16 พ.ค. 2021 เวลา 08:34 • คริปโทเคอร์เรนซี
อะไรคือ เหรียญแห่งโลกอนาคต ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
3
เชื่อมั้ยคะ ว่าในแต่ละธุรกรรมทางการเงินของบิทคอยน์ ใช้พลังงานมากกว่ารูปแบบอื่นๆ ที่เคยมีมาในโลก! การโอนเงินแต่ละครั้ง ใช้พลังงานเท่ากับการโอนเงิน 735,121 ครั้งผ่านทาง Visa หรือเทียบเท่าการดู YouTube กว่า 55,280 ชั่วโมง และBitcoin ใช้พลังงานมากกว่าประเทศอาร์เจนติน่าทั้งประเทศรวมกันเสียอีก!!!
.
5
จริงๆ แล้ว Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft เคยพูดถึงผลเสียต่อสภาพแวดล้อมมานานมากแล้ว “If it's green, eventually, you know, maybe that's okay.” เขาไม่เห็นด้วยกับการลงทุนในบิทคอยน์ จนกว่าจะหาวิธีในการใช้พลังงานสะอาดทดแทนได้ ซึ่งความเป็นไปได้ในการหาพลังงานสะอาดมาทดแทนนั้นแทบไม่มี Bill Gates จึงเลือกที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์อย่างวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ มากกว่าค่ะ
.
1
การใช้พลังงานของ Bitcoin และ Ethereum คิดเป็น 90% ของอัตราการใช้พลังงานในระบบ
2
AltCoin ที่เหลือจึงถือว่าใช้พลังงานน้อยไปเลย แต่..เอ้า ถ้าเป็นแบบนี้ Bitcoin จะกลายเป็นลูกเมียน้อยมั้ยเนี่ย
#ทางออกที่พอเป็นไปได้สำหรับเหรียญBitcoin
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีนักลงทุนจำนวนมากที่เชื่อมั่นใน Bitcoin อย่าง Mark Cuban ที่ประกาศว่า จะไม่ยกเลิกการรับจ่ายด้วย Bitcoin อย่างแน่นอน เพราะ Bitcoin คือทองคำแห่งโลกอนาคต และส่งผลดีต่อสังคม และสภาพแวดล้อมต่างหาก!!!
นอกจากนี้ Jack Dorsey ตำแหน่ง CEO ของ Twitter ได้ให้สัญญาว่า ภายในปี 2030 จะทำให้คริปโตเคอเรนซี่ใช้พลังงานสะอาดทั้งหมด (Net-zero carbon emission) โดยลงทุนกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการคิดค้นเทคโนโลยีการผลิตคริปโตเคอเรนซี่ด้วยพลังงานสะอาด
10
และยังมีแนวทาง ตัวเลือกเพื่อทำให้ Bitcoin ใช้พลังงานลดลงคือ การใช้ Lightning Network เพื่อลดการสร้างบล็อก บนเทคโนโลยี Blockchain และยังช่วยให้การโอนเงินด้วย Bitcoin ง่ายขึ้น สามารถขยาย (Scalable) และทำให้การใช้ Bitcoin ในชีวิตประจำวันเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
.
2
#เหรียญแห่งโลกอนาคต
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า ในโลกของคริปโต ทุกสกุลเงินดิจิทัลทำงานบนเทคโนโลยี Blockchain และเพื่อความปลอดภัย เราต้องมีกลไกฉันทามติ (Consensus Mechanism) ซึ่งแบ่งเป็น
1
1. Proof of Work (PoW) ที่ใช้พลังงานสูงมาก อย่างการขุด Bitcoin และ Ethereum
2. Proof of Stake (PoS) ทางเลือกใหม่ที่ใช้พลังงานน้อยกว่า เช่น Binance Coin, Cardano, Polkadot, Stellar and Solana
ซึ่งแน่นอนค่ะว่า Altcoin ตัวอื่นๆ ใช้ระบบ PoS จึงรักษ์โลกมากกว่า และถูกเรียกว่าเหรียญแห่งอนาคต
2
มาดูกันว่า เหรียญไหนใช้พลังงานเท่าไหร่กันบ้าง?
(การวัดอัตราการใช้พลังงาน ใช้หน่วย เทอราวัตต์ชั่วโมง (TWh) ซึ่ง 1 TWh มีค่าเท่ากับ 1 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงs (kWh) = 1,000,000,000,000 วัตต์ต่อชั่วโมง)
3
- Bitcoin (BTC): 114 TWh
Carbon footprint ของ Bitcoin เท่ากับคาร์บอนไดออกไซด์ 54 ล้านเมทริกตัน ซึ่งมากกว่าการขุดทองกว่า 6 เท่า
- Ethereum (ETH): 44 TWh
Carbon footprint ของ Ethereum เท่ากับคาร์บอนไดออกไซด์ 22 ล้านเมทริกตัน แต่ ETH ประกาศว่ากำลังเปลี่ยนผ่านมาใช้รูปแบบ PoS แทนที่ เพื่อลดการใช้พลังงาน
- Dogecoin (DOGE): 7.8 TWh
เหรียญลูกรักของศาสดา Elon Musk ใช้พลังงานเท่ากับประเทศซิมบับเวทั้งปี
- Bitcoin Cash (CSH): 3.4 TWh
สำหรับ CSH ใช้พลังงานเท่ากับประเทศนิการากัว ที่ผลิตสินค้าและบริการมูลค่ารวมมากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
- Litecoin (LTC): 3.2 TWh
LTC นั้นใช้พลังงานเท่ากับเกาะจาไมกาทั้งปี
- Ethereum Classic (ETC): 1.7 TWh
- Monero (XMR): 1 TWh
- Bitcoin SV (BSV), Dash (DASH) and Zcash (ZEC): น้อยกว่า 1 TWh
.
4
#บทสรุป
ในปัจจุบันยังมีนักลงทุนระดับโลกอีกหลายคนอย่าง Mark Cuban และ Jack Dorsey ที่เชื่อและรักใน Bitcoin แต่สิ่งนี้ก็สะท้อนความจริงอีกด้านที่ไม่สวยหรูของ Bitcoin เช่นกัน
หรือว่านี่อาจเป็นโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ลองเปิดใจกับ AltCoin ตัวอื่นๆ ที่น่ารัก และมีดีไม่แพ้ Bitcoin เลยน้า แล้วเพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันบ้างคะ คอมเม้น แชร์กันมาได้น้า แล้วไว้เจอกันโพสต์หน้าค่า
แอดมายด์
1
โฆษณา