลองสถานการณ์การติดเชื้อครั้งแรกขึ้นในร่างกาย เป็นการฉีดองค์ประกอบบางส่วนของไวรัส หรือใช้เชื้อไวรัสที่ตายแล้ว หรือไวรัสที่อ่อนกำลังจนไม่สามารถก่อโรคได้เข้าสู่ร่างกาย ส่วนวิธีการทำงานของ mRNA เป็นวิธีการใหม่ที่พัฒนาไปถึงระดับโมเลกุล แทนที่จะใช้เชื้อตายทั้งตัวของไวรัส ก็เปลี่ยนมาเป็นการสอนเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตโปรตีนหนามที่มาจากเปลือกหุ้มของไวรัสโควิด-19
1
3. วัคซีนโควิดชนิด mRNA ใช้สารพันธุกรรมสังเคราะห์ที่จำลองมาจากสารพันธุกรรมของไวรัส แทนการใช้เชื้อตายทั้งตัวของไวรัสมาใช้จริงในมนุษย์เป็นครั้งแรกของโลก จากนั้นเมื่อฉีดกระตุ้นเข้าไปในเซลล์ร่างกายก็จะไปบอกให้เซลล์สร้าง S-protein ที่หน้าตาเหมือนกับ S-protein ของไวรัส โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ร่างกายมนุษย์ จากนั้น เซลล์ APC หรือทหารแนวหน้าของเราจะนำ S-protein (ที่เปรียบเสมือนข้าศึกจำลอง) ไปให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันชนิดอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเดียวกันในการสร้างแอนติบอดี้
4
4. นอกจากวัคซีนโควิด-19 แล้วตอนนี้มีวัคซีนต้านเชื้อไวรัสอีกหลายชนิดที่หันมาใช้เทคโนโลยี mRNA ซึ่งกำลังเข้าสู่ขั้นทดลองทางคลินิก (clinical trials) เป็นการทดลองใช้ในมนุษย์ซึ่งจะใช้เวลารวบรวมข้อมูลประมาณ 4-7 ปี เช่น วัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และไวรัสซิก้า (Zika)
5. หลายคนอาจสงสัยว่าการที่ให้เซลล์ของมนุษย์เราสร้าง S-protein ขึ้นมาเองนั้นจะทำให้เซลล์มนุษย์กลายพันธุ์หรือไม่ คำตอบคือ “ไม่” เนื่องจาก mRNA ไม่สามารถเข้าสู่นิวเคลียสหรือแหล่งเก็บสารพันธุกรรมของเซลล์มนุษย์ได้ จึงไม่มีผลต่อดีเอ็นเอ (DNA) ของมนุษย์
6. ข้อดีอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี mRNA คือ หากในกรณีที่ไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของ S-protein ไปจนถึงขั้นที่แอนติบอดีในร่างกายเราไม่สามารถเข้าไปจับทำลายได้ การแก้ไขรหัสพันธุกรรมบน mRNA ที่จะใช้ในการผลิตวัคซีนตัวใหม่ จะสามารถทำได้โดยง่ายและสามารถปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพของวัคซีนได้อย่างทันท่วงทีสำหรับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์
1
7. วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNtech) และบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) เป็นวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA มาใช้ในการผลิตวัคซีน ปัจจุบันได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
8. บริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNtech) ได้ทำการศึกษา วัคซีนโควิดชนิด mRNA กับกลุ่มอาสาสมัครจากสหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 4 หมื่นคน โดยเป็นกลุ่มเชื้อชาติ อายุ และอาชีพที่หลากหลาย ซึ่งในจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ 1 ล้านคน มีโอกาสพบผู้ที่แพ้วัคซีนอย่างรุนแรงเพียง 4.7 คนเท่านั้น และยังไม่พบผู้เสียชีวิตโดยตรงจากการแพ้วัคซีนในสหรัฐอเมริกา ส่วนบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ได้ทำการศึกษากับกลุ่มอาสาสมัครจากสหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 3 หมื่นคน จากกลุ่มเชื้อชาติ อายุ และอาชีพที่หลากหลาย ในจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนของโมเดอร์นา 1 ล้านคน มีโอกาสพบผู้ที่แพ้วัคซีนอย่างรุนแรงเพียง 2.5 คนเท่านั้น และยังไม่พบผู้เสียชีวิตโดยตรงจากการแพ้วัคซีนในสหรัฐอเมริกา
9. สำหรับทั้ง 2 วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNtech) และ บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA มาใช้ในการผลิตนั้นพบว่า คนส่วนใหญ่เจอผลข้างเคียงไม่ร้ายแรง เช่น ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด และผลต่อร่างกายโดยรวมอาจจะหนาวสั่น ปวดหัว อ่อนเพลีย (อัปเดทข้อมูล มีนาคม 2564)
1
10. สิ่งที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนเกี่ยวกับ วัคซีนชนิด mRNA คือ เรายังไม่ทราบว่าภูมิคุ้มกันจะอยู่ในร่างกายเรานานเพียงใด และยังไม่ทราบประสิทธิภาพในการยับยั้งการติดไวรัส ซึ่งคำตอบนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา (อัปเดทข้อมูล เมษายน 2564)
โฆษณา