สรุปเหตุการณ์เด่น ในรอบสัปดาห์นี้
ระหว่างวันที่ 11-15 พ.ค. 2564
1️⃣
ไบเดนเตรียมใช้มาตรการเพิ่มเติม หลังท่อส่งน้ำมันโคโลเนียลถูกโจมตีทางไซเบอร์
ปธน.ไบเดนเปิดเผยที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า “กระทรวงพลังงานสหรัฐกำลังประสานงานโดยตรงกับบริษัทโคโลเนียล เพื่อให้ท่อส่งน้ำมันต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างเต็มรูปแบบโดยเร็วและปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทางด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ได้ระบุอย่างชัดเจนแล้วว่า เครือข่ายท่อส่งน้ำมันของโคโลเนียลถูกโจมตีด้วย ransomware หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ และแน่นอนว่านั่นคือการอาชญากรรม”
เตรียมใช้มาตรการเพิ่มเติม โดยจะขึ้นอยู่กับว่าทางบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ จะสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้เต็มศักยภาพได้รวดเร็วเพียงใด คณะบริหารของผมจะติดตามความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์โจมตีด้วย ransomware ทั่วโลกของเหล่าอาชญากรข้ามชาติที่มักจะใช้เครือข่ายการฟอกเงินทั่วโลกเหล่านี้ในการก่อเหตุ
ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณ 2.5 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 45% ของปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล, น้ำมันเบนซิน และเชื้อเพลิงอากาศยานในฝั่งตะวันออกของสหรัฐ แต่ระบบขนส่งน้ำมันของบริษัทต้องหยุดชะงักลงตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของกลุ่มอาชญากรที่มีชื่อว่า ดาร์กไซด์ (DarkSide) ซึ่งจะปฏิบัติการเลียนแบบตัวละครโรบินฮู้ดด้วยการขโมยเงินจากบริษัทต่างๆ และแบ่งให้กับองค์กรการกุศล โดยกลุ่มดาร์กไซด์เป็นหนึ่งในอาชญากรที่เชี่ยวชาญในการใช้ ransomware หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ซึ่งเคยถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีชาติตะวันตก รวมมูลค่าความเสียหายหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
2️⃣
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนเม.ย. พุ่งทุบสถิติรอบเกือบ 12 ปี และยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือนเมษายน พบว่า เมื่อเทียบเป็นอัตรารายปี ดัชนี CPI มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.2% นับเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมีนาคมก่อนหน้า
ขณะเดียวกันหากไม่นับรวมสินค้าในหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบเป็นอัตรารายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.3% ขณะที่เมื่อเทียบเป็นอัตรารายปี ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.3%
นักวิเคราะห์มองว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนี CPI รายเดือนมีสาเหตุจากการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนการเพิ่มขึ้นของดัชนี CPI ในสัดส่วนรายปีมีสาเหตุจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในเดือนเมษายน 2020 ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ปรับตัวลดฮวบ เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ราคาน้ำมันในสหรัฐฯ ขยับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาดคม 2014 โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยต่อแกลลอนอยู่ที่ 3.008 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ที่ระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 และคลังน้ำมันดิบสำรองสหรัฐฯ ลดลง 400,000 บาร์เรลต่อวัน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งมองว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อในขณะนี้เป็นเพียงการปรับตัวเพิ่มขึ้นชั่วคราวเท่านั้น โดยชี้ให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นภายใต้การกำกับดูแลอย่างดถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังขยายตัว
3️⃣
สหรัฐฯ เตรียมถอด Xiaomi ออกจากบัญชีดำ โดยทั้งสองฝ่ายต่างตกลงที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน และจะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ
สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เตรียมถอด Xiaomi บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำสัญชาติจีน ออกจากบัญชีดำ โดยทั้งสองฝ่ายต่างตกลงที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน และจะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ เพิ่มเติม นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ถือเป็นการยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง Xiaomi กับสหรัฐฯ
ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของอดีตรัฐบาลที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพจีนโดยอ้างเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ ทำให้บริษัทและนักลงทุนสหรัฐฯ ไม่สามารถทำธุรกิจหรือลงทุนกับบริษัทจีนที่มีชื่อในบัญชีดำได้ ซึ่ง Xiaomi ก็เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ถูกขึ้นบัญชีดำ
Xiaomi ได้โต้ตอบการขึ้นบัญชีดำของสหรัฐฯ ด้วยการยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นประชาธิปไตย ก่อนยืนกรานปฏิเสธหนักแน่นถึงความสัมพันธ์กับกองทัพจีน
อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ศาลสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้มีคำสั่งถอดชื่อ Xiaomi จากบัญชีดำเป็นการชั่วคราว เนื่องจากไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหา
ด้านโฆษกหญิงของ Xiaomi กล่าวว่า ทางบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ผลลัพธ์ที่ถือเป็นชัยชนะของ Xiaomi ทำให้บริษัทเอกชนจีนอื่นๆ ที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ต่างพิจารณาที่จะยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ เหมือนเช่นที่ Xiaomi ทำ
นอกจากนี้ หัวชุนอิ๋ง (Hua Chunying) โฆษกหญิงแห่งกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนที่มีต่อธุรกิจจีน เพื่อให้บรรยากาศทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็นไปอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
ส่วน Chen Fengying หนึ่งในทีมวิจัยของสถาบัน China Institutes of Contemporary International Relations แสดงความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนแนวทางและจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของเอกชนสหรัฐฯ
4️⃣
จีนออกกฏใหม่คุม Tesla ห้ามให้มีการถ่ายโอนข้อมูลการจราจรบนท้องถนน และห้ามถ่ายโอนตำแหน่งที่ตั้งของยานพาหนะ
สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน เผยแพร่ร่างกฏระเบียบใหม่ที่ห้ามให้มีการถ่ายโอนข้อมูลการจราจรบนท้องถนนในจีน ที่ไม่ผ่านการอนุมัติและห้ามถ่ายโอนตำแหน่งที่ตั้งของยานพาหนะ ตลอดจนภาพและข้อมูลอื่นๆที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ในกล้องและเซนเซอร์ติดรถยนต์ ซึ่งข้อห้ามล่าสุดนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถยนต์อัจฉริยะขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั้งคันของบริษัทเทสลา และค่ายรถยนต์อื่นๆ
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา “นายเทา หลิน” รองประธานฝ่ายกิจการภายนอกของเทสลาในจีน เปิดเผยว่า ในฐานะที่เทสลาเป็นบริษัทดำเนินกิจการในจีน บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของจีน โดยต้องรวบรวมข้อมูลจากรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในจีนเก็บไว้ในประเทศจีนอย่างปลอดภัย เพื่อบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวและความมั่นคงของจีนไปยังสหรัฐ
ข้อมูลจากรถยนต์อัจฉริยะของเทสลาในอนาคตทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์
กฏระเบียบใหม่ของจีนเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีขึ้นหลังจากทางการจีนประกาศห้ามข้าราชการใช้รถเทสลา เพราะกังวลว่าจะถูกเก็บข้อมูลส่งไปสหรัฐ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลามีฟีเจอร์กล้องที่สามารถบันทึกภาพได้หลายทิศทาง ทำให้เกิดความกังวลด้านความมั่นคงของจีน ส่งผลให้กองทัพจีนจำกัดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในฝั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐและทหาร
สื่อจีนรายงานว่า เกือบครึ่งของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในปี 2563 เป็นรถยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยในจีน ผู้ขับรถยนต์สามารถเปิดหน้าต่าง ปรับอุณหภูมิภายในหรือสั่งการให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือวิดีโอทำงานโดยใช้เทคโนโลยีจดจำเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ขณะที่การติดตั้งกล้องและระบบเซนเซอร์ ระบบอัตโนมัติภายในรถยนต์เป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้รัฐบาลจีนออกร่างกฏระเบียบออกมาบริหารจัดการกับข้อมูลที่เข้มงวดมากขึ้น และที่ผ่านมา สื่อจีนก็เคยรายงานว่าเทสลา ที่ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในจีนต้องสงสัยว่าถ่ายโอนข้อมูลของจีนไปให้สหรัฐ
5️⃣
แสนสิริ ทุ่มเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ถือหุ้นใหญ่ใน XSpring รุกธุรกิจเงินดิจิทัล
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเข้าลงทุนในบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG หรือ XSpring เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งในสัดส่วน 15% ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท
โดย XSpring เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เชื่อมโลกการเงินปัจจุบันกับโลกการเงินดิจิทัลหรือ Digital Financial Service เข้าไว้ด้วยกันรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย
แสนสิริเห็นโอกาสและเทรนด์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจการเงินดิจิทัลทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก จึงได้เข้าลงทุนใน XSpring บริษัทการเงินครบวงจรที่กำลังจะนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาเชื่อมโลกการเงินปัจจุบันและโลกอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเปลี่ยนโลกธุรกิจการเงินด้วยการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ที่ทำทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโลกการเงินและการลงทุนอย่างสะดวกและง่ายดายด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูง
ซึ่งการรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ รวมถึงธุรกิจทางด้านการเงินสำหรับดิจิทัลอีโคโนมีหรือ Digital Financial Service ของ แสนสิริ จะเพิ่มโอกาสการเติบโตของรายได้จากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ตลอดจนเพิ่มความแข็งแรงทางการเงินและการดำเนินธุรกิจของแสนสิริที่ดีอยู่แล้วให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า แสนสิริมั่นใจในวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเห็นโอกาสการเติบโตของ XSpring ทั้งจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนปัจจุบันและธุรกิจการเงินดิจิทัลที่เป็นการลงทุนที่มีโอกาสการเติบโตสูงและจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศได้อีกมากในอนาคต
6️⃣
ยานสำรวจไร้มนุษย์ของจีนลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารสำเร็จ เป็นชาติที่ 2 รองจากสหรัฐที่จอดบนดาวแดงได้
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ยานอวกาศเทียนเวิ่น-1 จอดบนที่ราบยูโทเปียใต้บนดาวอังคาร ทำให้จีนฝากรอยเท้าไว้บนดาวอังคารได้เป็นครั้งแรก
ไชน่าสเปซนิวส์ของทางการจีนเผยรายละเอียดว่า ยานอวกาศออกจากวงโคจรที่จอดอยู่ราว 8.00 น.เช้านี้ตามเวลากรุงปักกิ่ง จากนั้น 3 ชั่วโมงต่อมายานจอดแยกตัวแล้วเข้าสู่บรรยากาศของดาวอังคาร
“ภารกิจเดินทางสำรวจดาวอังคารประสบความสำเร็จทั้งหมด” จางเค่อเจี่ยน ผู้อำนวยการองค์การฯ ประกาศ ณ ศูนย์ควบคุมการบินและอวกาศปักกิ่ง “นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการเดินทางสำรวจอวกาศของจีน”
องค์การฯ ประกาศว่ายานอวกาศเทียนเวิ่น-1 ลงจอดบนพื้นที่ลงจอดที่ถูกคัดเลือกล่วงหน้า บริเวณตอนใต้ของยูโทเปีย พลานิเทีย (Utopia Planitia) ที่ราบขนาดมหึมาทางซีกเหนือของดาวอังคาร เมื่อ 07.18 น. ของวันเสาร์ (15 พฤษภาคม) ตามเวลาปักกิ่ง
เจ้าหน้าที่ภาคพื้นฝ่ายควบคุมใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ถึงจะยืนยันความสำเร็จของการลงจอด โดยต้องรอยานสำรวจพื้นผิวกางแผงโซลาร์และเสาอากาศอัตโนมัติเพื่อส่งสัญญาณหลังลงจอด ซึ่งมีความเหลื่อมของเวลามากกว่า 17 นาที เพราะระยะห่าง 320 ล้านกิโลเมตรระหว่างโลก-ดาวอังคาร
กระบวนการจอดประกอบด้วย “9 นาทีแห่งความน่าสะพึงกลัว” ขณะยานจอดค่อยๆ ลดระดับ ตอนนี้ยานสำรวจพลังงานแสงอาทิตย์นาม “จูร่ง” กำลังสำรวจพื้นที่จอดก่อนแยกตัวจากแพลตฟอร์มไปสำรวจดาวอังคารต่อไป
ยานจูร่งซึ่งตั้งชื่อตามเทพแห่งไฟ มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ 6 ชิ้น รวมถึงกล้องถ่ายภาพภูมิประเทศความคมชัดสูง 1 ตัว ยานจะศึกษาดินพื้นผิวและบรรยากาศดาวอังคาร เพื่อหาสัญญาณชีวิตในอดีต รวมถึงน้ำใต้ดิน น้ำแข็ง โดยใช้เครื่องมือหยั่งความลึกด้วยสัญญาณเรดาร์
ที่มา
ฝากติดตามเพจ Cashury - เพจความรู้พื้นฐานด้านการเงินการลงทุน
ติดตาม Cashury ผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ที่
🔸 Facebook Page: https://www.facebook.com/Cashury.th
🔸 Instagram: https://www.instagram.com/cashury.th
🔸 YouTube Channel: https://www.youtube.com/channel/UCcSjJmowF-WDflD-1s13b0g
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
