12 พ.ค. 2021 เวลา 22:00 • ปรัชญา
“สักแต่ว่ารู้”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔
เราต้องฝึกทำใจให้รับรู้เฉยๆ เพราะนี่คือธรรมชาติของใจ ที่จะทำให้ใจไม่เดือดร้อน ทำให้ใจไม่ทุกข์ ไม่วุ่นวายกับเรื่องราวต่างๆ คือ “สักแต่ว่ารู้” เท่านั้นเอง
สักแต่ว่ารู้เฉยๆ อย่าไปรู้แล้ววิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่รับรู้ แล้วก็เกิดความอยากตามมา เช่น รับรู้แล้ววิพากษ์วิจารณ์ว่า ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ก็จะเกิดความอยากให้เป็นอย่างนั้นหรือเป็นอย่างนี้ขึ้นมา  ก็จะเกิดความวุ่นวายใจขึ้นมา เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจขึ้นมา
ปัญหาของใจก็คือ “การรับรู้เฉยๆ” คือการปล่อยวาง รับรู้แล้วปล่อยวาง เห็นแล้วก็ปล่อยวาง ได้ยินแล้วก็ปล่อยวาง สิ่งที่เกิดเขาเกิดแล้วเขาก็ผ่านไป สิ่งที่ดับเขาดับแล้วก็ผ่านไป แต่ผู้รับรู้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ผู้รับรู้คือใจไม่มีวันดับ ไม่มีวันตาย แต่มีวันสุขหรือวันทุกข์
วันสุขคือวันที่ใจปล่อยวาง ใจไม่มีความอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ วันทุกข์คือวันที่ใจเกิดความอยากขึ้นมา อยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ พอไม่ได้ดังที่ใจอยาก ก็จะเกิดความทุกข์ใจขึ้นมา
ดังนั้น ถ้าเราอยากจะมีแต่วันสุข ไม่มีวันทุกข์ เราต้องสอนใจให้รู้เฉยๆ ไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าดีหรือไม่ดี เขาจะดีก็เป็นเรื่องของเขา เขาจะไม่ดีก็เป็นเรื่องของเขา เขาไม่มีวันที่จะทำร้ายเราได้ เขาไม่มีวันที่จะทำให้เราดีขึ้นมาได้ เขาไม่มีวันที่จะทำให้เราเลวลงไปได้
สิ่งที่จะทำให้เราเลวหรือดีขึ้นไป คืออยู่ที่ตัวของเราเอง อยู่ที่ว่าเราหยุดความวิพากษ์วิจารณ์ได้หรือเปล่า หยุดความอยากได้หรือเปล่า ถ้าเราหยุดได้ เราจะดีเราจะสบาย ถ้าเราหยุดไม่ได้เราจะทุกข์เราก็จะวุ่นวายใจ
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา