โชเซ่ มูรินโญ่ สุดยอดโค้ชระดับโลก จะกลับสู่อิตาลีอีกครั้งด้วยการคุมโรม่า นี่คือทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อันดับ 1 ของวงการฟุตบอลอิตาเลียน ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำไมมูรินโญ่-โรม่า ถึงดูแมตช์กันเหลือเกิน วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
เหตุการณ์คลาสสิค เกี่ยวกับโชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่อิตาลี เกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2010
ณ เวลานั้น การแย่งแชมป์เซเรียอา ในซีซั่น 2009-10 เต็มไปด้วยความเข้มข้น อินเตอร์ มิลานของมูรินโญ่ กับ โรม่า ของเคลาดิโอ รานิเอรี่ กำลังไล่บี้กันแต้มต่อแต้ม ผ่านไปแล้ว 35 นัด อินเตอร์มี 73 แต้ม โรม่ามี 71 แต้ม
โปรแกรมที่เหลืออีก 3 นัดของโรม่าคือ
- เยือนปาร์ม่า (อันดับ 11)
- เหย้ากายารี่ (อันดับ 14)
- เยือนคิเอโว่ (อันดับ 16)
นี่เป็นสามทีมครึ่งล่างของตาราง ที่ฟอร์มแย่เอาการ ทำให้สื่อในอิตาลีฟันธงว่า โรม่าเก็บ 9 แต้มแน่
ส่วนโปรแกรมอีก 3 นัดของอินเตอร์ คือ เยือนลาซิโอ, เหย้าคิเอโว่ และ เยือนเซียน่า โดยคิเอโว่ไม่มีอะไรน่ากลัว ส่วนเซียน่าก็ตกชั้นไปแล้ว ทั้งคู่สู้อินเตอร์ไม่ได้แน่ ดังนั้นจึงเหลือเกมเดียวเท่านั้นที่แฟนโรม่าพอจะหวังให้ช่วยตัดแต้มได้ นั่นคือเกมเจอลาซิโอ ในนัดที่ 36
คือจะดีจะร้าย ลาซิโอก็เป็นทีมใหญ่ มีแฟนบอลมาเชียร์นัดละ 4-5 หมื่นคนทุกเกม ด้วยบรรยากาศที่กดดัน อาจทำให้อินเตอร์พลาดพลั้งได้เหมือนกัน
แล้วลาซิโอ ก็อยู่ในช่วงฟอร์มดีมาก 7 เกมหลังสุด แพ้นัดเดียว (ซึ่งก็คือแพ้โรม่า) แถมตัวผู้เล่นก็ไม่เลวนัก มีตัวดังๆอย่าง เมาโร ซาราเต้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, คริสเตียน บร็อคคี่ รวมๆ ถือว่าก็โอเค ดังนั้นว่ากันตรงๆ ฝั่งโรม่าก็ลุ้นได้อยู่ว่าลาซิโออาจทำเซอร์ไพรส์ขโมยแต้มจากอินเตอร์ได้
วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม 2010 โรม่าลงสนามเจอปาร์ม่าก่อน และเอาชนะไปได้ 2-1 ทำแต้มเพิ่มเป็น 74 แต้ม ส่วนอินเตอร์ มี 73 แต้มเท่าเดิม เพิ่มความกดดันให้อินเตอร์เป็นอย่างมาก
จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม ลาซิโอเปิดบ้านรับอินเตอร์ ทีมงูใหญ่จึงถูกบีบคั้นเพราะต้องชนะให้ได้สถานเดียว
ในเกมนั้นมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นคือ แฟนลาซิโอ "เชียร์ให้อินเตอร์บุกมาชนะทีมตัวเองได้ถึงบ้าน"
มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น อยู่ๆแฟนบอลจะแช่งชักให้ทีมตัวเองแพ้เนี่ยนะ แต่มันเกิดขึ้นจริง เหตุผลคือแช่งให้ลาซิโอแพ้อินเตอร์ไปเลย ยังจะดีกว่าแชมป์เซเรียอาต้องตกเป็นของโรม่าคู่ปรับร่วมเมือง
ที่สนามโอลิมปิโก้ โซนนอร์ธเคิร์ฟ แฟนบอลกลุ่มอุลตร้าทำป้ายแบนเนอร์ขนาดใหญ่เขียนว่า "MOURINHO UOMO VERO IN UN CALCIO FINTO" แปลว่า "มูรินโญ่ คุณคือคนจริงในโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยคนหลอกลวง" กล่าวสดุดีเฮดโค้ชของคู่แข่งซะงั้น
ในประวัติศาสตร์ เรานึกไม่ออกเลย ว่ามีสโมสรเจ้าบ้านทีมไหน จะชูป้ายยกย่องโค้ชฝ่ายตรงข้ามแบบนี้ ลองนึกภาพ แฟนอาร์เซน่อล ชูป้ายยกย่องว่า "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุณคือจอมแท็กติกแห่งโลกลูกหนัง" คือมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น จริงมั้ยล่ะ
เหตุผลที่ทำป้ายแบนเนอร์นี้ ข้อแรกคือแฟนๆลาซิโอ เชียร์มูรินโญ่เพื่อเป็นกำลังใจให้อินเตอร์โค่นลาซิโอให้ได้ (จะได้ทำแต้มแซงโรม่า) และอีกเหตุผลหนึ่ง คือแฟนลาซิโอเองก็ชื่นชมความสามารถของมูรินโญ่จริงๆนั่นแหละ เพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เพิ่งจะพาอินเตอร์โค่นบาร์เซโลน่าได้ในแชมเปี้ยนส์ลีก ทะลุเข้าชิงได้สำเร็จ
นอกจากนั้น พอเกมผ่านไปถึงช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก อินเตอร์ขึ้นนำ 1-0 จากวอลเตอร์ ซามูแอล เกิดภาพประหลาดขึ้น เมื่อแฟนอินเตอร์ก็เฮ แฟนลาซิโอก็เฮ ไปพร้อมๆกันด้วย แฟนลาซิโอกลุ่มหนึ่งชูป้ายแบนเนอร์ว่า OH NOOO ถ้าแปลเป็นไทยก็คือฟีลลิ่งประมาณว่า "ว้าาา แย่จังเลยนะ" เหมือนแบบแกล้งทำเสียใจ แต่ในใจลึกๆดีใจที่ลาซิโอโดนยิง
สุดท้ายจบอินเตอร์ บุกมาชนะ 2-0 ด้วยบรรยากาศชื่นมื่นของทั้งสองทีม อินเตอร์ก็ดีใจที่แซงโรม่ากลับเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง ฝั่งลาซิโอก็ดีใจที่โรม่าคู่ปรับสำคัญร่วงไปอยู่รองจ่าฝูง
หลังจบเกมนัดที่ 36 อีก 2 เกมที่เหลือ อินเตอร์ กับ โรม่า เก็บชัยได้รวดตามคาด ทำให้จบฤดูกาล อินเตอร์เป็นแชมป์ (82 คะแนน) โรม่าได้รองแชมป์ (80 คะแนน) คือถ้าเกมที่อินเตอร์เจอลาซิโอ แล้วลาซิโอพลิกชนะล่ะก็ ป่านนี้แชมป์ก็คงเป็นของโรม่าไปแล้ว
นี่เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนักในฟุตบอลระดับสูง ที่แฟนๆจะแช่งให้ทีมตัวเองแพ้ แต่มันก็เกิดขึ้น เพราะความปรารถนาที่อยากให้คู่ปรับตลอดกาลพลาดแชมป์ มันรุนแรงกว่าเยออออะ
ที่เรื่องนี้ถูกหยิบยกมาพูดกันอีกครั้ง เพราะโรม่า ประกาศแต่งตั้งโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ในซีซั่นหน้า ฝั่งแฟนโรม่าก็เลยได้ทีเยาะเย้ยแฟนลาซิโอว่า ไงล่ะ มูรินโญ่เป็น "คนจริง" อยู่อีกไหม ไม่ใช่ว่าอดีตเคยชม ตอนนี้จะกลับลำมาด่าหรอกนะ 555
สำหรับเรื่องของมูรินโญ่นั้น ถือเป็นข่าวเซอร์ไพรส์ที่สุดเมื่อวานนี้ เพราะเขาเพิ่งโดนสเปอร์สไล่ออกไม่ถึง 3 สัปดาห์ แป้บเดียวเท่านั้นก็ได้ทีมใหม่แล้ว และถือเป็นทีมใหญ่ด้วย
บรรยากาศที่โรม่าถือว่าบ้าคลั่งมาก เหตุผลเพราะก่อนหน้านี้ ทุกคนโดนหลอกให้เชื่อมาตลอดว่าโรม่าจะเซ็นเมาร์ซิโอ ซาร์รี่แน่ๆ แต่อยู่ๆก็พลิกเกม มาเซ็นมูรินโญ่แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
เคลาดิโอ อเมนโดล่า นักแสดงชื่อดัง แฟนพันธุ์แท้ของโรม่ากล่าวว่า "ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่รู้ความจริง เชื่อไหม ผมรู้สึกเหมือนวิกฤติโควิดมันสิ้นสุดลงแล้วอย่างนั้นแหละ! การได้มูรินโญ่เป็นยิ่งกว่าความฝัน หลังหมดยุคคาเปลโล่ เราฝันถึงโค้ชบิ๊กเนมมาตลอด เช่นลิปปี้ อันเชล็อตติ หรือกวาร์ดิโอล่า แต่สุดท้ายก็ผิดหวังตลอด ดังนั้นการได้มูรินโญ่ในคราวนี้ มันคือการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ คนอย่างมูรินโญ่ไม่เคยคุมทีมเล็ก ดังนั้นเขาต้องเห็นศักยภาพว่าโรม่าสามารถยกระดับไปสูงขึ้นกว่านี้ได้"
ถามว่าผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน เปาโล ฟอนเซก้า ผลงานแย่มากไหม คำตอบคือ ไม่น่าพอใจ สองซีซั่นผ่านไปโรม่ายังไปไม่ถึงโควต้าท็อปโฟร์
ในลีกผลงานก็แย่ โคปปาอิตาเลียแพ้ทีมรองบ่อนอย่างสเปเซียคาบ้าน 3-0 จากนั้นในยูโรป้าลีกโดนแมนฯยูไนเต็ดยิง 6-2 คือมืดมนไม่เห็นอนาคต ยังไงจบซีซั่นก็ไม่เก็บไว้แน่ๆ ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างแล้ว
กัซเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต รายงานว่าจริงๆโรม่า ก็จะเจรจากับซาร์รี่นั่นแหละ แต่พอมูรินโญ่โดนไล่ออกจากสเปอร์สปั๊บ ก็เห็นโอกาสดีทันที และเข้าไปเจรจา ก่อนจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ดีลกันได้สำเร็จ โดยคาดว่า มูรินโญ่ยอมรับค่าเหนื่อยน้อยกว่าที่ได้จากสเปอร์สครึ่งหนึ่ง
สำหรับโรม่ากับมูรินโญ่ถือว่าเป็นความ "แมตช์" กันอย่างพอดี เป็นการเจอกันในเวลาที่ลงตัวมากๆ
ในมุมของมูรินโญ่ เขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินอีกแล้ว เงินชดเชยที่ได้รับจากแมนฯยูไนเต็ด และ สเปอร์ส ใช้กี่ปีก็ไม่มีหมด สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือกอบกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมามากกว่า ดังนั้นจะได้เงินน้อยเขาก็ไม่สนใจ
สเปอร์สเป็นสโมสรแรก ในรอบ 20 ปีของการคุมทีม ที่เขาไม่ได้แชมป์อะไรเลย และโดนไล่ออกไปอย่างเจ็บช้ำ ดังนั้นถ้าเขาคัมแบ็กกลับมามีผลงานดี ได้ทันทีกับสโมสรใหม่ ก็จะพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า เหตุการณ์ที่สเปอร์ส เขาไม่ใช่ตัวปัญหา
มูรินโญ่มีความทรงจำดีๆที่อิตาลี ผู้คนเคารพและศรัทธาเขา ภาษาอิตาเลียนก็แม่นเป๊ะ พูดคล่องปรื๋อ นอกจากนั้นสไตล์ฟุตบอลแบบแท็กติกจ๋าๆ ยังดูเหมาะสมกับกัลโช่ เซเรียอา เป็นอย่างยิ่งด้วย
สื่ออิตาลีชี้ว่า ที่โรม่า มูรินโญ่จะได้ความสบายใจมากที่สุด นั่นเพราะตอนคุมเชลซี แมนฯยูไนเต็ด และสเปอร์ส เต็มไปด้วยความกดดัน เต็มไปด้วยความคาดหวัง ไม่มีเวลาให้เขาหายใจเพื่อสร้างทีมแบบเต็มๆ แต่ที่โรม่ากับสัญญา 3 ปี มูรินโญ่จะได้เวลาในการจูนทีมอย่างอิสระ ปัจจุบันทีมอยู่อันดับ 7 ขอแค่ไม่ต่ำไปกว่านี้ เจ้าของทีมก็รับได้
เมื่อมูรินโญ่ได้ใส่ความเป็นตัวเองเต็มๆ ได้ใช้นักเตะที่ต้องการ โดยไม่มีใครก้าวก่ายได้ มันอาจทำให้เขาปลดปล่อยพลังที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา
สำหรับในมุมของโรม่า ก็ถือว่านี่เป็นดีลสุดยอดเช่นกัน เพราะโรม่าก็แผ่วลงไปเยอะมากไม่ติดท็อปโฟร์มา 3 ปีแล้ว โค้ชแต่ละคนในช่วงหลัง ก็ไม่มีบารมีเลย
การได้โค้ชดีกรีแชมป์ยุโรป 2 สมัย แบบมูรินโญ่เข้ามา แน่นอนว่ามันช่วยสร้างความกระชุ่มกระชวยให้ทุกคนในสโมสร
ยิ่งไปกว่านั้น มูรินโญ่ ยังดึงดูดความสนใจจากทุกคนทั่วโลก กระแสข่าวในอิตาลี ตอนแรกอินเตอร์ มิลาน ยึดหน้าข่าวเอาไว้ ในฐานะแชมป์ลีกอยู่ดีๆ แต่ทันทีที่มูรินโญ่เปิดตัว ทุกคนไปพูดถึงโรม่ากันหมด
คนคุยกันว่ามูรินโญ่จะจัดแผนไหนให้โรม่า จะดึงสตาฟฟ์คนใดมาช่วยงานบ้าง มูรินโญ่จะไปซื้อบ้านอยู่ตรงไหนของเมือง มูรินโญ่ชอบขับรถอะไร มูรินโญ่จะพูดถึงทีมเก่าอินเตอร์ มิลานแบบไหน ฯลฯ
คือไม่มีใครคุยถึงแชมป์กัลโช่ครั้งล่าสุดอีกแล้ว ทุกคนคุยแต่มูรินโญ่อย่างเดียว ซึ่งสำหรับโรม่า นี่เป็นการชิงพื้นที่การตลาดที่สุดยอดมาก
ดูจาก 2 โพสต์ ที่โรม่าลงข่าวมูรินโญ่ในเฟซบุ๊กสโมสร คนกดไลค์ 64,000 กับ 72,000 ถ้าเทียบกับโพสต์ก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่มีคนกดไลค์ในระดับหลักพันเท่านั้น
อันเดรีย ดิ คาโร่ คอลัมนิสต์ชาวอิตาลี เขียนว่า การที่โรม่าอยู่อันดับ 7 จะไปโทษโค้ชฟอนเซก้าคนเดียวก็ไม่ได้ แต่นักเตะในทีม คุณภาพก็คงไม่ดีพอด้วย ดังนั้นถ้าจะโละยกเซ็ต ก็ต้องหาโค้ชที่เก่งจริงๆ ที่จะรู้ว่าควรเก็บใครไว้ แล้วควรขายใครออก ซึ่งถ้ามูรินโญ่เป็นคนตัดสินใจแฟนบอลย่อมรับได้แน่นอน
นอกจากนั้น ยังมีการพูดถึงความฝันของโรม่าด้วยว่า ภายใต้มูรินโญ่ อนาคตอาจไปดึงเอาฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กลับมาเป็นผู้อำนวยการกีฬา และจับเอาดานิเอเล่ เด รอสซี่ มาเรียนรู้งานโค้ช คือมีโค้ชระดับปรมาจารย์อยู่กับทีมแบบนี้ ยังไงก็คุ้ม
ดังนั้นถ้าดูในแว้บแรก ก็ต้องยอมรับว่า ดีลโรม่า กับ มูรินโญ่ เป็นอะไรที่เวิร์คมาก ดูเหมาะสมลงตัวจริงๆนั่นแหละ
ความยากของมูรินโญ่จากนี้ไปคือเรื่อง การสร้างทีม
กล่าวคือ แดน ฟรีดกิ้น เจ้าของสโมสร และ ติอาโก้ ปินโต้ ผู้อำนวยการกีฬา ยืนยันแล้วว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จะไม่มีเงินทุนมากพอที่จะซื้อบิ๊กเนมได้ ดังนั้นการซื้อตัว ต้องเต็มไปด้วยความรอบคอบ ด้วยเงินจำนวนจำกัด จำเป็นต้องเลือกผู้เล่นให้ดี และอาจต้องไปเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดีราคาถูก
แต่เอาจริงๆ ถามว่ายากไหม ก็อาจจะยาก แต่มันก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้มูรินโญ่ได้กลับไปสู่จุดเริ่มต้นของตัวเองตั้งแต่อยู่ปอร์โต้เลยก็ว่าได้
ในสมัยอยู่ปอร์โต้ มูรินโญ่ไม่ได้มีเงินเยอะแยะ แต่ใช้แมวมองที่เฉียบขาด ในการซื้อตัวนักเตะเพชรเม็ดงามจากทีมระดับกลางๆ มาร่วมทัพ คือใช้เงินน้อยมาก แต่ได้ตัวดีๆเพียบ
นักเตะอย่าง เปาโล แฟร์ไรร่า ซื้อในราคา 2 ล้านยูโร, โชเซ่ โบซิงวา 1 ล้านยูโร, นูโน่ วาเลนเต้ 5.5 แสนยูโร, แซร์โจ้ คอนไซเซา เซ็นฟรี นี่คือผลงานการเซ็นสัญญาตัวมาสเตอร์พีซของมูรินโญ่
จริงๆแล้วเขามีความสามารถมากๆ ที่จะมองหาเพชรแท้ที่ซ่อนอยู่ เพียงแต่หลังออกจากปอร์โต้ เขาก็อยู่ทีมใหญ่มาตลอด เชลซี อินเตอร์ มาดริด แมนฯยู ทีมเหล่านี้ต้องการซื้อบิ๊กเนม ราคาแพง มูรินโญ่เลยไม่มีโอกาสได้ใช้สายตา scout ตัวถูกๆ จากทีมกลางๆเท่าไหร่
นอกจากเรื่องเซนส์การซื้อตัวแล้ว มูรินโญ่ยัง "รู้ว่าควรจะเก็บใครไว้ในทีมด้วย"
ตอนเขามาคุมปอร์โต้ในปี 2002 นั้น เขารู้ทันทีว่าควรจะเก็บผู้เล่นอย่างเดโก้, คอสตินญ่า, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ วิคเตอร์ บาย่าเอาไว้ และนักเตะเซ็ตนี้แหละ เป็นคีย์แมนทำให้ปอร์โต้ได้แชมป์ยุโรปในปี 2004
การมาคุมโรม่า จึงตอบโจทย์เขาทีเดียว ในแง่การรื้อฟื้นศักยภาพที่แท้จริงที่เคยมี ของตัวเองออกมา ถ้าเขายังมีมันเก็บไว้อยู่จริงๆน่ะนะ
ปัจจุบัน มูรินโญ่อายุ 58 แล้ว และนี่จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสุดท้ายว่า เขาดีพอหรือไม่ กับฟุตบอลเลเวลสูงสุด ถ้าหากเขาทำทีมเละเทะ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง จุดนั้นก็ต้องยอมรับแล้วว่า หมดยุคของมูรินโญ่แล้วจริงๆ ต่อจากนี้ไป ก็คงต้องผันตัวไปทำงานในวงการสื่อมวลชน หรือไม่ก็ไปคุมทีมชาติโปรตุเกสเลย
แต่ถ้าเป็นในทางตรงข้าม ถ้าโรม่าทีมนี้ ทะยานคืนชีพขึ้นมาได้ล่ะก็ มูรินโญ่ก็จะประกาศศักดา และกลับมาสู่ความเป็น The Special One อีกครั้ง
#Mourinho
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
