15 พ.ค. 2021 เวลา 05:00 • กีฬา
[ BALL THAI RISING STARS : ดาวรุ่งบอลไทย ]
นี่คือเนื้อหาสาระที่ 'Cheerball' จะพาคุณไปรู้จักกับ 'ดาวรุ่ง' ของวงการฟุตบอลไทย ทั่วฟ้าราชอาณาจักร วันนี้เป็นหนึ่งในกองกลางที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ และน่าเสียดายที่เขาไม่มีชื่อในทัพช้างศึกขบวนล่าสุด แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวจะรู้สึกเช่นไรนั้น เราไปพบกับเรื่องราวของเขาเลย... กฤษดา กาแมน !!
ดาวรุ่งบอลไทย : กฤษดา กาแมน
อายุ: 22
ภูมิลำเนา : ตราด
ตำแหน่ง: กองกลาง
สโมสร: ชลบุรี เอฟซี
แม้ว่าทุกวันนี้ ชลบุรี เอฟซี จะห่างไกลสู่วันวานเฉกเช่นปี 2007 ที่ได้แชมป์อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมสถาปนาตัวเองเป็น 'ต้นแบบ' ของฟุตบอลไทย อย่างแท้จริง
ทว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นมาเสมอคือการให้โอกาสกับบรรดาผู้เล่น 'ดาวรุ่ง' ในทุกๆ ฤดูกาลแฟนฟุตบอลจะได้เห็นนักเตะวัยรุ่นลงสนามในอาภรณ์ฉลามชล
หากย้อนกลับไป ชื่อของ พิภพ อ่อนโม้, สุรีย์-สุรัตน์ สุขะ, สินทวีชัย หทัยรัตน์กุล, อดุลย์ หละโสะ, เอกพันธ์ อินทะเสน, ชลทิตย์ จันทคาม, ณัฐพงศ์ สมณะ, นูรูล ศรียานเก็ม หรือกัปตันทีมคนปัจจุบัน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจ์ คือผลิตผลที่มาจากอะคาเดมี่ของสโมสร
คนที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือ กฤษดา กาแมน ดาวรุ่งที่เติบโตมาจากระบบเยาวชนของ ชลบุรี ตั้งแต่เล็ก
เขาย้ายภูมิลำเนาจากจังหวัดตราด อันเป็นบ้านเกิดแล้วเดินตามความฝันด้วยการเข้ามาเป็นหนึ่งในเยาวชนของ ชลบุรี
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งตอนที่เจ้าตัวเล่นมาตลอดตอนยังอยู่ในระดับมัธยมศึกษานั้นคือ...กองหลัง
ภายใต้ชื่อโรงเรียน ท่าข้ามพิทยาคม กฤษดา พาทีมกวาดถ้วยรางวัลมาแล้วมากมาย ส่วนตนเองก็ได้การยอมรับจากเพื่อนร่วมรุ่นว่า 'เก่งเกินวัย' จนก้าวไปติดทีมชาติไทย ชุดเล็กทุกชุด ไม่ว่าจะเป็น ยู-16, ยู-19, ยู-21 และ ยู-23
แน่นอนว่าฝีเท้าที่พัฒนาอย่างรุดหน้า กฤษดา จึงได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ชลบุรี ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น
วันเวลาผ่านไป ประสบการณ์ของ กฤษดา เพิ่มพูน เขาค่อยๆ เก็บเกี่ยววิชาจนกลายเป็นแกนหลักของ ชลบุรี แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งกองหลังเหมือนเคย ทว่าการถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับนั้นช่วยให้หมอนี่เจิดจรัสชัดกว่าเดิม
ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนเงียบขรึม นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขามีสมาธิกับฟุตบอลแบบเพียวๆ เมื่อบวกกับทัศนคติทั้งในและนอกสนามที่เรียนรู้จากรุ่นพี่ในทีม มันยิ่งส่งเสริมให้ฝีเท้าของ กฤษดา ก้าวไปไกลกว่าใครเพื่อน
ที่สำคัญ ทุกวันนี้ หมอนี่มีคุณพ่อคอยดูแลอย่างเข้มงวด และเขาก็เชื่อฟังบิดาของตนเองอย่างไม่ขัดเขิน นั่นแหละเป็นเหตุผลที่ กฤษดา นำหน้าเพื่อนรุ่นเดียวกันที่บางครั้งพอเจอกับแสงสีหรือชื่อเสียงจนเป็นเหตุให้หลงทางไปก่อนจะประสบความสำเร็จ
ผลแห่งความเพียรพยายามของ กฤษดา ไม่ได้เพิ่งมาส่งผลในเกมที่ช่วยปิดเกมรุกขอคู่แข่งเสียอยู่หมัด เขาแสดงให้เห็นมาตลอดว่าเป็นฟันเฟือนสำคัญที่ ชลบุรี จะขาดเสียมิได้
สไตล์การเล่นที่พูดน้อย เล่นหนัก แถมยังเปี่ยมไปด้วยพละกำลังที่ล้นเหลือ ทำให้ไม่ว่าโค้ชคนใดได้ร่วมงานย่อมชื่นชอบผู้เล่นอย่างเขา
"กฤษดา เป็นนักเตะที่มุ่งมั่นและทำงานอย่างเต็มที่จนตอนนี้กลายเป็นตัวหลักในตำแหน่งแดนกลางของทีม แถมยังเพิ่มเติมความหลากหลายด้วยการยิงไกล รวมไปถึงฟรีคิกที่เฉียบคมมากขึ้น"
"ตอนนี้ผมคงพูดได้ว่า กฤษดา มีพัฒนาการที่ดีและสลัดการเป็นดาวรุ่งออกไปได้แล้ว"
นี่คือคำพูดของ สะสม พบประเสริฐ กุนซือ ชลบุรี เอฟซี ที่กล่าวยกย่อง กฤษดา ไว้ในซีซั่น 2020-21
หลายๆ เกมที่มิดฟิลด์วัย 22 ปี ช่วยชะลอเกมรุกของคู่แข่งไว้ก่อนจะไปถึงปลายทางในแดนหลัง จนได้รับใบเหลืองไปถึง 10 ใบ ในฤดูกาลล่าสุด ทำให้ถูกแบนอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขากังวล เพราะมันคือหน้าที่ที่ตนเองต้องทำ
"โดยรวมแล้ว ผมยังไม่พอใจเท่าไหร่กับผลงานของตัวเองในปีที่ผ่านมา (2020-21) ยังมีอีกหลายจุดต้องพัฒนา ผมอยากช่วยทีมให้ทำผลงานให้ดีกว่านี้"
"ทว่าปีหน้าผมมองว่า ชลบุรี จะดีขึ้น เพราะนักเตะอายุน้อยในทีมหลายคนเริ่มมีประสบการณ์ ตัวผมเองก็เช่นกันอยากให้สโมสรประสบความสำเร็จ" กองกลางชาวตราด เอื้อนเอ่ย
แฟนๆ อาจะจะไม่เห็นความโดดเด่นของเขาในสนาม แต่เราบอกได้เลยว่า กฤษดา นี่แหละ จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตแดนกลางทีมชาติไทย ในอนาคต
น่าเสียดายที่ อากิระ นิชิโนะ ไม่เรียก กฤษดา เข้ามาร่วมทีมชาติชุดลุยฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
แต่เจ้าตัวรับได้กับเรื่องนี้ "ผมเข้าใจในทุกมุมในเหตุและผล ในมุมของผมเอง ผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางนั้นเต็มไปด้วยนักเตะที่เก่งกาจมากๆ ทั้งรุ่นพี่และรุ่นใกล้เคียงกันกับผม"
"คุณเป็นนักฟุตบอล คุณย่อมต้องการติดทีมชาติแหละ แต่ในเมื่อไม่มีชื่อเรา เราก็ต้องกลับไปแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองยังไม่ดีพอ ต้องกลับไปพัฒนาความสามารถของตัวเองต่อไปให้ดีในสโมสรและสร้างมาตรฐานการเล่นที่สม่ำเสมอให้ได้"
"ผมไม่เสียใจนะที่หลุดจากลิสต์รายชื่อ 47 คนที่ประกาศออกมา"
แม้ว่า กฤษดา จะยังไม่ได้รับโอกาสในทีมชุดนี้ แต่ด้วยวัยเพียง 22 ปี หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล หากยังมีทัศนคติในทิศบวกและไม่หลงระเริงกับแสงสี
เชื่อเถิดว่าอนาคตของเขาจะเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติไทย อย่างแน่นอน
 
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา