นกยังบินอพยพย้ายถิ่นได้ คนก็ควรจะย้ายถิ่นฐานได้เช่นกัน ฝรั่งก็ฝันอยากเปลี่ยนไปอยู่ไทยเหมือนกันแหละ
ที่มา https://pixabay.com/images/id-4903412/
จากกระแสความ "อยากเปลี่ยนประเทศ" ที่กำลังฮือฮาเป็นดราม่ากันอยู่ตอนนี้ ซึ่งฉันเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่า ดราม่ามันเริ่มมาจากอะไรตั้งแต่เมื่อไหร่
ฉัน เป็นคนหนึ่งที่เคยเปลี่ยนประเทศมา 15 เกือบ ๆ 16 ปี และได้รับสัญชาติใหม่เป็นคนออสซี่เต็มตัวมา 13 ปีเต็มแล้ว
การเปลี่ยนประเทศไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องรังเกียจหรือไม่รักบ้านเดิมของเราเสมอไป ลองเลื่อนไปอ่านท้ายบทความ จะเห็นได้ว่า ฉันเปลี่ยนบ้านมาแล้วหลายแห่ง ตามเหตุปัจจัย ตามความจำเป็น
ตอนแรกฉันเกิดที่กรุงเทพฯ เป็นชาวกรุงมาแต่กำเนิด แต่ก็ต้องย้ายออกไปอยู่กับยายและลุงป้าที่บ้านต่างจังหวัด ตัวคุณยายของฉันเองก็เป็นชาวกรุงมาแต่กำเนิดเช่นกัน ทั้งตาและยายเป็นหนุ่มสาวชาวทุ่งบางกะปิ แต่วันนึงก็ตัดสินใจย้ายออกไปหาที่หาทางลงหลักปักฐานที่ฉะเชิงเทรา
ฉันอยู่ที่ฉะเชิงเทราจนถึง 9 ขวบ ก่อนจะย้ายกลับไปเป็นชาวกรุง เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมในกรุงเทพฯ เพราะแม่เห็นว่า เรียนโรงเรียนในกรุงเทพฯ น่าจะดีกว่าโรงเรียนที่ต่างจังหวัด เพื่อนในชั้นเรียนเดียวกับฉันก็มีมาจากต่างจังหวัดกันหลายคน ทั้งเหนือ อีสาน ใต้ แทบครบทุกภาค
จบมัธยม ฉันก็ย้ายตัวเองออกไปอยู่ขอนแก่น ไปอยู่บ้านเลขที่ 123 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นบ้านเลขที่ที่ทางมหาวิทยาลัยบังคับให้นักศึกษาใหม่ทุกคนต้องย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่นั่น
ระหว่างเรียนอยู่ที่ขอนแก่น ฉันก็มีความผูกพันกับที่นั่นมาก จนบางครั้งยังคิดว่าตัวเองนี่ บอร์น ทู บี สาวอีสานแน่ ๆ ทั้งบรรยากาศ อาหารการกิน และหน้าตาของฉันที่ไปไหนก็มีแต่คนเว้าอีสานใส่ ไม่มีใครเอะใจว่าจริง ๆ แล้วฉันเป็นเด็กกรุงเทพฯ
ตั้งใจว่าเรียนจบจะลงหลักปักฐานที่ขอนแก่นซะเลย ที่อยู่ก็มี งานก็มี เพื่อนก็มี ชีวิตช่างสมบูรณ์อยู่ที่นั่น แต่เกือบลืมไปว่า ฉันยังมียาย ลุงป้า พ่อแม่ ที่อยู่กรุงเทพฯ และฉะเชิงเทรา ในที่สุดก็ตัดสินใจย้ายกลับเพราะความคิดถึงครอบครัว
กลับอยู่บ้านและทำงานที่กรุงเทพฯ วันหยุดก็ไปอยู่บ้านฉะเชิงเทรา อยู่ได้สักพักดั้นไปมี ผ. ฝรั่ง ตอนแรกก็อยู่ที่ไทยกัน แต่สุดท้าย ฉันเองนี่แหละที่เป็นคนจับมือสามีแล้วบอกว่า ยู ๆ เราเปลี่ยนประเทศกันเถอะ
เหตุผลหลัก เหตุผลเดียว ที่ทำให้ฉันเปลี่ยนประเทศ คือ หาโรงเรียนให้ลูก
โรงเรียนที่ออสเตรเลียที่พาลูกไปเรียน
ฉัน ปรารถนาให้ลูกได้เข้าเรียนในโรงเรียนทางเลือก ในสไตล์วอลดอร์ฟ ซึ่งในกรุงเทพฯ โรงเรียนอยู่ห่างบ้านจนไม่สามารถเดินทางได้ทุกวัน ถ้าไปเข้าโรงเรียนนั้น ฉันก็ต้องย้ายบ้านอีกชัวร์ !!!
อีกเหตุผลคือ เรื่องเงิน ต้องยอมรับว่าค่าเล่าเรียนของโรงเรียนนั้นสูงเกินฐานะ ก็เลยไปส่องค่าเล่าเรียนของโรงเรียนแบบเดียวกันในออสเตรเลีย เอ้ย !!! เท่ากันเลยอ่ะ แต่ถ้าเราเอาลูกไปเข้าโรงเรียนที่ออสเตรเลีย เรายังจะได้ทำงานรับเงินดอลล่าร์ แต่ถ้าอยู่ไทย เรายังได้เป็นเงินบาทเหมือนเดิม คำนวนใส่สแควรูทยกกำลังอยู่หลายรอบก่อนตัดสินใจย้าย
ขนาดเมื่อไปอยู่ออสเตรเลียแล้ว ฉันก็ยังย้ายบ้านย้ายเมืองอีก เพราะเมืองที่ไปอยู่ครั้งแรกยังไกลจากโรงเรียนของลูก เมื่อตัดสินใจได้แน่นอนแล้วว่าลูกจะเข้าเรียนที่ไหน ฉันก็ไปซื้อบ้านแถว ๆ ใกล้ ๆ กับโรงเรียน
และแม้จะไปอยู่ออสเตรเลียแล้ว ฉันยังเลี้ยงลูกแบบไทย กินอาหารไทย และลูกก็พูดไทยด้วย เราคุยกันอยู่ตลอดเลยว่า ลูกจบ ม. 6 เมื่อไหร่ เราจะย้ายกลับไทยกัน
ในระหว่างที่ฉันอยู่ที่ออสเตรเลีย บอกเลยว่า มีแต่คนอิจฉา อิจฉาที่ฉันมาจากประเทศที่สวยงามน่าอยู่เหลือเกิน และหลาย ๆ คนก็ใฝ่ฝันที่จะได้ไปเที่ยวไปอยู่ แม้จะเป็นในบั้นปลายของชีวิตแล้วก็ยังดี
ในขณะที่ฉันอยู่ออสเตรเลียนี้ มีฝรั่งที่ฉันรู้จักหลายคนที่ย้ายไปอยู่ไทยเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีอีกหลายคนที่ได้แต่ฝันหวาน ตื่นก็เพ้อไป เพราะปัจจัยและโอกาสที่ยังไม่สามารถทำตามฝันได้
และมีเพื่อนฝรั่งอีกไม่น้อยที่ย้ายจากอังกฤษ ไปอยู่ออสเตรเลีย ทั้ง ๆ ที่ค่าแรงต่ำกว่า แต่เหตุผลของพวกเขาคือ ฉันต้องการแดด อังกฤษไม่มีแดดให้ฉันเลย ว่าซั่น
ชายหาดออสเตรเลีย ที่มา https://pixabay.com/images/id-787067/
ส่วนเหตุผลที่ได้ฟังจากฝรั่งว่า ทำไมเขาอยากไปอยู่ไทย เขาบอกว่า เมืองไทยสวยมากกกกกกกกก อาหารอร่อยที่ซู้ดดดดดดดดดดด คนไทยใจดี มีน้ำใจ อารมณ์ดี ไม่หน้าดำคร่ำเครียดเหมือนคนบ้านเขา
จะให้วกเข้าการเมืองสักนิดก็ได้นะ ในช่วงเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อนชาวอเมริกันของฉันหลาย ๆ คนก็บ่นอยากหอบผ้าหนีข้ามประเทศเช่นกัน เพื่อนคนไทยก็อ้าแขนรับบอก มา ๆ อยู่กับทรัมป์ไม่ได้ก็มาอยู่กับลุงด้วยกัน 😆
หรือตอนที่ออสเตรเลียเกิดไฟป่า แดงไปทั้งแผ่นดิน มีใครอยากเปลี่ยนเข้าบ้างมั้ย มีแต่คนอยากเปลี่ยนออก
ในความเห็นของฉัน ผู้ที่ย้ายมาแล้วหลายจังหวัด ย้ายประเทศแล้ว และมีสิทธิ์ที่จะย้ายต่อไปอยู่ได้ทั้งนิวซีแลนด์ หรืออังกฤษก็ได้ หรือจะไปยุโรป อเมริกา แคนาดา ก็ทำได้ไม่ยาก แต่สุดท้ายในบั้นปลาย ฉันคิดว่าฉันรักที่จะกลับไปตายที่ไทยมากที่สุด
การเปลี่ยนประเทศไม่ได้หมายความว่าหญ้าเพื่อนบ้านจะเขียวกว่าหญ้าบ้านเราเสมอไป แต่มันอาจจะหมายถึงฉันแพ้หญ้าที่บ้านก็ได้ สรุปแบบหักมุมเลย ฉันแพ้หญ้าออสเตรเลียค่ะ เรียกว่าเป็น Hay Fever เป็นแบบหนักและทรมานมากกกกกกกก เป็นมา 6 ปีแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง สำหรับฉันตอนนี้ หญ้าที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่หญ้าออสเตรเลีย แต่ในเมื่อยังไปไหนไม่ได้ ก็ต้องทนแพ้หญ้าไปก่อน
นกบินอพยพย้ายถิ่นฐานเพราะต้องการแสวงหาความอบอุ่น เช่นไร คนเราก็อยากย้ายถิ่นฐานเพราะต้องการแสวงหาความอบอุ่นเช่นกัน แต่เป็นความอบอุ่นมั่นคงทางจิตใจ แม้ว่าอากาศภายนอกจะหนาวเหน็บเพียงใดก็ตาม
บ้านที่ฉันอยู่ตอนนี้
พูดถึงนกอพยพย้ายถิ่น ก็นึกถึงเพลงเพราะ ๆ ของพี่เบิร์ด ก่อนจากไปเราไปฟังเพลงของนกย้ายบ้านกันเพลิน ๆ ดีกว่าค่ะ https://youtu.be/382Fv03roGs
# ผู้เขียน
เกิดกรุงเทพ เติบโตริมคลองแสนแสบที่ฉะเชิงเทรา จบการศึกษาจากขอนแก่น แล้วกลับไปทำงานที่กรุงเทพ ปัจจุบันอยู่บ้านเล็ก ๆ ในป่ากัมที่ประเทศออสเตรเลีย
เรียนและรักษ์ภาษาไทย ชอบออกไปดู ไปดม ไปชมโลก ด้วยความหลงใหลแล้วนำกลับมาเล่า
ฝากผลงาน E-book เที่ยวเมลเบิร์นด้วยตัวเองไปกับรถรางสาย 35
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
