ความขัดแย้งอาจนำไปสู่สงครามระหว่างอิสราเอล - ปาเลสไตน์
การปะทะกันล่าสุดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส อาจทำให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบและผลักดันตะวันออกกลางเข้าสู่ความรุนแรงครั้งใหม่
ความขัดแย้งที่คุกรุ่นระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซายิงจรวดมากกว่า 1,000 ลูกเข้าสู่ดินแดนของอิสราเอลและกองทัพของอิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศกลับเพื่อเป็นการตอบโต้
การโจมตีของอิสราเอล บริเวณฉนวนกาซา 📷 Reuters
ต้นตอของการปะทะไม่ได้เริ่มต้นในฉนวนกาซา แต่เป็นเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งอิสราเอลควบคุม โดยก่อนหน้านี้ศาลสูงอิสราเอลวางแผนเนรเทศครอบครัวชาวปาเลสไตน์ 7 ครอบครัวที่อาศัยอยู่หลายสิบปีออกจากกำแพงโบราณ
แผนการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ในเยรูซาเล็มตะวันออก เป็นการปูทางไปสู่การตั้งถิ่นฐานของชาวยิว
เรื่องนี้ได้สร้างความโกรธแค้นและเกิดการต่อต้านการปราบปรามของตำรวจอิสราเอล มีชาวปาเลสไตน์ราว 600 คนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันในกรุงเยรูซาเล็มตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.
พื้นที่ที่ความขัดแย้งเกิดขึ้นบริเวณที่เรียกว่า "ฮารัมอัล - ชารีฟ" ซึ่งมีภูเขาเทมเพิล ที่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ภาพทหารอิสราเอล บริเวณใกล้ฉนวนกาซา 📷 dw.com
การปะทะกันที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและการเมือง ในกรุงเยรูซาเล็ม เกิดขึ้นตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา และในนาทีนี้ดูเหมือนว่ากำลังสุ่มเสี่ยงต่อการเริ่มสงครามเต็มรูปแบบ
กลุ่มกองกำลังฮามาส ได้เปิดฉากเริ่มต้นความขัดแย้งด้วยการยิงจรวดหลายชุดไปยังเยรูซาเล็ม
เทลอาวีฟและเมืองอื่น ๆ ของอิสราเอลใกล้ฉนวนกาซา
ทางกองทัพอิสราเอล (IDF) จึงตอบโต้ด้วยการใช้กำลังโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
โดย Benny Gantz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ได้ออกมาประกาศ โจมตีเป้าหมายที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจนกว่า "สถานการณ์จะสงบเรียบร้อย"
มุมมองของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ผ่านมามองว่า การยึดครองเวสต์แบงก์และการปิดล้อมฉนวนกาซาจะไม่ส่งผลร้ายแรงต่อความมั่นคงของอิสราเอล และโน้มน้าวชาวอิสราเอลว่าพวกเขามีความปลอดภัย
ท่าทีของเนทันยาฮู ได้รับการสนับสนุนสหรัฐและประเทศในยุโรป เนื่องจากในขณะที่อิสราเอลเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมเวสต์แบงก์
รัฐอาหรับในภูมิภาคก็ยกระดับความสัมพันธ์กับอิสราเอล เพื่อผลประโยชน์ต่างตอบแทน รวมถึงเพื่อคานอิทธิพลของอิหร่าน.
📷 Nbcnews
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทำข้อตกลงระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) บาห์เรน ซูดานและโมร็อกโก ในข้อตกลงอับราฮัมมิก เพื่อการปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติ
โดยทรัมป์มองว่า.. เป็นก้าวสำคัญในการยุติสงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีมานานหลายหลายทศวรรษ
แต่สำหรับชาวปาเลสไตน์ พวกเขามองว่าข้อตกลงนี้ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาอะไร ภาพของการก่อจลาจลของชาวอาหรับในเมืองต่างๆของอิสราเอลจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ความไม่สงบในเยรูซาเล็ม หลังอิสราเอลเพิ่มการยึดครองและสร้างการตั้งถิ่นฐานของชาวยิว บังคับให้ชาวปาเลสไตน์ต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกันในภูมิภาค
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับเพื่อนบ้านและโลกมุสลิม
การประท้วงได้ก่อหวอดปะทุขึ้นตั้งแต่ตุรกีไปจนถึงจอร์แดน รวมถึงเมืองที่ชาวอาหรับอาศัยอยู่ในอิสราเอลเพื่อประท้วงการปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์
ก้าวต่อไปของอิสราเอลน่าเป็นห่วง เพราะทางกองทัพอิสราเอลหรือ IDF ประกาศ..
เตรียมแผนบุกภาคพื้นดินในฉนวนกาซาเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มฮามาสโจมตีด้วยจรวด
"ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า.. การบรรลุสันติภาพเป็นเรื่องยาก
ที่ผ่านมา ในปี 2014 ทั้งคู่เคยก่อสงครามกาซา
7 สัปดาห์ สงครามครั้งนั้นได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์กว่า 2,000 คนและชาวอิสราเอล 73 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหาร
ความเสี่ยงของสงครามกาซา พร้อมเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีนับจากนี้เป็นต้น
ชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งพูดว่า..
"พระเจ้า พระองค์อยู่กับเรา"
นาทีนี้ สาระอัปเดต อยากพูดต่อว่า
"ขอให้พระเจ้า ช่วยปกป้องชาวปาเลสไตน์ด้วย"
เชื่อว่า.. คงไม่มีใครอยากเห็นภาพๆนี้
"สงคราม "
บทความโดย
สาระอัปเดต
@SaraUpdate
14 May 2021
- 60
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
