7 พ.ค. 2021 เวลา 08:21 • ท่องเที่ยว
วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา
“วัดใหญ่ชัยมงคล” ถือว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดวัดหนึ่งของ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงเป็นหนึ่งในวัดที่เราตั้งใจจะไปชมทุกครั้งเมื่อมีโอกาสไปเยือนเมืองประวัติศาสตร์อยุธยา
วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อ "วัดป่าแก้ว" หรือ "วัดเจ้าไท" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร ปัจจุบันเป็นพื้นที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่
ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชัยมงคล” พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2544 อีกด้วย
ประวัติในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา
ข้อมูลประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้นรัชสมัยของ “สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1” หรืออีกพระนามหนึ่งคือ “สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง” พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา
ตามตำนานกล่าวว่า … เมื่อครั้ง พ.ศ. 1900 “สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง” ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ขุดศพ “เจ้าแก้ว” และ “เจ้าไท” ซึ่งทิวงคตด้วยอหิวาตกโรคขึ้นมาเผา ที่ปลงศพนั้นโปรดให้สถาปนาเป็นพระอาราม นามว่า “วัดป่าแก้ว”
ต่อมาคณะสงฆ์สำนักวัดป่าแก้วที่ได้บวชเรียนมาจากสำนักรัตนมหาเถระในประเทศศรีลังกา คณะสงฆ์นี้ได้เป็นที่เคารพเลื่อมใสแก่ชาวกรุงศรีอยุธยาเป็นอันมาก ทำให้ผู้คนต่างมาบวชเรียนในสำนักสงฆ์คณะป่าแก้วมากขึ้น
สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง จึงทรงตั้งอธิบดีสงฆ์นิกายนี้เป็น “สมเด็จพระวันรัตน์” มีตำแหน่งเป็น “พระสังฆราชฝ่ายขวา” คู่กับ “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่ายคันถธุระ
กาลต่อมาเป็นที่พำนักของพระภิกษุคณะป่าแก้ว ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธานสงฆ์ จึงได้ชื่อว่า “วัดเจ้าพระยาไทยคณะป่าแก้ว”
“วัดป่าแก้ว” หรือ “วัดเจ้าไท” ต้องร้างลงเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2309 เมื่อพม่าได้ยกพลมาประชิดพระนครศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ
กองทัพหงสาวดีบางส่วนได้ยึดเอาวัดป่าแก้วเป็นฐานปฏิบัติการในการเข้าตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกใน พ.ศ. 2310 วัดแห่งนี้จึงได้ร้างลง
จุดท่องเที่ยวสำคัญ วัดใหญ่ชัยมงคล
"พระเจดีย์ชัยมงคล" ...ในแผ่นดินของ “พระนเรศวรมหาราช” มีเหตุการณ์สำคัญที่ชวนให้เข้าใจว่ามีการสร้างปฏิสังขรณ์เจดีย์ประธานวัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศของพระองค์ที่ได้ชัยชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า จึงทำให้เชื่อว่าเป็นที่มาของชื่อ “วัดใหญ่ชัยมงคล”
“เจดีย์ชัยมงคล” อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ทรงรบชนะ “มังกะยอชวา” พระมหาอุปราชของหงษาวดี ที่ต.หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี … ในครั้งนั้นพม่าได้ยกทัพเข้ามาในขอบขันฑสีมา “สมเด็จพระนเรศวรฯ” และ “สมเด็จพระเอกาทศรถ” ผู้เป็นพระอนุชาจึงได้นำทัพไปรับศึก และได้ขับช้างเข้าไปอยู่ในวงล้อมของข้าศึกทีคอยระดมยิงปืนเข้าใส่พระองค์และพระคชาธาร โดยที่เหล่าแม่ทัพนายกองวิ่งตามพะรองค์มาไม่ทัน
พระองค์จึงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า “พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่าเชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีกษัตริย์ที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว” … พระอุปราชของพม่าจึงไสยช้างออกมากระยุทธถีด้วยกันในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้พระแสงพลผ่ายฟาดฟันพระอุปราชขาดตะพายแล่ง
เมื่อกลับมาสู่พระนครแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษเหล่าทหารที่ตามพระไปไม่ทันตอนกระทำศึกยุทธหัตถี ซึ่งมากฏระะเบียบแล้วต้องโทษถึงขึ้นประหารชีวิต ..
.. ช่วงเวลาที่รออาญาสมเด็จพระพันรัตน พระสังฆราชพร้อมด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวรพระราชทานอภัยยกเว้นโทษให้กับทหารเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่า .. พระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้ เป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ให้ขจรกระจายไปทั่วแคว้นทั่วแผ่นดิน
สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีต่อเหล่าทหารเหล่านั้น และพระะราชทานนามว่า “เจดีย์ชัยมงคล” ในปี พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็นเจดีย์ ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจนทุกวันนี้
เจดีย์ชัยมงคล .. เป็นเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่ แต่ไม่มีบัลลังก์รองรับปล้องไฉนและปลี เจดีย์แห่งนี้เป็นที่บรรจุชัยมงคลคาถาหรือพาหุงมหากา เป็นบทสรรเสริญชัยชนะของพระพุทธองค์ 8 ประการด้วยกัน
องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานทักษิณสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 32.40 เมตร สูง 15 เมตร และมีเจดีย์ทิศตั้งอยู่สี่มุม สูงองค์ละ 12 เมตร ถัดจากฐานจะเป็นฐานแปดเหลี่ยมจนถึงองค์ระฆัง ซึ่งรวมความสูงองค์เจดีย์จากฐานถึงยอดได้ 62.10 เมตร บริเวณฐานทิศตะวันออกและทิศตะวันตกถูกลักลอบขุดค้นเข้าไปถึงแกนกลางพระเจดีย์ ทำให้องค์พระเจดีย์เกิดความเอียงไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อย
จากการสำรวจด้านใน โดยกรมศิลปากร พบมีพระเจดีย์องค์เดิมอยู่ด้านใน ซึ่งถูกสร้างก่อหุ้มไว้ และยังพบกรุกระดานหินชนวน สำรวจแล้วพบแต่หัวกะโหลกลิง 1 หัวเท่านั้น ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าพระเจดีย์ประธานนี้ เดิมสร้างเจดีย์ขนาดเล็กก่อน ครั้นพอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทำการก่อหุ้มสร้างเสริมพระเจดีย์ให้สูงใหญ่ขึ้นเช่นทุกวันนี้
รอบฐานเจดีย์มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประจำอยู่ 4 ทิศ
กลุ่มพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่บูรณะขึ้นใหม่จากความเสียหายในอดีต ... เรียงรายอยู่รอบๆองค์เจดีย์ประธาน และแนวกำแพงระเบียงคดรอบเจดีย์
ภาพทิวทัศน์ด้านหลังขององค์พระเจดีย์
พระอุโบสถ ... พระอุโบสถ เดิมสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เคยเป็นสถานที่ซึ่ง “ขุนพิเรนทรเทพ” (สมเด็จพระมหาธรรมราชา พระบิดาสมเด็จพระนเรศวร) และคณะ ได้มาทำการ เสี่ยงเทียนอธิษฐาน เพื่อเป็นนิมิตหมายในการไปปราบ “ขุนวรวงค์ษา” และ “ท้าวศรีสุดาจันทร์” หลังจากทำการสำเร็จ ได้อัญเชิญ “พระเฑียรราชา” ลาผนวชจากวัดราชประดิษฐาน ขึ้นครองราชสมบัติทรงพระนามว่า “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” พ.ศ. ๒๑๐๔ ในรัชกาลของ“สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” นั้นเอง ได้มีพระบรมราชโองการให้เอาสังฆราชวัดป่าแก้วไปสำเร็จโทษ ฐานฝักใฝ่ให้ฤกษ์ยามแก่ฝ่ายกบฎ “พระศรีศิลป์” พ.ศ. ๒๑๓๕
ภายในพระอุโบสถมี “พระพุทธชัยมงคล” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นพระประธาน สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง .. เป็นพระพุทธรูปซึ่งมีลักษณะเด่นจากที่อื่น คือปั้นด้วยหินทรายตลอดทั้งองค์ ส่วนที่เป็นจีวรถูกลงรักปิดทองประดับแก้ว ส่วนที่ไม่ใช่จีวรนั้นว่างเว้นเห็นเป็นเนื้อหินทรายที่สวยงาม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ลักษณะเป็นปางมารวิชัย หรือปางสะดุ้งมาร
พระพุทธไสยาสน์ ... พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ สร้างขึ้นในรัชสมัย สมเด็จพระนเรศวร เพื่อใช้เป็นที่สักการะบูชา และปฏิบัติพระกรรมฐาน ปัจจุบันวิหารจะผุพังไปตามกาลเวลาเหลือเพียงผนังและเสาบัวกลุ่ม
พระพุทธไสยาสน์ .. เป็นพระพุทธรูปสีขาวห่มคลุมด้วยจีวรตลอดทั้งร่าง ประดิษฐานอยู่บนพื้นที่เดิมของพระวิหารเก่าในอดีต เป็นปางทรงพักผ่อนพระอิริยาบถ เพราะทรงลืมพระเนตร พระเศียรหนุนหมอน และไม่มีหมอนรองใต้พระกัจฉะ (รักแร้) นับเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในวัดใหญ่ชัยมงคลที่สื่อถึงการพักผ่อน เพราะองค์อื่นๆ อยู่ในปางมารวิชัยซึ่งแสดงพุทธประวัติช่วงที่พระพุทธองค์ทรงมีชัยชนะเหนือมาร
“วัดใหญ่ชัยมงคล” ถือว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายยุคสมัย และเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมามาก ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในพระนครศรีอยุธยา ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามากราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณ รอบๆ ยังมีมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วย
Ref : Wikipedia
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ พี่สุ
ท่องเที่ยวทั่วโลก กับพี่สุ
ซีรีย์เที่ยวเจาะลึก ประเทศนอร์เวย์
Iceland ดินแดนแห่งน้ำแข็งและเปลวไฟ
Lifestyle & อาหารการกิน แบบพี่สุ
สถานีความสุข by Supawan
โฆษณา