16 พ.ค. 2021 เวลา 19:25 • กีฬา
เฮือกสุดท้าย ! อลีสซงทะยานโขกต่อชีวิตหงส์ลุ้นตั๋ว UCL
ลิเวอร์พูล ยกพลไปเยือน เวสต์บรอมวิช โดยต้องการชัยชนะสถานเดียวเพื่อต่อลมหายใจในการลุ้นอันดับ 4 ต่อไป
"หงส์แดง"อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องชนะทุกนัดที่เหลือแล้วลุ้นให้ เลสเตอร์ ซิตี้ หรือ เชลซี สะดุดในช่วงที่เหลือนี้
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องทำผลงานของตัวเองให้ดีแล้วยังไปฝากความหวังกับทีมอื่นอีกต่างหาก
แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะโปรแกรมก็ดูเหมือนเป็นใจจากการที่ เลสเตอร์ กับ เชลซี จะต้องมาดวลกันเองในวันอังคารนี้ มันเลยเป็นการตัดแต้มกันเองโดยปริยาย
กระนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ "หงส์แดง" ต้องฟาดชัยในช่วงที่เหลือแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้ได้เสียก่อน
เริ่มต้นจากเกมกับ เวสต์บรอมวิช ที่แม้ว่าตกชั้นไปแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่งานที่ง่ายขึ้น เพราะทีมที่ไม่เหลือเป้าหมายอะไรแล้ว บางทีสามารถระเบิดฟอร์มน่าประทับใจขึ้นมาได้เหมือนกัน เพราะไม่เหลือความกดดันแล้ว
"เดอะ แบ็กกี้ส์" เคยทำแสบใส่ ลิเวอร์พูล มาแล้วในการเจอกันก่อนหน้านี้ใน พรีเมียร์ลีก โดยเสมอกัน 1-1 เมื่อปลายปีก่อน และเกือบทำได้อีกครั้งหลัง ฮัล ร็อบสัน-คานู ทำประตูนำ 1-0 ตั้งแต่ นาที 15
1
ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอสำเร็จจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใน นาที 33 และพยายามโหมบุกเพื่อยิงประตูเพิ่มเพราะด้วยสกอร์ 1-1 มันแทบจะปิดประตูสู่ท็อป 4 ได้เลย
แต่แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์ในช่วงทดเจ็บ นาที 90+5 "หงส์แดง" ได้ประตูแซงชนะ แถมคนที่เป็นฮีโร่คือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ใช่ ไม่ผิดหรอก ผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล นั่นแหละ
มันเหมือนอะไรๆ ก็เริ่มเป็นใจให้ ลิเวอร์พูล ทะยานขึ้นสู่อันดับ 4 จริงๆ แล้วล่ะ
และนี่คือประเด็นน่าสนใจจาก เดอะ ฮอว์ธอร์นส์...
- ฮีโร่เหนือความคาดหมาย
ในวันที่ ลิเวอร์พูล กำลังจะสิ้นหวังอยู่แล้ว พวกเขาได้อัศวินขี่ม้าขาวพาไปสู่ 3 คะแนนแสนล้ำค่า
และไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นเขาคนนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์!
1
อลีสซง ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ในจังหวะประตูที่เสียไป ทว่าหลังจากนั้นก็ทำได้ดีในจังหวะที่เหลือ โดยเฉพาะจังหวะเซฟลูกยิงของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ด้วย
แล้วในจังหวะแทบจะโค้งสุดท้ายของเกม อลีสซง ดันสูงขึ้นมาตามปกติที่ผู้รักษาประตูจะขึ้นมาลุ้นประตู แต่น้อยคนที่จะทำได้ และเขาก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้นแล้ว โดยเป็นนายทวารคนแรกของ "หงส์แดง" ที่ทำประตูให้สโมสร และเป็นคนแรกในยุค พรีเมียร์ลีก ที่ขึ้นมาโหม่งทำประตูได้ด้วย
- ติอาโก้ เริ่มฉายแสง
ติอาโก้ อัลกันตาร่า เริ่มที่จะแสดงให้เห็นว่าทำไมเขาถึงถูกกระชากตัวจาก บาเยิร์น มิวนิค มาค้าแข้งใน แอนฟิลด์ แล้ว
หลังจากได้ลงสนามต่อเนื่อง ติอาโก้ เริ่มพิสูจน์ให้เห็นว่าพร้อมเป็นเสาหลักในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล
ติอาโก้ โชว์ฟอร์มระดับ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เลยในการบัญชาเกมจากตรงกลางสนาม ทั้งการหาพื้นที่และการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทัพอย่างแม่นยำรวมถึงการวิ่งสอดขึ้นไปเสริมเกมรุก
ไม่ใช่แค่นั้น ติอาโก้ ยังครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น ไม่มีปัญหากับการเจอเพรสซิ่งจากนักเตะของ เวสต์บรอมวิช เลย
- การกลับมาของ มาเน่
ลิเวอร์พูล ได้รับข้าวร้ายก่อนเกมเมื่อ ดีโอโก้ โชต้า ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าจากเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนหมดสิทธิ์ลงเล่นในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้แล้ว
มันเลยเป็นโอกาสของ ซาดิโอ มาเน่ ในการได้แก้ตัวหลังเกมที่แล้วกลายเป้นประเด็นร้อนด้วยการแสดงความไม่พอใจปฏิเสธการจับมือกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง
ความมั่นใจของ มาเน่ ดูเหมือนยังไม่กลับมาอย่างที่เขายอมรับเองว่านี่คือฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดของเขาแล้ว
แต่อย่างน้อย มาเน่ ก็ทำแอสซิสต์หลังปรี่เข้าไปทิ่มบอลเข้าทางปืน ซาลาห์ ปั่นโค้งเสียบตาข่ายเป็นประตู 1-1
- วีเออาร์ เป็นใจ
ลิเวอร์พูล เกือบไม่ได้พบค่ำคืนที่น่าตื่นตื่นใจนี้แล้ว ถ้าเกิดว่าโดนนำ 2-1 ไปก่อน
ในจังหวะที่สกอร์ยัง 1-1 เวสต์บรอมวิช ส่งบอลตุงตาข่ายได้อีกครั้งจาก ไคล์ บาร์ทลี่ย์ ที่เทกตัวโหม่งลูกเตะมุมเข้าไปได้อย่างใสสะอาด
แต่กลายเป็นว่า "เดอะ แบ็กกี้ส์" ชวดได้ประตุหลัง วีเออาร์ แจ้งว่ามันเป็นลูกล้ำหน้าของ แมตต์ ฟิลลิปส์ ที่แม้ไม่ได้โดนบอล แต่ดันไปยืนในเหลี่ยมที่ถือว่าบังวิสัยทัศน์ของ อลีสซง
ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเสียประโยชน์จาก วีเออาร์ บ่อยครั้งในซีซั่นนี้ และการได้ประโยชน์จากมันบ้างในครั้งนี้อาจเป็นครั้งที่ทำให้พวกเขามีความสุขมากที่สุดแล้ว
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา