17 พ.ค. 2021 เวลา 11:00 • กีฬา
[ เซลบี้, เลสเตอร์ และการต่อสู้ ]
1
แม้ว่าเรื่องที่ผมละเลงตัวอักษรลงบนแป้นพิมพ์อีเล็กทรอนิกส์ในวันนี้อาจจะโยงไปไกลถึงกีฬาสนุ๊กเกอร์และฟุตบอลอังกฤษ แต่ผมเชื่อว่าการที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ นั้นสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้
.
ขอเริ่มจากเรื่องของสนุ๊กเกอร์ก่อนเลยแล้วกัน เพราะมันเป็นเรื่องที่บังเอิญแบบเหลือเชื่อว่าทุกครั้งที่จิ้งจอกสยามสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ มาร์ค เซลบี้ นักสอยคิวชื่อก้องโลกซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ เลสเตอร์ ก็จะได้แชมป์ไปด้วย
.
ปี 2014 เลสเตอร์ เลื่อนชั้นจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ กลับสู่ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบนับสิบปี
.
ปี 2014 เซลบี้ คว้าแชมป์สนุ๊กเกอร์โลก (ครั้งแรกของตัวเอง) ด้วยการเอาชนะ รอนนี่ โอซัลลิแวน โคตรนักสอยคิวแห่งยุคได้อย่างเหลือเชื่อ
.
ปี 2016 เลสเตอร์ ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
.
ปี 2016 เซลบี้ คว้าแชมป์สนุ๊กเกอร์โลก (ครั้งที่ 2 ของตัวเอง) ด้วยการเอาชนะ ติง จิ้น ฮุย นักสอยแม่นรูมือดีชาวจีน
.
ปี 2017 เลสเตอร์ สร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกครั้งด้วยการทะลุถึงรอบ 8 ทีม สุดท้ายในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
.
ปี 2017 เซลบี้ คว้าแชมป์สนุ๊กเกอร์โลก (ครั้งที่ 3 ของตัวเอง) ด้วยการเอาชนะ จอห์น ฮิกกิ้นส์ นักสอยคิวชั้นนำที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งของรายการนี้มาแล้วถึง 4 หน
.
ปี 2021 เลสเตอร์ ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 137 ปี ของสโมสร
.
ปี 2021 เซลบี้ คว้าแชมป์สนุ๊กเกอร์โลก (ครั้งที่ 4 ของตัวเอง) ด้วยการเอาชนะ ฌอน เมอร์ฟี่ หนึ่งในนักสอยคิวที่คู่แข่งครั่นคร้ามมากที่สุด
.
เซลบี้ ประกาศตัวแบบโต้งๆ เลยว่าคลั่งไคล้ เลสเตอร์ แบบฝังลึก ก็เพราะเขาเกิดและโตที่เมืองนี้ และก็มีกีฬาเป็นเครื่องนำพาชีวิต ทว่าสนุ๊กเกอร์เป็นสิ่งที่เขาฝึกฝนมาตั้งแต่เล็ก เพราะการชักชวนของ วิลลี่ โธร์น อดีตนักสอยคิวชาวอังกฤษ ที่เห็นแววหมอนี่ตอนอายุ 8 ขวบ
.
ชีวิตในวัยของ เซลบี้ ไม่ได้โสภาเลย เขาถูกคุณแม่ทอดทิ้งไปตั้งแต่อายุแค่ 8 ขวบ แถมพอตอนที่ตนเองเริ่มพัฒนาฝีมือเรื่องสนุ๊กเกอร์จนได้แชมป์ระดับเยาวชน ตนเองกลับต้องมาเสียคุณพ่อไปจากโรคมะเร็งตอนที่เข้าสู่วัย 16
.
เด็กชาย มาร์ค ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวของเพื่อน รวมไปถึงบางครั้งบางคราก็ไปอาศัยหลับนอนที่บ้านของ อลัน เพอร์กิ้นส์ โค้ชสนุ๊กเกอร์
.
ด้วยความโดดเดี่ยวทำให้ เพอร์กิ้นส์ ผู้เป็นโค้ชสนุ๊กเกอร์ของเขาต้องคอยประคบประหงมจน เซลบี้ สามารถยืนหยัดบนโลกกว้างได้ และในที่สุดเขาก็ได้เทิร์นโปรในปี 1999 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวก็อายุ 16 ปี นั่นแหละ
.
แน่นอนว่าด้วยความที่ไม่ประสาในการเล่นอาชีพ ช่วงแรกๆ ของเขาในวงการสอยคิวนั้นพี่แกตกรอบเป็นว่าเล่น แถมยังถูกค่อนขอดด้วยว่ามีฝีมือธรรมดา หาใช่ 'ดาวรุ่ง' ที่ได้รับการยกย่องไม่ เพราะส่วนใหญ่แล้วนักสนุ๊กเกอร์ที่เทิร์นโปรในปีแรกมักจะสร้างความหวือหวาได้เสมอ
.
เซลบี้ ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองต่ออย่างไม่หยุดยั้ง และกว่าจะเข้ารูปเข้ารอยก็ปาไปปี 2011 ถึงจะเข้ามาอยู่ในท๊อป 100 ของโลกได้
.
ทว่านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาค่อยๆ ทำผลงานได้ดีขึ้น-ดีขึ้นจนก้าวสู่การเป็นแชมป์โลกถึง 4 ครั้ง แม้ว่าสไตล์การเล่นของพี่แกจะไม่ค่อยเป็นที่ปลื้มของแฟนๆ ก็ตาม ทว่าในมุมของนักกีฬาอาชีพด้วยกัน ทุกคนต่างก็ต้องหวาดหวั่นเมื่อเผชิญกับ เซลบี้ ตัวต่อตัว
.
ขณะเดียวกัน เลสเตอร์ สโมสรรักของ เซลบี้ ก็มีเรื่องราวที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน และเรื่องที่ว่านั้นมาจากชนวนเล็กๆ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ สนามเหย้าของ เชลซี ในปี 2005
.
ย้อนกลับไปก่อนการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา และครอบครัวเข้าไปชมเกมถ้วยยุโรป
.
ทว่าเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งตอนนั้นการ์ดสนามเกือบเอาเครื่องสแกนวัตถุมากระแทกที่คาง ทำให้เขาต้องเอามือปัด และแน่นอน การ์ดสนามก็ไม่พอใจ
.
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้คุณ วิชัย รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตั้งใจเข้าไปชมเกมในฐานะลูกค้าของสโมสร ซึ่งเขาเองก็ลงเงินสนับสนุนด้วยการซื้อบอร์ดลงโฆษณา คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี ในสมัยนั้น จนเจ้าตัวต้องส่งจดหมายไปถึงผู้บริหารเพื่อตำหนิการกระทำของการ์ดสนาม
.
จากเหตุการณ์นั้นทำให้อดีตประธานสโมสร เลสเตอร์ ผู้ล่วงลับตัดสินใจที่จะไม่เดินทางไปชมเกมการแข่งขันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกต่อไปในฐานะแฟนฟุตบอล
.
เขาหล่นประโยคหนึ่งกับลูกชายของตนเองอย่างคุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรคนปัจจุบันของ เลสเตอร์ ว่า “วันหนึ่งเราจะซื้อทีม แล้วเอามาสู้ เชลซี ให้ได้”
.
จากประวัติศาสตร์แชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-16 ต่อด้วยถ้วย เอฟเอ คัพ 2020-21 นั่นคือสิ่งที่คุณ วิชัย พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาจริงจังกับการทำทีมฟุตบอล
.
นับตั้งแต่เข้ามาเทกโอเวอร์ เลสเตอร์ ในปี 2011 เขาสร้างจิ้งจอกสยามที่เคยอยู่ท้ายตารางสู่การเป็นสโมสรชั้นนำของประเทศอังกฤษ
.
และโทรฟี่ล่าสุดอย่าง เอฟเอ คัพ ก็ทำสำเร็จด้วยการเอาชนะ เชลซี ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาเคยพูดไว้ว่าวันหนึ่งจะมาสู้ให้ได้
.
เป็นอีกครั้งที่ประวัติศาสตร์ได้ถูกจารึกไว้กับ 137 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
.
ที่ผมเกริ่นมาคือเรื่องราวของ เซลบี้ และ เลสเตอร์ ที่บังเอิญเหมือนกันในแง่มุมของ 'ความสำเร็จ'
.
ทว่าในความเหมือนของความสำเร็จที่ได้มาคุณต้องอย่าลืมว่ามันคือ 'การต่อสู้กับอุปสรรค' ที่ขวางกั้นอยู่ข้างหน้า
.
เซลบี้ ต่อสู้กับจิตใจตัวเองที่ต้องโดดเดี่ยวตั้งแต่ตนเองยังอายุเพียง 16 ปี แถมพอเข้าสู่เส้นทางอาชีพก็ยังถูกเย้ยหยันว่าฝีมือดาดๆ อีกต่างหาก
.
แต่เขาก็เอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้โดยการค่อยๆ พัฒนาตนเองสู่การเป็นนักสนุ๊กเกอร์ที่เก่งที่สุดในโลก ด้วยการโค่นมือพระกาฬทั้ง รอนนี่ โอซัลลิแวน, จั๊ด ทรัมป์, ฌอน เมอร์ฟี่, นีล โรเบิร์ตสัน, ติง จิ้น ฮุย, จอห์น ฮิกกิ้นส์ หรือแม้แต่ เจมส์ วัฒนา (ต๋อง ศิษ์ฉ่อย) ต่างก็ถูก เซลบี้ เอาชนะมาแล้วทั้งสิ้น
.
ขณะที่ 'การต่อสู้' ของประธานสโมสรชาวไทย ของ เลสเตอร์ นั้นก็ต้องเผชิญหน้ากับแรงต่อต้านของแฟนฟุตบอลท้องถิ่นที่ลึกๆ แล้วก็ไม่ได้นิยมชมชอบชนชาวเอเชีย สักเท่าไหร่
.
ไหนจะเรื่องของการที่อยู่ท่ามกลางบรรดายักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส และแน่นอน...เชลซี ผู้จุดไฟทะยานอยาก
.
ใครเล่าจะไปคิดว่าลีกที่ได้ชื่อว่า 'แข็งแกร่ง' ที่สุดในโลกของฟุตบอลอย่าง พรีเมียร์ลีก จะมีแชมป์ที่ชื่อว่า เลสเตอร์ สโมสรที่ก่อนหน้านี้มีเพียงถ้วย ลีก คัพ 3 หน เป็นเกียรติประวัติ
1
.
ทุกอย่างเปลี่ยนไปนับตั้งแต่คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสร เขาเอาชนะ ‘ใจ’ คนเมืองเลสเตอร์ แบบทุกห้องประตู ชนะใจนักเตะแบบที่ไม่ค่อยจะได้เห็นที่ใดมาก่อนในแวดวงลูกหนัง
.
นี่แหละครับความเจ๋งของคนที่ 'ต่อสู้กับอุปสรรค' แบบไม่ย่อท้อ
.
การรอคอยน่ะมันเป็นอะไรที่อาจจะทรมานและระหว่างทางมันย่อมมีขวากหนามให้เราต้องท้อแท้ แต่คิดเสียว่ามันคือบททดสอบของ 'คนจริง'
.
คนท้อ 'ไม่แท้' - คนแท้ 'ไม่ท้อ' คำๆ นี้ใช้ได้กับทุกยุคสมัย
.
และผลของการรอคอยมักจะมี 'ความสำเร็จ' รออยู่เสมอ
.
อย่างที่ เซลบี้ และ เลสเตอร์ ทำให้คุณเห็นนั่นแหละ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา