15 พ.ค. 2021 เวลา 14:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⛔️[WARNING]⛔️ คำเตือน ! นักลงทุนทุกท่านระวังตัวให้ดี ! ฟองสบู่หุ้น Tesla กำลังจะแตกแล้ว ! กราฟราคาหุ้น Tesla กับกราฟ ฟองสบู่ เหมือนกันแบบเป๊ะๆ !
1
ราคาหุ้น Tesla พุ่งขึ้นมาเกือบ 10 เท่าในปีที่ผ่านมาจนเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ที่กำลังจะแตกแล้ว หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุด -30% ภายในเวลา 4 เดือน (จากเกือบ 900 เหรียญวันนี้ลดลงมาต่ำกว่า 600 เหรียญแล้ว) หากนำไปเทียบกับรูปแบบกราฟของฟองสบู่ทั่วไปจะเห็นได้ว่าราคาหุ้น Tesla กำลังล้อกับรูปแบบนั้นเป๊ะๆ
ราคาหุ้น Tesla ที่ลงมาอย่างรวดเร็วในเดือนกุมพาพันธ์และดีดขึ้นไปใหม่ได้ไม่นาน ทำให้ราคาหุ้น Tesla ได้ผ่านจุด "Return to Normal" หรือจุดที่ทุกคนคิดว่าราคาหุ้นได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานราคาหุ้นก็กำลังโดนเทขายหนักอีกครั้ง และทำให้หุ้นเข้ามาอยู่ในจุดที่เรียกว่า "Fear" หรือจุดที่คนกำลังกลัวและฟองสบู่กำลังจะแตกจริงๆ (ตามกราฟที่แนบเลย)
2
และจากรูปแบบกราฟฟองสบู่นั้น จะเห็นได้ว่าอีกไม่นานราคาหุ้นก็จะร่วงดิ่งเหมือนฟองสบู่แตกจริงๆ และราคาหุ้นก็จะหล่นไปเหลือ 100 เหรียญตามที่ Michael Burry ได้ทำนายไว้
3
#นั้นก็เป็นสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ครับ... และนักลงทุนควรต้องระวังจริงๆ
1
แต่วันนี้แอดจะมาชี้ให้เห็นว่าทำไมหุ้น Tesla ถึงไม่ได้เป็นฟองสบู่ และทำไมกราฟฟองสบู่นี้ถึงนำมาเทียบกับหุ้น Tesla ไม่ได้ แม้ว่าความเคลื่อนไหวของราคาจะล้อกันมาอย่างกับคู่ฝาแฝดก็ตาม
1
1️⃣ แอดเชื่อว่าเรากำลังอยู่ในจุดระหว่าง "First Sell off" กับ "Bear Trap" แรกมากกว่า
หากเราดูกราฟราคาของ Tesla ที่ถูกนำมาเทียบนั้น การเทขายครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2020 นั้นไม่ได้มาจากการเทขายของ Smart Money (นักลงทุนรายใหญ่) หรือ Institutional Investors (ลงทุนสถาบัน) เลย !
การเทขายในเดือนมีนาคมปี 2020 นั้นมาจากไวรัสโควิดระบาดต่างหากที่ทำให้หุ้น Tesla โดนเทขายเหมือนกับหุ้นทุกๆตัวบนโลกนี้ แต่หุ้น Tesla ดีดกลับมาได้แรงกว่าหุ้นอื่นๆและดีดขึ้นมาบวกกว่า 10 เท่า เพราะว่าจริงๆแล้วหุ้นกำลังอยู่ในจุดที่เรียกว่า "Take off" หรือจังหวะที่ Smart Money และ Institutional Investors กำลังเข้ามาซื้อมากกว่า
2
2️⃣ การเทขายครั้งนี้มาจาก First Sell Off ของ Smart Money และ Institutional Investors ที่เข้ามาลงทุนไว้นานแล้วมากกว่า
ถ้าใครติดตามข่าวและเห็นว่ากองทุนอย่าง Baillie Gifford และ Baron Capital Management กำลังเทขายหุ้น Tesla ออกและเข้าใจว่าพวกเขามองว่าหุ้น Tesla จะหมดอนาคตแล้วก็คงคิดผิดครับ
ถ้าพวกเขาคิดว่าหุ้น Tesla จะเป็นฟองสบู่จริงๆพวกเขาคงขายออกไปหมดพอร์ตแล้วแน่นอน จะถือเหลือไว้ทำไม ?
1
แต่ที่พวกเขาต้องขายออกไปนั้นเพราะพวกเขาเป็น "Early Investors" หรือ Smart Money ที่ได้ลงทุนในหุ้น Tesla มานานแล้ว
1
เมื่อพวกเขาได้กำไรหุ้น Tesla มา x10 หรือ x100 เท่า พวกเขาก็ต้องขายหุ้นออกทำกำไรเป็นธรรมดา และวันนี้พวกเขาก็นำเงินไปลงทุนในหุ้นใหม่ๆที่พวกเราหลายคนยังไม่รู้จักแทน และนี่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นเป็นประจำในระยะ "First Sell Off" ตามในกราฟเลย
1
รายงานที่กลุ่มคนพวกนี้ขายหุ้นนั้นเป็นรายงานย้อนหลังในไตรมาสก่อนๆที่ราคาหุ้นขึ้นไปสูงมากแล้ว เชื่อว่าเมื่อรายงานของไตรมาสที่ 2 (หรือตอนนี้) จะเห็นได้ว่ากองทุนเหล่านี้จะกลับมาเพิ่มสัดส่วนของหุ้น Tesla ใหม่อย่างแน่นอน
2
3️⃣ การเติบโตของบริษัท Tesla เป็นแบบ Exponential หรือแบบยกกำลัง ไม่ได้เติบโตเป็นเส้นตรงตามในรูปแบบกราฟ เพราะนั้นคือเส้นของการเติบโตแบบสินทรัพย์ปกติ
หากใครยังไม่รู้จักแผนธุรกิจของ Tesla ก็คงคิดยังไม่รู้ว่าธุรกิจของ Tesla นั้นกำลังเติบโตเช่นไร หากจะวาดภาพคร่าวๆให้ฟังคือ ในปีต่างๆที่ผ่านมา Tesla ผลิตรถยนต์ได้ปีละ
- ปี 2017 ผลิตได้ 100,757 คัน
- ปี 2018 ผลิตได้ 254,530 คัน
- ปี 2019 ผลิตได้ 365,232 คัน
- ปี 2020 ผลิตได้ 509,737 คัน
- ไตรมาส 1 ปี 2021 ผลิตได้ 180,000 คัน (x4 = ปีนี้น่าจะผลิตได้ 720,000 คัน)
แปลว่าภายในเวลา 4 ปี Tesla สามารถผลิตรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น 7 เท่า ! ไหนใครลองหาไม่บรรทัดมาแล้วลองลากเส้นตรงให้ผ่านจุดการเติบโตของ Tesla ในแต่ละปีได้ไหมครับ ?
ถ้าใครสามารถลากเส้นผ่านได้นั้นจะหมายความว่า Tesla คงเติบโตเป็นเส้นตรงจริงๆ และราคาหุ้นก็อาจจะเป็นฟองสบู่ตามกราฟก็เป็นได้ (แต่ใครที่สามารถลากได้ฝาก Inbox มาบอกด้วยนะครับ แอดจะได้ขอซื้อต่อไม้บรรทัดวิเศษนั้น)
1
นอกจากนั้นจริงๆแล้วปีนี้ทาง Tesla ตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์ให้ได้ 1 ล้านคัน เพราะกำลังจะมีโรงงานเปิดใหม่ที่ Berlin และ Texas ! ถ้าทำได้จริงแปลว่า Tesla จะเติบโต 10 เท่าภายในเวลา 4 ปี !
และนี่ยังไม่รวมแผนที่ Elon Musk ตั้งเป้าที่พยายามจะผลิตรถยนต์ให้ได้ 20 ล้านคันภายในปี 2030 หรือจะทำให้การผลิต Tesla โตขึ้น 20 เท่าภายในอีก 9 ปีข้างหน้าจากวันนี้ การเติบโตแบบนี้เรียกว่าเป็นเส้นตรงได้หรือ ?
และที่สำคัญที่สุดที่ยังไม่รวมถึงธุรกิจพลังงานของ Tesla ที่กำลังจะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกด้วยเช่นเดียวกัน
4️⃣ หากหุ้น Tesla จะเป็นฟองสบู่จริงๆ แปลว่า "Public" หรือนักลงทุนรายย่อยต่างๆคงต้องเข้าไปลงทุนในหุ้นนี้กันเยอะแล้ว ถึงจะเรียกว่าเป็นฟองสบู่ได้
วันนี้ถึงแม้ราคาหุ้น Tesla จะขึ้นมาแล้ว 10 เท่าภายในปีเดียว แต่คุณลองถามคนรอบข้างคุณดูเองซิครับ ว่ามีใครได้เข้าซื้อหุ้น Tesla กันบ้างแล้วหรือยัง ? หากคุณหาได้เกิน 5 คนก็ต้องยกนิ้วให้เลยว่าเก่งมากๆ 👍
เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกเรายังไม่มีใครซื้อหุ้น Tesla กันเลยด้วยซ้ำ ! ที่ราคาขึ้นไปนั้นส่วนมากเป็นพวกเหล่ากองทุนที่รุมกันเข้าซื้อ ไม่ใช่เหล่ารายย่อยมากมายขนาดนั้นจริงๆอย่างที่เราคิด (ส่วนมากยังมาจากเหล่ากองทุนที่ Short Sell ไว้ต้องมา Short cover อีก)
2
คนส่วนใหญ่ตอนนี้ยังคิดว่าหุ้น Tesla แพงไปและยังไม่มีใครเชื่อในบริษัท Tesla จริงๆ หากคุณไม่เชื่อก็ลองอ่านในคอมเม้นท์โพสต์นี้เลยก็ได้ว่า #ทุกวันนี้มีคนที่เกลียดหุ้น Tesla มากน้อยแค่ไหน นั้นก็เป็นเพราะสื่อต่างชาติพยายามประโคมข่าวให้คนไม่ชอบ Tesla
จะให้ไปชอบเขาได้ยังไงหล่ะ ก็ในเมื่อธุรกิจของ Tesla กำลังจะทำให้ธุรกิจอีกหลายร้อยต้องล้มละลายไป ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรถยนต์ ธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจไฟฟ้า ส่วนมากแล้ว Tesla พยายามจะทำทุกธุรกิจในห่วงโซ่นี้ด้วยตัวเอง ! ทำให้ใครๆก็ไม่ชอบและยังไม่เชื่อใน Tesla
1
หากเมื่อไหร่ที่คนรอบๆข้างตัวผมใครๆก็ซื้อ Tesla กันเต็มไปหมด #วันนั้นเองผมถึงจะเริ่มกลัว
1
5️⃣ จริงอยู่ราคา Tesla ยังมี P/E Ratio ที่สูงมาก ราคาหุ้นระยะสั้นอาจลงได้ต่อ ทำให้การ DCA หรือการทยอยซื้อสะสมจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
จริงๆแล้วที่หุ้น Tesla P/E สูงมากนั้นก็เพราะ Tesla เพิ่งกลับมาทำกำไรได้ปีแรกในปีที่แล้วเอง และทาง Tesla กำลังลงทุนขยายธุรกิจแบบบ้าคลั่ง (ต้องการโตปีละเกือบเท่าตัว) ทำให้สัดส่วนกำไรในทุกวันนี้ยังคงน้อยอยู่
แต่ถ้าใครติดตาม P/E Ratio ของหุ้น Tesla อย่างใกล้ชิดจะเห็นได้ว่ามันกำลังลดลงอย่างรวดเร็วนะครับ เพราะกำไรใหม่ๆที่คำนวนเข้ามากำลังจะทำให้สัดส่วนต่อราคาหุ้นดูดีขึ้นเรื่อยๆ
3
แต่แน่นอนว่าด้วย P/E ที่สูงขนาดนี้ย่อมจะทำให้มีเหล่านักลงทุนหลายคนจ้องที่เข้ามา Short Sell หุ้น Tesla #ทำให้ในระยะสั้นนั้นราคาอาจจะลงไปถึงจุดไหนก็ได้ ทำให้ถ้าใครไม่มั่นใจก็สามารถที่จะใช้วิธี Dollar Cost Average (DCA) ในการเก็บหุ้นไปก็ได้
⛔️ #นี่ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ⛔️
แต่สุดท้ายนี้แอดอยากจะบอกว่า แอดไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรส่วนตัวกับ Elon Musk และก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนอะไรทั้งสิ้น
แต่ด้วยการที่แอดศึกษาหุ้น Tesla มานาน ตั้งแต่ราคายังไม่ขึ้นมาแรงๆเลยด้วยซ้ำ (ใครที่ติดตามเพจมานานจะรู้ดี) ทำให้แอดจึงอยากมาแชร์ข้อมูลที่แอดเห็นว่ามีประโยชน์แก่ #คนไทยเรา ทุกคนนั้นเอง และไม่อยากให้ทุกคนปิดตัวเองในการพยายามศึกษาหุ้นที่ทุกคนต่างเรียกว่า "ฟองสบู่"
📌 "ความเสี่ยงที่สูงที่สุดของหุ้น Tesla คือการไม่สามารถขยายกำลังการผลิตได้ตามเป้า แต่ความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นเราใน 10 ปีข้างหน้าคือการไม่มีหุ้น Tesla เลย"
หากคุณยังไม่เข้าใจหุ้น Tesla ทางเราได้ตั้งกลุ่ม #LINE ที่รวมนักลงทุน Tesla ในไทยเข้ามาไว้ด้วยกัน เพื่อที่เราจะได้ติดตามและแลกเปลี่ยนข่าวสารบนหุ้น Tesla กันอย่างใกล้ชิด
นักลงทุนท่านใดสนใจมาเข้าร่วมกลุ่ม LINE กับเราจะได้เข้าใจธุรกิจของ Tesla ก็สามารถแชร์โพสต์เรื่อง Tesla จากเพจเรา 3 โพสต์แล้วส่ง Inbox - Screenshot รูปที่แชร์ทั้งหมดเข้ามาทาง Facebook พร้อมกับบอกว่าอยากเข้ากลุ่ม "Tesla " เดี๋ยวทางเราจะส่ง Invite เข้าไปครับ
2
👍 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ 🙏😊
#ทันโลกกับTraderKP
โฆษณา