11 พ.ค. 2021 เวลา 07:05 • คริปโทเคอร์เรนซี
วันนี้เรามี 3 คำสั่งที่หลายๆคนอาจจะคุ้ยเคยหรือเจอกันบ่อยๆ เช่น Limit Order, Stop-Limit Order หรือ Market Order วันนี้ลองมาดูกันคร่าวๆว่าแต่ล่ะตัวทำอะไรได้บ้าง เริ่มจากตัวแรกกันเลย
1.Limit Order
คำสั่งนี้หลายๆคนคงคุ้นเคยกันดี อาจจะเคยใช้กันอยู่เป็นประจำ ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คือการกำหนดราคาเพื่อเข้าซื้อขายนั้นแหละ จะแบ่งแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ
Buy Limit และ Sell Limit
Buy Limit — การตั้งราคาซื้อไว้ล่วงหน้า ซึ่งเราจะตั้งซื้อราคาที่ต่ำกว่าที่ตลาดปัจจุบันกำลังเป็นอยู่ หาราคาล่วงลงมาจนถึงจุดราคาที่ราคาที่เราตั้งไว้ ออเดอร์จะทำการซื้อให้อัตโนมัติทันที หลายๆคนอาจจะใช้วิธีดูแนวรับเป็นหลัก แล้วแบ่งไม้เพื่อเข้าซื้อ เพราะถ้าให้นั่งดูกราฟทั้งวันเพื่อรอเข้าซื้ออาจจะไม่ไหว
Sell Limit — การตั้งราคาขายไว้ล่วงหน้า เราจะตั้งในราคาที่สูงกว่าปัจจุบัน เมื่อเราตั้งออเดอร์แล้วหากราคามาจนถึงจุดที่เราตั้งไว้ ออเดอร์จะทำการขายโดยอัตโนมัติ โดยราคาการขายเราอาจจะใช้แนวต้านในการดูเป็นหลักว่าควรขายที่เท่าไหร่ การขายเราสามารถตั้งได้ด้วยว่าจะขายกี่เปอร์เซนต์ ไม่ต้องขายทั้งหมดก็ได้แล้วแต่การวางแผน
2. Stop-Limit Order
การกำหนดราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า จริงๆแล้วอาจจะดูขายคำสั่ง Limit Order แต่จริงๆแล้วมีข้อแตกต่างกันอยู่ มี 2 ประเภทเหมือนกัน นั้นคือ Stop-Limit Buy และ Stop-Limit Sell
Stop-Limit Buy ออเดอร์จะทำการซื้อเมื่อกราฟทะลุราคาเดิมมาเป็นครั้งที่สอง อธิบายง่ายๆคือ ถ้าหากราคามาชนที่เส้น Buy Limit ครั้งแรกจะยังไม่มีการซื้อเกิดขึ้น แต่ถ้าหาก ราคามีการมาชนเส้นครั้งที่สอง ออเดอร์ที่ตั้งไว้จะทำงานทันที
Stop-Limit Sell ออเดอร์จะยังไม่ทำการขายหากลงมาแตะเส้นครั้งแรก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาขึ้นและลงมาที่เดิมราคาที่เราตั้งไว้อีกรอบ ออเดอร์จะทำการขายทันที
3.Market Order
คำสั่งนี้หลายคนอาจจะคุ้ยเคยกันดี ถ้าให้อธิบายง่ายๆก็คือการซื้อราคาตลาด ณ ปัจจุบันในตอนนั้นทันที โดยที่ไม่ต้องราคาอะไรเลยสามารถซื้อและขายได้ทันที หากกดดูออเดอร์ย้อนหลังอาจจะได้ราคาเฉลี่ยนหลายราคา เพราะใน 1 นาที กราฟอาจจะขึ้นลงและมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนของแต่ล่ะคน ว่าจะใช้คำสั่งไหนในช่วงเวลาแบบไหน การเทรดที่ดีคือการที่เรามีแผนรองรับเสมอทั้งตลาดขาขึ้น และขาลง สุดท้ายแล้วขอให้ทุกคนโชคดีในการเทรดนะคะ
โฆษณา